ในอดีตภัยจากแสงสีน้ำเงินต้องอาศัยเวลานานพอสมควรกว่าจะแสดงให้เห็นผลเสีย ด้วยเหตุนี้จอประสาทตาเสื่อมจึงมักพบในผู้ป่วยที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรูปแบบชีวิตที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน คนยุคใหม่ติดนิสัยนอนดึก ใช้สายตามากขึ้น ทั้งระหว่างวันยังต้องจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ในที่ทำงาน เวลาว่างก็เล่นมือถือ ดูโทรทัศน์ ดวงตาจึงถูกรบกวนจากแสงสีน้ำเงินเกือบตลอดเวลาเป็นเวลานาน ทำให้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จำนวนผู้ป่วยโรคจอประสาทตาเสื่อมในคนอายุน้อยมีมากขึ้นเรื่อยๆ และมีแนวโน้มว่าจะไม่ใช่โรคที่เกิดขึ้นแต่ในผู้สูงวัยอีกต่อไป
แสงสีน้ำเงินแม้จะอันตราย แต่ยังไงก็ยังคงต้องมีแสงสีนี้
แม้ว่าการได้รับแสงสีน้ำเงินมากเกินไปจะเป็นอันตรายต่อดวงตา แต่ธรรมชาติของมนุษย์มีเซลล์รับแสงที่สามารถจำแนก 3 สีหลัก ได้แก่ แสงสีแดง แสงสีเขียว และแสงสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นพื้นฐานการสังเคราะห์สีทั้งหมด ในขณะเดียวกัน แสงสีน้ำเงินก็เป็นแหล่งที่มาของแสงที่มองเห็นในที่มืด หากเรากำจัดแสงสีน้ำเงินออกไปจนหมด สิ่งต่างๆ บนโลกที่สัมพันธ์กับแสงสีน้ำเงินออกไปจนหมด สิ่งต่างๆ บนโลกที่สัมพันธ์กับแสงสีน้ำเงินที่เรามองเห็นได้ก็จะปราศจากสีน้ำเงิน สีขาวก็จะกลายเป็นสีเหลือง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นสีน้ำเงินจะกลายเป็นสีดำ เกิดการผิดเพี้ยนของสีอย่างรุนแรง และยิ่งกลายเป็นภาระหนักแก่ดวงตามากขึ้น
เลนส์กรองแสงสีน้ำเงินที่มีจำหน่ายทั่วไปสามารถกรองแสงได้ 10-40% แม้จะมีบางชนิดที่มีประสิทธิภาพจากการกรองแสงสูงเกินความจำเป็น แต่เมื่อเทียบกับผลกระทบที่รุนแรงจากอุปกรณ์ไอทีแล้วก็นับว่าคุ้มค่าต่อการปกป้องดวงตา การสวมแว่นตากรองแสงสีน้ำเงินจะช่วยให้รู้สึกสบายตาขึ้น และป้องกันไม่ให้ดวงตาอ่อนล้าได้ง่าย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน
ลองมาดูข้อปฏิบัติเพื่อหลีกเลี่ยงภัยดวงตาจากอุปกรณ์ไอทีกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
- พักสายตาอย่างน้อย 10 นาทีทุกๆ 30 นาที เมื่อใช้อุปกรณ์ไอที เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต ฯลฯ
- อย่าปรับค่าความสว่างหน้าจอของอุปกรณ์ไอทีจนสว่างเกินไป
- ไม่ควรใช้อุปกรณ์ไอทีในที่มืด เพื่อป้องกันไม่ให้แสงสว่างจากหน้าจอส่งผลร้ายต่อดวงตา
- ควรติดฟิล์มกรองแสงสีน้ำเงินและรังสียูวีที่หน้าจออุปกรณ์ไอที หรือสวมแว่นตากรองแสงสีน้ำเงินที่เหมาะสม
- หากดวงตามีอาการผิดปกติ เช่น เห็นเงาดำ พร่าเลือน หรือเห็นภาพกะพริบถี่ๆ ควรรีบปรึกษาจักษุแพทย์
เราต้องไม่ลืมนะคะว่า “ดวงตา” ของคนเรามีความละเอียดอ่อนและต้องการดูแลเป็นพิเศษ ยิ่งเมื่ออายุมากขึ้นบวกกับปัจจัยกระตุ้นอื่น ๆ อย่างที่บอกไปโดยเฉพาะอุปกรร์ไอทีในยุคที่เทคโนโลยีครองเมืองแบบนี้ยิ่งทำให้ดวงตาเหนื่อยล้าและเสื่อมก่อนวัยได้ง่ายขึ้น ดังนั้น การดูแลสายตาอย่างถูกวิธีจะช่วยถนอมสายตาให้แข็งแรงและสดใสอยู่กับคุณไปนานเท่านานค่ะ
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ