รักษาสิวเสี้ยน
รักษาสิวเสี้ยน อย่างไรไม่ให้ลุกลามกลายเป็นสิวอักเสบและทิ้งรอยแผลให้ช้ำใจ โดย สิวเสี้ยน เราอาจเรียกอีกอย่างว่าสิวอุดตันได้ โดยจะเป็นสิวเม็ดเล็กๆ ที่เรามักเห็นเป็นสีดำ ในบางคนอาจเห็นเป็นสีขาว โดยมักขึ้นบริเวณจมูกและข้างจมูก
อันที่จริงแล้วสิวเสี้ยนเหล่านี้เกิดจากการอุดตันของรูขุมขน โดยปกติสิวชนิดอื่นหัวมักจะปิด แต่สิวเสี้ยนจะมีลักษณะหัวเปิด ซึ่งเกิดจากขนอ่อนๆ บริเวณดังกล่าวไม่หลุดล่วงไป แล้วไปรวมตัวกับน้ำมันจากต่อมไขมันและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว โดยเซลล์ผิวหนังที่ตายเหล่านี้เมื่อสัมผัสกับออกซิเจนในอากาศก็จะเกิดเป็นสีดำหรือสีขาวขุ่นขึ้น ทำให้รูขุมขนบริเวณนั้นอุดตัน เกิดเป็นสิวเสี้ยนขึ้นมา ซึ่งสิวเสี้ยนอุดตันหัวดำหัวขาวนอกจากบริเวณจมูกแล้ว ยังสามารถเกิดขึ้นบริเวณอื่นของร่างกายที่มีรูขุมขนได้ด้วย เช่น คาง หลัง ลำคอ หน้าอก และหลัง
โดยการเกิดสิวดังกล่าวเป็นกระบวนการทางธรรมชาติของร่างกาย ไม่ได้มีความสัมพันธ์กับการทำความสะอาดผิวหน้าแต่อย่างใด แต่ถ้าหากเราดูแลผิดวิธีก็ทำให้อาการแย่ลงหรือเกิดการอักเสบตามมาได้
สาเหตุสิวเสี้ยนและปัจจัยที่ทำให้เกิดการอักเสบตามมา
- อายุและการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยสิวเสี้ยนหรือสิวอุดตันจะพบมากในกลุ่มวัยเจริญพันธุ์ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศที่ถูกสร้างมากขึ้นมีผลต่อการผลิตน้ำมันของต่อมไขมันที่มากขึ้นด้วย โดยเกิดได้ทุกช่วงวัย เพียงแต่ในช่วงอายุ 11 – 30 ปีจะมีโอกาสมากกว่า เพราะฮอร์โมนที่มีอิทธิพลกับการทำงานของต่อมไขมัน คือ แอนโดรเจน (Androgen) เป็นฮอร์โมนเพศชาย ซึ่งในผู้หญิงก็มีการสร้างฮอร์โมนนี้เช่นกันแต่น้อยกว่า
- การใช้ยาคุมกำเนิด การตั้งครรภ์ หรือช่วงเวลาก่อนมีประจำเดือน โดยในผู้หญิงบางคนการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนช่วงเวลาดังกล่าวก็ทำให้เกิดสิวอุดตันหรือสิวเสี้ยนมากขึ้น บางรายเกิดการอักเสบร่วมด้วย ซึ่งจะพบได้บ่อยบริเวณจมูกและคาง
- การใช้ยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ ทำให้โครงสร้างของผิวเปลี่ยนแปลง ทำให้ผิวอ่อนแอลง ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่อาจทำให้สิวเสี้ยนกลายเป็นสิวอักเสบได้
- มลภาวะและแสงแดด ส่งผลต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น ทำให้ผิวเกิดการอุดตันง่าย
- การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเส้นผมที่ไม่เหมาะสม เช่น ใช้ครื่องสำอางที่มีผลต่อการอุดตัน ครีมบำรุงผิวที่มีความมันมากเกินไป ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่มีส่วนผสมของครีมบำรุงมากเกินไป หรืออาจเกิดจากสารเคมีในผลิตภัณฑ์แต่งทรงผมและน้ำยาย้อมสีผม
- พฤติกรรมที่ทำลายความแข็งแรงของผิว เช่น เมื่อเกิดสิวอุดตันหรือสิวเสี้ยนแล้ว บีบ แกะ หรือเกาบริเวณที่เป็นสิว รวมถึงการโกนและนวดใบหน้าที่ไม่ถูกวิธี ล้างหน้าหรือเช็ดหน้าแรง หรือล้างหน้าบ่อยเกินไปทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามาก ผิวเกิดการอุดตันได้ง่าย
รักษาสิวเสี้ยน
เพื่อลดปริมาณของสิวเสี้ยนที่ถูกวิธี และไม่ก่อให้เกิดสิวอักเสบ
- การใช้สครับบริเวณสิวเสี้ยน การสครับผิวเพื่อให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน โดยเลือกใช้สครับสำหรับผิวที่บอบบาง ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและไม่ทำให้ผิวบริเวณนั้นแห้งเกิน โดยควรสครับผิวเพียงแค่สัปดาห์ละ 1 ครั้ง อย่างเบามือ ซึ่งถ้าหากสครับบ่อยครั้งเกินไปอาจทำให้ผิวบริเวณนั้นบอบบาง และรูขุมขนกว้างด้วย อาจเลือกเป็นสครับจากธรรมชาติ เช่น น้ำตาลทรายขาวผสมกับน้ำผึ้ง
- การลอกสิวเสี้ยน เป็นวิธีการรักษาสิวเสี้ยนที่ถูกวิธี แต่ไม่ควรทำบ่อยเกินไป เพราะ จะทำให้ผิวบริเวณดังกล่าวแห้งและลอกได้ ซึ่งปัจจุบันก็มีผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการลอกสิวเสี้ยนขายตามท้องตลาดมากมาย ทั้งชนิดแผ่นแปะ โคลนมาร์ค หรือในบางคนอาจชอบใช้วิธีธรรมชาติ เช่นการใช้ไข่ขาว เจลาตินผสมนมวัว ก็แล้วแต่ความชอบ แต่ไม่แนะนำให้ใช้กาวตาช้างในการลอกสิวเสี้ยน เพราะค่อนข้างสร้างความระคายเคือง
- เลือกใช้เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ที่ดูแลผิวที่ไม่มันมากเกินไป และควรเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางให้สะอาด ถึงแม้ไม่ได้แต่งหน้าก็ควรเช็ดทำความสะอาดคราบความมันและสิ่งสกปรกออกจากผิวทุกวัน
- ดูแลรักษาอุปกรณ์ที่ใช้ในการแต่งหน้าให้สะอาดยู่เสมอ
- ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่ไม่มีความมัน มีส่วนประกอบของน้ำหรือส่วนประกอบจากสารที่มาจากธรรมชาติเป็นหลัก
- ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากธรรมชาติที่มีส่วนช่วยในการลดการอักเสบ เช่น ชาเขียว, โรสออยล์, ว่านหางจระเข้ และต้นไทม (Thyme) เป็นต้น
- การใช้ยา เช่น Benzoyl peroxide, AHA, BHA, Azelaic acid, Salicylic acid, ยากลุ่ม Retinoids เช่น Differin หรือ Retin เป็นต้น จะช่วยลดการทำงานของต่อมไขมัน แต่การใช้ยากลุ่มดังกล่าวก็ค่อนข้างระคายเคืองเช่นกัน จึงควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์
- การรักษาโดยเลเซอร์ เพื่อลดการทำงานของต่อมไขมัน และช่วยกระชับรูขุมขน
คำแนะนำโดย