4 วิธีคลายเครียด เยียวยาความทุกข์ คิดบวกเป็นสองเท่า
เชื่อว่าขึ้นปีใหม่2021 นี้ หลาย ๆ คนคงตั้งเป้าหมายใหม่ ๆ ให้กับชีวิต เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่การผจญภัยของชีวิตในปีใหม่นี้ Goodlife แนะนำวิธี เยียวยาความทุกข์ และแนวทางขจัดความเครียด พร้อมวิธีเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้คิดบวกเป็นสองเท่ากันค่ะ
ความเครียด สาเหตุหลักของปัญหาสุขภาพ
จากผลสำรวจคะแนนสุขภาพและความเป็นอยู่แบบ 360° ของซิกน่า พบว่า “ความเครียด” คือจุดศูนย์กลางแห่งปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งในด้านสุขภาพกาย และสุขภาพจิตของคนไทย ซึ่งผลกระทบดังกล่าวนั้นสามารถสร้างความเสียหายถึงชีวิต
วิธีคลายเครียดแบบง่ายๆ ตาม PLAN
-
เลือกช่วงเวลาว่างในแต่ละวันและคิดถึงสิ่งต่าง ๆ ในแง่บวก (P : Period of time to unwind)
หากคุณกำลังตกอยู่ในสภาวะความเครียด ไม่ว่าจะกับเรื่องอะไรก็ตาม อันดับแรกให้นั่งพักสักครู่แล้วสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อผ่อนคลายตนเอง แล้วคิดถึงสิ่งต่าง ๆ ในแง่บวก และใช้เวลาหนึ่งครั้งต่อสัปดาห์ในการทบทวนเป้าหมายที่คุณตั้งไว้เพื่อจัดการกับระดับความเครียดของคุณให้ดียิ่งขึ้น
-
ผ่อนคลายตนเองด้วยวิธีง่ายๆ (L : Location that is stress reducing)
การผ่อนคลายเพื่อลดความเครียดนั้นทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการผ่อนคลายทางร่างกาย หรือทางจิตใจ เช่น การฝึกหายใจ การออกกำลังกาย การฝึกเกร็งและคลายกล้ามเนื้อ การนวด การรับประทานอาหาร การอาบน้ำอุ่นหรือ การสร้างอารมณ์ขัน การดูภาพยนตร์ การฟังเพลง การทำสมาธิ หรือ ไปยังสถานที่จะช่วยให้คุณมีสมาธิและสบายใจ เป็นต้น
-
ค้นพบให้เจอว่าแท้จริงแล้ว ความสุขในชีวิตคืออะไร (A : Activity to enjoy)
หากชีวิตของคุณต้องเจอกับเรื่องราวต่าง ๆ มากมายที่เข้ามาบั่นทอนหัวใจจนทำให้เสียทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต ในกรณีที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้คุณลองมานั่งทบทวนตัวเอง หาความสุขที่แท้จริงในชีวิต บางทีสิ่งที่คุณคิดว่าทำแล้วมีความสุข เช่น การทำงานวนลูปติดกันตลอด 24/7 นั้น อาจจะเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดความเครียดชั้นดีเลยทีเดียว หากคุณลองหาอะไรทำที่ไม่ต้องยึดติดกับสิ่งต่าง ๆ เลือกกิจกรรมที่ไม่ต้องลงทุนอะไรมากมายแต่สามารถสร้างแรงบันดาลใจ และทำให้คุณสนุกได้ หรือแม้กระทั่งการมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับคนรอบตัวก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้คุณสามารถหลุดออกจากวังวนความเครียดนั้นไปได้อีกทางหนึ่ง
-
รับพลังงานบวกจากคนรอบข้าง (N : Name a person to talk to)
ลองนึกถึงชื่อของคนที่คุณสามารถพูดคุยเรื่องต่าง ๆ รวมไปถึงความเครียดของคุณได้ บางทีการได้ระบายเรื่องอึดอัดใจให้คนรอบตัวฟังก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด เพียงแต่ต้องแน่ใจแล้วว่าผู้ฟังสามารถรับฟังและมอบพลังงานเชิงบวกกลับมาให้คุณได้
Burnout Syndrome หรือ ภาวะหมดไฟในการทำงาน
นอกจากภาวะความเครียดแล้วแล้ว ยังมีอีกหนึ่งอาการยอดนิยมที่กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมากในกลุ่มคนวัยทำงาน ได้แก่ Burnout Syndrome หรือ ภาวะหมดไฟในการทำงาน ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดความเครียดและการขาดแรงจูงใจในการทำงาน ซึ่งหากคุณกำลังสงสัยว่าตัวเองตกอยู่ในภาวะหมดไฟในการทำงานรึเปล่า ควรเช็คให้ชัวร์และหาทางป้องกันแต่เนิ่น ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้คุณรู้สึกว่าขาด Passion ในการทำงานและส่งผลให้เกิดเป็นภาวะความเครียดสะสมนั่นเอง
ภาวะหมดไฟเป็นสิ่งน่ากลัวมากกว่าที่คุณคิด เนื่องจากเป็นปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดและหลอดเลือดหัวใจ เพราะมีความเกี่ยวข้องกับความเครียดและฮอร์โมน Cortisol
หากคุณเข้าข่ายการเป็นโรคดังกล่าว วิธีแก้ไขนั้นอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม เพราะสามารถใช้วิธีจัดการกับปัญหาแบบเดียวกับการรักษาอาการเครียดได้เลย
- เริ่มต้นด้วยการจัดลำดับความสำคัญในชีวิตเสียใหม่ ด้วยการแบ่งเวลาในแต่ละวันออกเป็น 3 ส่วน คือ ทำงาน 8 ชั่วโมง นอนหลับ 8 ชั่วโมง และพักผ่อนหย่อนใจคลายเครียดอีก 8 ชั่วโมง
- ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที 3 วันต่อสัปดาห์
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์นั่นเอง
จากที่ได้กล่าวมาทั้งหมด หากคุณอยากรู้ว่าตัวคุณเองตกอยู่ในสภาวะความเครียดหรือไม่ หรืออยู่ในระดับใด สามารถไปค้นหาความเครียดในตัวคุณได้เลยที่แบบทดสอบออนไลน์ https://www.cigna.co.th/mystressplan
เรื่องความเครียดและภาวะหมดไฟในการทำงานเป็นเรื่องน่ากลัว แต่หากคุณมีการเตรียมความพร้อมและหมั่นฝึกฝนให้ตนเองคิดบวกอยู่เสมอ เพียงเท่านี้คุณก็จะมีทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดีอย่างแน่นอน!
บทความเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- 15 ไอเดีย สร้างลุคคลีนๆ ให้สวยเก๋ดูดีด้วยการ แมทช์ชุดสีขาว ทั้งตัว -GL Fashion-
- 5 ขั้นตอน วางแผน จัดการเงินเดือน เงินพอใช้ มีเหลือเก็บ ไม่ต้องกินมาม่าช่วงปลายเดือน
- 5 เรื่องดีๆ ที่ควรนึกถึงหลังตื่นนอน เพิ่มแรงบันดาลใจ ในเช้าวันใหม่
- 5 เคล็ดลับ พัฒนาความสัมพันธ์ ดึงดูดฝ่ายตรงข้ามให้เข้าหา
- 6 ขั้นตอนสำคัญในการ แต่งหน้าโทนนู้ด แบบสาวตาน้ำข้าว ยังไงให้สวยสะกด
