กินยาคุมครั้งแรก

เริ่มกินยาคุมต้องรู้อะไรบ้าง? 14 เรื่องที่สาวๆ ควรรู้ก่อนเริ่มกินยาคุมกำเนิดครั้งแรก

เชื่อว่ามีสาวๆจำนวนไม่น้อย ที่อยากจะเริ่มกินยาคุมกำเนิดครั้งแรก แต่ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มยังไงดี ไม่ว่าจะต้องเริ่มทานจากตัวไหน ตัวไหนช่วยเรื่องอะไรบ้าง แล้วต้องทานยังไง หรือมีผลข้างเคียงอะไรมั้ย จนทำให้หลายๆคนไม่กล้าที่จะเริ่มทานยาคุมเสียที หรือบางคนอาจจะกำลังเจอปัญหาเรื่องฮอร์โมนในร่างกายไม่ปกติ ประจำเดือนมามากน้อย หรือไม่ตรงเวลาที่ควรจะมา

วันนี้ GL ขอพาสาว ๆ มาทำความรู้จักกับยาคุมกำเนิดให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวิธีกินยาคุมกำเนิด 21 เม็ด วิธีกินยาคุมกำเนิด 28 เม็ด
หรือควรจะเลือกทานยาตัวไหนที่จะเหมาะสมกับเรา เพื่อให้การกินยาคุมครั้งแรกเป็นไปอย่างถูกต้องและปลอดภัยมากขึ้น ไปดูกันเลย!

เรื่องที่ 1 : ยาคุมกำเนิด และยาปรับฮอร์โมน เหมือนหรือต่างกันอย่างไร

โดยส่วนมากที่เราพบเห็นกัน มักจะเป็นยาคุมกำเนิดที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนรวมอยู่ด้วย ซึ่งจะมีความสามารถในการคุมกำเนิดได้ และช่วยปรับฮอร์โมนให้สมดุลมากยิ่งขึ้น แต่ก็มีการใช้ยาปรับฮอร์โมนชนิดที่ไม่มีผลต่อการคุมกำเนิดด้วยเช่นกัน ก็คือการรับยาเพื่อปรับฮอร์โมนให้สมดุล แต่ไม่สามารถคุมกำเนิดได้ ซึ่งไม่ว่าเราจะเลือกทานแบบไหนก็ควรที่จะปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย และเหมาะสมกับร่างกายของเรานะคะ

เรื่องที่ 2 : กินยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมนแบบ 21 เม็ด หรือ 28 เม็ดต่างกันอย่างไร 

วิธีกินยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมน 21 เม็ด

ยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมน 21 เม็ด เป็นยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนรวม จะมีทั้งหมด 21 เม็ด โดยจะประกอบไปด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจน และฮอร์โมนโปรเจสติน ที่มีความสามารถในการคุมกำเนิด โดยแผงยาแบบ 21 เม็ดส่วนมากมักจะระบุไว้ว่าเป็นวันจันทร์ อังคาร อยู่ด้วย ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการทานยาตามวัน และทำให้เรารู้ว่าเราลืมทานยาวันไหนไปบ้างรึเปล่า ซึ่งแผงยาคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ดนั้นทุกเม็ดจะมีปริมาณของฮอร์โมนที่เท่ากันหมด

กินตามวันที่ระบุในแผงอย่างต่อเนื่อง 21 วัน ในเวลาเดิม
และเว้นการกินยาคุม 7 วันหลังทานหมดแผง
เพื่อเป็นช่วงที่ปลอดฮอร์โมน ทำให้มีเลือดประจำเดือนออกตามปกติ

ในการกินยาคุมแบบ 21 เม็ด โดยส่วนมากแล้วจะมีลูกศรระบุไว้บนแผงเพื่อง่ายต่อการทำความเข้าใจ จำเป็นต้องทานอย่างต่อเนื่อง ในเวลาเดิมทั้งหมด 21 เม็ด

ยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมน 21 เม็ด

วิธีกินยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมน 28 เม็ด

ยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมน 28 เม็ด มี 2 ชนิด ได้แก่ แบบที่มียาที่ที่มีฮอร์โมน 21 เม็ด และเม็ดแป้งอีก 7 เม็ด (ชนิด 21/7) และแบบที่มียาที่มีฮอร์โมน 24 เม็ด และเม็ดแป้งอีก 4 เม็ด (ชนิด 24/4) โดยชนิด 21/7 จะคล้ายกับชนิดฮอร์โมน 21 เม็ด แต่มีเม็ดแป้ง 7 เม็ดเพิ่มมาให้ เพื่อที่จะไม่ต้องเว้นช่วง 7 วันเอง ซึ่งบางทีก็จำไม่ได้ว่าต้องเริ่มทานวันไหน ดังนั้น ถ้ากินชนิด 21/7 แล้ว ไม่ต้องเว้นช่วง กินแผงต่อไปได้เลย ประจำเดือนจะมาในช่วงที่เริ่มกินเม็ดแป้งเม็ดที่ 2-3

ส่วนชนิด 24/4 เป็นสูตรที่พัฒนามาจากชนิด 21/7 อีกทีหนึ่งเพื่อให้ช่วงเวลาที่ต้องกินเม็ดแป้ง (ช่วงที่ไม่ต้องกินยาฮอร์โมน) ลดลงซึ่งมีข้อดีคือทำให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายไม่เหวี่ยง ซึ่งบางสูตรจะช่วยให้รักษาอาการก่อนมีประจำเดือนชนิด PMDD ได้

กินอย่างต่อเนื่องโดยเริ่มจาก เม็ดที่ 1 …2…3…28 แล้วสามารถเริ่มแผงใหม่ได้ทันทีในวันถัดไป

ยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมน 28 เม็ด

 

เรื่องที่ 3 : “ดรอสไพรีโนน” ส่วนผสมที่ช่วยให้ไม่อ้วน ไม่บวมน้ำ

สำหรับสาว ๆ ที่อยากเริ่มทานยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมน ที่ช่วยลดบวมจากการบวมน้ำที่อาจมาจากการคั่งของน้ำในร่างกาย ส่งผลให้เรารู้สึกได้ว่าตัวบวมขึ้น หรือทำให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น อาจจะลองเลือกทานยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมน ที่มีส่วนผสมของ”ดรอสไพรีโนน”
ตัวช่วยในการปรับฮอร์โมนให้สมดุล อีกทั้งยังช่วยลดบวมน้ำ ลดสิว ลดความมันทั้งผิวหนัง ผิวหน้า และเส้นผม จากการลดฮอร์โมนเพศชายในร่างกายด้วยนั่นเอง ซึ่งเราจะรู้ได้ว่ายาปรับฮอร์โมนอันนี้มีส่วนผสมของ ดรอสไพรีโนน รึเปล่าจากตัว d ที่อยู่ในชื่อของยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมน นั่นเอง

เรื่องที่ 4 : เลือกประเภทให้เหมาะสมกับตัวเรา เพื่อลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

เราอาจจะเคยเห็นว่ายาคุมปรับฮอร์โมนนั้นมีอยู่หลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น ee20d ,ee30d หรือ ee35c ซึ่งแต่ละตัวก็จะมีปริมาณของฮอร์โมนที่แตกต่างกัน สำหรับใครที่เพิ่งจะเริ่มทาน หรือกลัวว่าจะได้รับผลข้างเคียงก็อาจจะเลือกเป็นรุ่นที่มีปริมาณฮอร์โมนน้อย เช่น ee20d เพื่อลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว

;

เรื่องที่ 5 : ee  (Ethinyl estradiol)คืออะไร

ee หรือ Ethinyl estradiol หรือที่เรารู้จักกันในนามของฮอร์โมนเอสโตรเจนฮอร์โมนเพศหญิงซึ่งเราจะรู้ได้ว่าในยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมนแต่ละชนิดมีปริมาณของเอสโตรเจนอยู่ที่เท่าไหร่ ได้จากชื่อและตัวเลขนั่นเอง โดยปกติแล้วยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมน จะมีปริมาณของเอสโตรเจนอยู่ที่ ee20-35 นั่นเอง ซึ่งในปัจจุบันการใช้ปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนเท่านี้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเมื่อก่อน
และจะช่วยลดอาการผลข้างเคียงต่าง ๆ เช่น เวียนหัว มึนหัว คลื่นไส้ อาเจียน ได้นั่นเอง สำหรับมือใหม่หัดทานยาปรับฮอร์โมนคุมกำเนิด แนะนำเป็น ee20-30 แต่ถ้าหากอยากได้รับผลในด้านสิวฮอร์โมน หรือภาวะมีฮอร์โมนเพศชายสูง แนะนำเป็นยาปรับฮอร์โมน ee35 ทั้งนี้ต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา

ee (Ethinyl Estradiol) ส่วนประกอบในยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมน

เรื่องที่ 6 : d (Drospirenone)คืออะไร 

ตัว d ที่เราพบเห็นหลังเลขที่บอกปริมาณของเอสโตรเจน ก็คือดรอสไพรีโนน (Drospirenone) หรือฮอร์โมนที่ช่วยลดอาการบวมน้ำ ลดสิว ลดความมันของผิวและเส้นผม (หรือฮอร์โมนเพศชาย) นั่นเอง

เรื่องที่ 7 : c (Cyproterone acetate) คืออะไร

c ตัวต่อท้ายของเลขที่บอกปริมาณเอสโตรเจนอีกตัว ที่เรามักจะพบในยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมน รุ่น ee35c ซึ่งตัว c ก็คือ cyproterone acetate หรือไซโปรเตอโรน อะซิเตท ที่จะช่วยต้านฮอร์โมนเพศชายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งยังช่วยลดอาการหน้ามัน ลดสิว หรือขนดก

เรื่องที่ 8 : กินยาคุมครั้งแรก ควรเลือกแบบไหนถึงจะดีสำหรับเรา

ก่อนอื่นเลยเราจะต้องรู้ก่อนว่าอะไรคือจุดประสงค์ที่ทำให้เราสนใจที่จะทานยาคุมปรับฮอร์โมน จะได้รู้ว่าควรจะใช้ยาประเภทไหน ในปริมาณเท่าไหร่ ซึ่งทุกครั้งที่เราจะซื้อยาคุมปรับฮอร์โมนมาทาน ควรได้รับคำปรึกษาหรือ คำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง และเพื่อความมั่นใจ ควรเลือกทานยาคุมปรับฮอร์โมนที่มีคุณภาพและปลอดภัยก่อนเสมอ

d (Drospirenone) และ c (Cyproterone acetate)

เรื่องที่ 9 : ความแตกต่างของยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมน ee20d, ee30d และ ee35c ยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมน ee20d

ยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมน ee20d

ยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมน ee20d ส่วนใหญ่จะทำเป็นสูตร 24/4 ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังมีประโยชน์ในการช่วยลดอาการบวมน้ำ ช่วยรักษาสิวระดับปานกลาง ลดความมันของผิว ลดอาการปวดประจำเดือน หรืออารมณ์แปรปรวนในช่วงก่อนมีประจำเดือน (PMDD: Premenstrual dysphoric disorder) ได้อีกด้วย โดยดรอสไพรีโนนหรือตัว d เป็นส่วนช่วยลดสิวผิวมัน และอาการบวมน้ำ

ee20d จึงเป็นยาปรับฮอร์โมนที่เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มทานยาคุมปรับฮอร์โมนเป็นครั้งแรก หรือสาว ๆ ที่อยากลดสิว ผิวมัน
และสร้างสมดุลให้กับฮอร์โมนในช่วงประจำเดือนจะมา ซึ่ง ee20d จะเป็นยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมน ที่สามารถหาซื้อได้จากร้านยาตามคำแนะนำของเภสัชกร ควรเริ่มทานในวันแรกที่มีประจำเดือน ซึ่งจะเป็นยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมน แบบ 28 เม็ด  โดยประกอบด้วยยาปรับฮอร์โมน 24 เม็ดที่เป็นสีชมพูอ่อน (เป็นตัวยาดรอสไพรีโนน 3 มิลลิกรัม และ ee 20 ไมโครกรัม) และอีก 4 เม็ดที่เป็นเม็ดสีขาว ซึ่งเป็นแป้ง โดย ee20d แบบ 28 เม็ด สามารถทานแผงต่อไปได้ทันที โดยไม่ต้องหยุดพักยา 7 วัน

 

ยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมน ee30d

สำหรับยาปรับฮอร์โมน ee30d เป็นจะยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมน ซึ่งสามารถเริ่มทานได้ในวันแรกที่ประจำเดือนมา เนื่องจากมีส่วนประกอบของดรอสไพรีโนนอยู่ 3 มิลลิกรัมจึงมีส่วนช่วยในเรื่องของการลดอาการบวมน้ำ รักษาสิวและความมันได้ ซึ่ง ee30d จะเป็นยาปรับฮอร์โมนแบบ 21 เม็ด ที่มีดรอสไพรีโนน 3 มิลลิกรัม มี ee 30 ไมโครกรัม เท่ากันทุกเม็ด เนื่องจากไม่มีเม็ดยาที่เป็นแป้ง จึงต้องหยุด 7 วันก่อนที่จะเริ่มทานแผงใหม่เพื่อให้ประจำเดือนมาตามปกติ

 

ยาปรับฮอร์โมน ee35c

ยาปรับฮอร์โมน ee35c เป็นยาที่ช่วยในการรักษาภาวะที่มีฮอร์โมนเพศชายสูงกว่าปกติ ซึ่งมักจะทำให้มีสิวขึ้น หน้ามัน หรือขนดก
รวมไปถึงอาการภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ (PCOS) ซึ่งในยาปรับฮอร์โมน ee35c จะมีส่วนผสมของไซโปรเตอไรน อะซิเตท ที่ช่วยยับยั้งฮอร์โมนเพศชาย ช่วยลดการเกิดสิว ลดมัน และขนดก  ในส่วนของยาปรับฮอร์โมน ee35c จะเป็นแบบ 21 เม็ดสีขาวล้วน โดยประกอบไปด้วย cyproterone acetate 2 มิลลิกรัม และ ee อีก 35 ไมโครกรัม และต้องหยุดพักยาก่อน 7 วันก่อนเริ่มทานแผงใหม่

ทานยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมนอย่างไรให้ถูกต้อง

เรื่องที่ 10 : เพิ่มประสิทธิภาพของยาคุมปรับฮอร์โมนด้วยการเเจ้งเตือน ไม่ให้ลืมทานยา

ไม่ว่าจะเป็นยาปรับฮอร์โมนแบบ 21 เม็ด หรือ 28 เม็ด ก็ต้องทานอย่างต่อเนื่องทุกวัน จนกว่าจะหมดแผง ซึ่งปัญหาหลักของสาว ๆ ก็คือชอบเผลอลืมทานยา ซึ่งสามารถแก้ได้ด้วยการตั้งแจ้งเตือนเอาไว้ หรือจดบันทึกเพื่อไม่ให้เราลืมทานยา เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมน

เรื่องที่ 11 : ทานอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีผลข้างเคียงเล็กน้อยก็ตาม

เพื่อประสิทธิภาพที่ดีของยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมน จึงควรทานต่อเนื่องไปก่อนในช่วง 2 – 3 เดือนแรก แม้ว่าจะมีผลข้างเคียงเล็กน้อยก็ตาม ซึ่งอย่าพึ่งรีบเปลี่ยนยี่ห้อ หรือประเภทของยา เพื่อให้ร่างกายค่อย ๆ ปรับตัวให้ชินกับยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมน แต่บางทีสาว ๆอาจจะเกิดความลังเลใจว่า ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นนั้นมาจากยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมนโดยตัวมันเอง หรือเป็นช่วงปรับตัวของร่างกายกันแน่ ถ้าไม่อยากลังเลใจแบบนี้อาจจะเลือกยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมนที่มีคุณภาพ หรือปรึกษาเภสัชกรก่อนเลือกใช้ยา

เรื่องที่ 12 : ทานเวลาเดิมอย่างต่อเนื่อง และวิธีแก้หากลืมทานยา

เราควรที่จะทานยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมน ในเวลาเดิม และทานอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ วัน และในทุก ๆ แผงเพื่อให้ยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมน มีประสิทธิภาพมากที่สุด

ลืมทานยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมนต้องทำอย่างไร

เรื่องที่ 13 : ลืมทานยาคุม ทำยังไงดี?

ลืมทานยาคุมไป 1 เม็ด หรือทานไม่ตรงเวลาเดิม ให้รีบทานทันทีที่นึกออก และสามารถทานในเวลาเดิมได้ในวันถัดไป
ลืมทานยาคุมไป 2 เม็ด (2 วันติดกัน) ให้แบ่งทานเป็นเช้าและก่อนนอน และในวันถัดไปอีก 2 เม็ดแบบเช้าและก่อนนอน เหมือนกัน
ลืมทานยาคุมไป 3 เม็ดขึ้นไป ควรที่จะหยุดทานยาคุมทั้งแผงนั้นทันที รอให้ประจำเดินมาอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มทานแผงใหม่

อย่างไรก็ดี ในเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์ แนะนำให้ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย และหากไม่มั่นใจอย่างไร ก็ควรปรึกษาหรือสอบถามกับเภสัชกรใกล้บ้าน

เรื่องที่ 14 : ทานยาคุมแล้วอ้วนจริงไหม?

หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินว่า ทานยาคุมแล้วอ้วน แต่ความจริงแล้วการทานยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมน ไม่ได้ทำให้อ้วน และยังช่วยลดการบวมน้ำจากการคั่งน้ำในร่างกายจากยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมน ที่มีส่วนผสมของดรอสไพรีโนนอีกด้วย

เป็นยังไงกันบ้างคะกับ 14 เรื่องที่สาว ๆ ที่เพิ่งเริ่มกินยาคุมครั้งแรกควรรู้รวมไปถึงการเลือกทานยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมน ทั้งหมด 3 ประเภท ไม่ว่าจะเป็น ee20d, ee30d หรือ ee35c ซึ่งไม่ว่าสาว ๆ จะเลือกทานประเภทไหนก็อย่าลืมดูข้อบ่งใช้บนหน้ากล่อง หรือปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ก่อนเสมอทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยและความมั่นใจ เลือกยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมนให้เหมาะสมกับความต้องการและร่างกายกันด้วยนะคะ

 

อ้อ… เรามีอะไรสนุกๆมาฝากด้วย สาว ๆ สามารถมาร่วมเล่น Quiz ค้นหาตัวตนว่า คุณเป็นสาวที่มีฮอร์โมนแบบไหนได้ที่ https://www.hormonequizs.com/ ตัวช่วยดีๆให้สาว เลือกทานยาคุมได้อย่างมั่นใจและรู้ว่าเรามีแนวโน้มที่จะมีฮอร์โมนแบบไหน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Summary
14 เรื่องที่สาวๆควรรู้ ก่อนเริ่มกินยาคุมกำเนิดครั้งแรก
Article Name
14 เรื่องที่สาวๆควรรู้ ก่อนเริ่มกินยาคุมกำเนิดครั้งแรก
Description
สาวๆ ที่คิดจะเริ่มกินยาคุมครั้งแรก แต่อาจจะกังวลอยู่ เราขอพาไปดูเรื่องที่สาวๆควรรู้เพื่อการกินยาคุมกำเนิดอย่างถูกต้องและปลอดภัย
Author
Publisher Name
Goodlifeupdate