ความสุขสร้างได้ด้วยพลังสมาธิ เคล็ดลับความสุขของ คาเมรอน แนนซ์
ฝากฝีไม้ลายมือทางการแสดงไว้ในซีรี่ส์ ส้มตำแฮมเบอร์เกอร์ ในบทพระสตีฟ เขา – คาเมรอน แนนซ์ เข้ามาเป็นหนึ่งในตัวละครเรื่องนี้ได้อย่างไร มาทำความรู้จักเขากัน
คาเมรอน แนนซ์ เล่าถึงเส้นทางที่ทำให้หนุ่มอเมริกันข้ามน้ำข้ามทะเลมาเล่นซีรี่ส์เรื่องนี้ว่า
“วันหนึ่งผมเห็นโพสต์จากเพื่อนซึ่งทำงานในบริษัทที่สอนภาษาอังกฤษทั่วโลก เขาประกาศหาฝรั่งพูดภาษาไทยได้เพื่อไปเป็นครูสอนภาษาให้พระรูปหนึ่งที่เมืองไทย ตอนนั้นเขาไม่ได้บอกชื่อพระ ผมสนใจจึงสมัครไป สัมภาษณ์ 8 ครั้ง สุดท้ายผมได้มาเมืองไทย พอทราบว่าต้องเป็นครูสอนภาษาให้ท่าน ว.วชิรเมธี ผมเครียดมาก เป็นงานใหญ่สำหรับผมจริง ๆ เพราะท่านเป็นพระที่มีชื่อเสียงมาก
“ผมเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด เตรียมบทเรียน หนังสือทุก ๆ อย่าง เมื่อได้พบท่านผมสังเกตว่าท่านยุ่งมาก ๆ ถ้าอยู่ที่ไร่เชิญตะวัน จังหวัดเชียงราย ท่านต้องพบปะลูกศิษย์ ถ่ายรูป ให้พรวันละ 6 - 10 ชั่วโมง เมื่อยังไม่ได้สอนท่าน ท่านขอให้ผมสอนเจ้าหน้าที่ในไร่ไปก่อน ส่วนใหญ่ท่านมีเวลาเรียนกับผมช่วงเช้า แต่จะมีเวลาจริง ๆ เป็นช่วงเดินทางเสียมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปกรุงเทพฯ นั่งรถตู้ไปเชียงใหม่หรือเดินทางไปต่างประเทศ ผมไปกับท่านเกือบทุกที่ ซึ่งได้อาศัยช่วงเวลานี้คุยกับท่านเป็นภาษาอังกฤษ กลายเป็นว่าบทเรียนที่เตรียมมาได้ใช้กับเจ้าหน้าที่ แต่ไม่ได้ใช้กับท่านเลยครับ” (หัวเราะ)
นอกจากเป็นครูสอนภาษาของท่านว.วชิรเมธีแล้ว ท่านยังหยิบยื่นโอกาสการเป็นนักแสดงให้คาเมรอนอีกด้วย
“ท่านเมตตาผมมาก วันหนึ่งท่านบอกว่ากำลังเขียนบทละครเรื่องหนึ่ง มีบทของพระที่เป็นฝรั่ง ซึ่งเขียนจากนิสัยของผมท่านอยากให้ผมเล่นบทนี้ เมื่อมีโอกาสแบบนี้ผมก็อยากลองดูว่าเป็นอย่างไร จึงตกลงเล่นซีรี่ส์เรื่องนี้ แล้วผมก็ชอบมาก”
การได้ใกล้ชิดกับท่าน ว.วชิรเมธีทำให้คาเมรอนมีโอกาสรู้จักธรรมะและสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง
“วันหนึ่งผมกับท่าน ว.วชิรเมธีกำลังฝึกภาษาอังกฤษกันอยู่ ท่านมองตาผมแล้วถามว่า คาเมรอน ทำไมไม่มีความสุขในชีวิตประจำวันรู้ไหม ผมจึงถามท่านกลับว่า เพราะอะไรครับ ท่านบอกว่า ผมอยู่กับอนาคตมากเกินไป ท่านสังเกตว่าผมชอบวางแผนล่วงหน้า ซึ่งทำให้ผมเครียดมากยิ่งถ้าแผนที่วางไว้ล้มเหลวหรืออะไรที่คิดไว้ไม่เกิดขึ้น ผมจะยิ่งเครียด ท่านบอกว่าสิ่งที่เรากังวลส่วนใหญ่มันไม่เกิดขึ้น เราจะไปกังวลล่วงหน้าทำไม ถ้าเรามัวอยู่กับอนาคต
เราอาจต้องเสียใจกับปัจจุบัน หรือแม้กระทั่งการคิดถึงสิ่งที่ผ่านมาแล้วก็ไม่มีประโยชน์ สมมุติว่าเคยมีคนมาต่อยเรา ถ้าเรากลับไปอยู่กับความรู้สึกเดิม ๆ ที่เราโดนต่อย มันก็เหมือนเราโดนต่อยหลายรอบ ทั้งที่จริง ๆแล้วเราโดนต่อยแค่ครั้งเดียว ได้ฟังท่านพูดมันจริงมาก ผมจะจึงถามท่านว่า ต้องทำอย่างไรจึงจะอยู่กับปัจจุบัน เพราะผมทำไม่ได้ ท่านบอกว่าง่ายมาก ต้องทำสมาธิ”
หลังจากนั้นคาเมรอนก็ฝึกสมาธิเรื่อยมาเขาเล่าถึงวิธีทำสมาธิว่า
“ผมฝึกสมาธิโดยเริ่มจากการนั่งตรง ๆ ยกมือซ้ายเคลื่อนไปที่หน้าอกช้า ๆ จากนั้นหงายมือขึ้น เคลื่อนลงไปวางไว้บนตัก มือขวาก็ทำอย่างเดียวกัน ที่สำคัญคือ ต้องรู้ตัวว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ สติจับอยู่ที่มือ หลังจากที่มือซ้ายและขวาอยู่บนตักแล้ว ผมจะสูดลมหายใจเข้าให้ลึก ปล่อยลมหายใจออกยาว ๆ ทำ 3 ครั้ง แล้วหลับตา จากนั้นให้สติจับอยู่ที่ลมหายใจ หากมีความคิดเข้ามา อย่าไปเครียด มันคือเรื่องปกติ แค่รู้ว่าความคิดเข้ามาแล้วก็ทิ้งมันไป กลับไปอยู่ที่ลมหายใจต่อ การฝึกสมาธิบ่อย ๆ ช่วยให้อยู่กับปัจจุบันได้”
ยิ่งไปกว่านั้นสมาธิยังช่วยคลายความขุ่นข้องหมองใจในอดีตได้ด้วย
“ก่อนรู้จักท่าน ว.วชิรเมธี คุณพ่อกับคุณแม่ของผมแยกทางกัน คุณพ่อโกรธผมและน้อง ๆ ท่านไม่ยอมคุยกับพวกเรา ผมเครียดและมีคำถามเสมอว่า ผมทำอะไรผิด คุณพ่อบอกเพียงแค่ว่า เราเป็นเหตุให้แม่ออกจากบ้าน ผมไม่เข้าใจคำตอบและยังกังวลต่าง ๆ นานา กังวลว่าคุณแม่จะอยู่ด้วยตัวเองได้ไหม แล้วคุณพ่อล่ะ ท่านออกจากบ้านไปแล้วจะอยู่อย่างไร แต่พอผมฝึกสมาธิผมสบายใจขึ้น รู้สึกว่าทุกอย่างจะดีได้อย่างแน่นอน ผมมีความสุขกับปัจจุบัน ผมเรียนรู้ว่าความรู้สึกของพ่อไม่เกี่ยวอะไรกับผม เพราะว่าผมและน้อง ๆ ไม่ได้ทำอะไรผิด ความไม่สบายใจ ความโกรธเป็นปัญหาของเขา ส่วนผมปล่อยความรู้สึกสงสัย กังวล หรือเป็นทุกข์ทิ้งไปในขณะที่ยังคงรักและไม่โกรธคุณพ่อ เลือกที่จะมีความสุขในปัจจุบัน ทุกวันนี้คุณพ่อกลับมาอยู่กับพวกเรา และคุยกับพวกเราแล้ว ส่วนคุณแม่มีแฟนใหม่ ท่านสบายดี มีงานที่ดี เรื่องนี้ทำให้ผมรู้ว่า เราไม่ต้องกังวลถึงอนาคต ถ้าเราสบายใจในปัจจุบัน เชื่อว่าอนาคตจะดีขึ้นได้แน่นอน”
นอกจากสมาธิทำให้คาเมรอนมีความสุขได้แล้ว เขาเล่าว่า เมื่อครั้งที่เพื่อนสนิทที่อเมริกาป่วยเป็นมะเร็ง เขาแนะนำให้เพื่อนทำสมาธิเพื่อให้มีความสุขกับปัจจุบันและไม่เป็นทุกข์ เขาขอให้ท่าน ว.วชิรเมธีช่วยคุยกับเพื่อนของเขาด้วย ซึ่งเพื่อนก็ทำสมาธิเรื่อยมา และช่วงที่คาเมรอนมาถ่ายซีรี่ส์ส้มตำแฮมเบอร์เกอร์ เพื่อนของเขาก็ส่งข่าว
มาว่าหายจากโรคมะเร็งแล้ว
คาเมรอนกล่าวทิ้งท้ายก่อนจบการสนทนาว่า
“ผมรักธรรมะ เพราะเป็นสิ่งที่สามารถเอาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง ไม่เกี่ยวว่าต้องเป็นคนชาติใด เพศไหน ผิวสีอะไร นับถือศาสนาไหน ธรรมะเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถเรียนรู้และใช้ประโยชน์ได้อย่างไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น”
เรื่อง: อุรัชษฎา ขุนขำ ภาพ: วรวุฒิ วิชาธร สไตลิสต์: ณัฏฐิตา เกษตระชนม์
บทความน่าสนใจ
เบญจมินทร์ ฝรั่งหัวใจไทย ผู้ต่อลมหายใจให้การแสดงโขน
Q: เราจะสามารถเจริญสติตอนทำงานได้หรือเปล่าคะ ในเมื่อเราต้องมีสมาธิกับงานตรงหน้า