คนเรามักคิดว่าพอสายตาสั้น หรือสายตายาวไปแล้ว ก็ช่างมันไปตัดแว่นเอาก็ได้ไม่เป็นอะไรหรอก แต่เชื่อไหมคะ ที่จริงแล้วเรา ฝึกกล้ามเนื้อสายตา เพื่อลดอาการตาล้า และมากกว่านั้น ยังเพิ่มโอกาสปรับสายตาให้กลับมาคืนค่าปกติได้อีกด้วย ฟื้นฟูการปรับภาพที่ “ดวงตา” กล้ามเนื้อซิลิอารี (Ciliary Muscle) ซึ่งทำงานร่วมกับเลนส์ตามีบทบาทสำคัญคือ การเกร็งตัวและยึดตัวเพื่อทำให้เลนส์ตาปรับโฟกัสการมองในระยะต่าง ๆ ได้ชัดเจนขึ้น หากเลนส์ตาไม่สามารถปรับรูปร่างได้ตามระยะเหล่านี้ จะทำให้เกิดความผิดปกติทางสายตาตามมา อธิบายการทำงานของกล้ามเนื้อซิลิอารีให้เห็นภาพได้ว่า เวลาเรามองระยะใกล้ กล้ามเนื้อซิลิอารีจะเกร็งตัว ทำให้เส้นเอ็นยึดเลนส์ตา (Zonule) ผ่อนคลาย เลนส์ตาจะหนาขึ้น แต่ในเวลาที่เรามองระยะไกล กล้ามเนื้อซิลิอารีจะยึดตัว ทำให้เส้นเอ็นยึดเลนส์ตาตึงขึ้น เลนส์ตาก็จะยุบตัวลงหรือบางลง ความสามารถของเลนส์ตาในการปรับระยะโฟกัสภาพนี้เรียกว่า กระบวนการการเพ่งชัด (Accommodation) ในระยะที่แตกต่างกัน เมื่อมองไกลเลนส์ตาจะบางลง กล้ามเนื้อซิลิอารีจะผ่อนคลาย เมื่ออ่านหนังสือและเพ่งดูคอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานาน เลนส์ตาจะหนาขึ้น กล้ามเนื้อซิลิอารีจะเกร็งตัว ในทางการแพทย์ กลัามเนื้อซิลิอารีสามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยการกระตุ้นของประสาทอัตโนมัติส่วนกลาง ดังนั้นการที่กล้ามเนื้อซิลิอารีเป็นกล้ามเนื้อที่อยู่นอกอำนาจจิตใจ (เหมือนกับกล้ามเนื้อหัวใจ กล้ามเนื้อกระเพาะอาหาร) ทำให้เรามีความเข้าใจว่าเมื่อเกิดสภาวะสายตาสั้นหรือยาวไปแล้ว จะไม่สามารถแก้ไขสายตาให้กลับมาเป็นปกติได้ เพราะเราไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อซิลิอารีได้ แต่ในเวลาต่อมามีงานวิจัยหลายเรื่องที่ยืนยันว่า “กล้ามเนื้อชิลีอารีอยู่ภายใต้การควบคุมของสมองส่วนซีรีบรัม (Cerebrum) ซึ่งทำหน้าที่รับรู้ปฏิกิริยาต่าง ๆ ของร่างกาย” หมายความว่า […]
4 ท่าโยคะ กระตุ้นตับอ่อน ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด กระตุ้นตับอ่อน เพื่อช่วยคุมน้ำตาลในเลือด ทำได้ง่าย ๆ เพียงฝึกโยคะ 4 ท่านี้ เป็นประจำ ได้หุ่นสวย แถมยังห่างไกลโรค รู้หรือไม่ว่า “โยคะ” ไม่ได้มีดีแค่เรื่องความยืดหยุ่นหรือช่วยให้จิตใจสงบเท่านั้น แต่ยังมีพลังในการกระตุ้นการทำงานของอวัยวะภายใน โดยเฉพาะ “ตับอ่อน” ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการผลิตอินซูลิน ฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้ ครูบี–กุลรัตน์ ทวีนุช ผู้เชี่ยวชาญด้านโยคะและพิลาทิส ผู้ร่วมก่อตั้ง Yoga & Me มีเคล็ดลับดี ๆ พร้อมท่าโยคะง่าย ๆ ที่ช่วยปรับสมดุลระดับน้ำตาลในเลือดให้คุณนำไปฝึกตามได้ไม่ยาก ครูบีอธิบายว่า “ท่าโยคะบางท่า เช่น ท่าบิดตัว ท่าก้มตัว หรือท่าที่เน้นบริเวณหน้าท้อง จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะในช่องท้อง รวมถึงตับอ่อน ทำให้เซลล์ได้รับออกซิเจนและสารอาหารมากขึ้น เปรียบเสมือนการนวดภายในที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของตับอ่อนได้ดีขึ้น “นอกจากนี้ การฝึกโยคะยังช่วยปรับสมดุลระบบประสาทอัตโนมัติ กระตุ้นระบบพาราซิมพาเทติกที่ควบคุมการทำงานของอวัยวะภายใน ลดความเครียด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูง การผ่อนคลายจากโยคะจึงช่วยให้ตับอ่อนทำงานได้ดีขึ้นในการผลิตอินซูลิน “การฝึกโยคะอย่างสม่ำเสมอยังส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม ช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน ควบคุมน้ำหนัก ลดไขมันสะสม […]
อาหาร GI สูง เพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งได้อย่างไร เรามีคำตอบ อาหาร GI สูง เพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งได้อย่างไร วันนี้เราจะมาไขคำตอบกัน งานวิจัยพบว่า คนที่กินอาหารดัชนีน้ำตาลสูง สัมพันธ์กับความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นทั้ง มะเร็งเต้านม มะเร็ง ลำไส้ มะเร็ง ต่อมลูกหมาก เนื่องมาจากฮอร์โมนอินซูลิน และ ฮอร์โมน IGF-1 ที่ถูกหลังออกมาปริมาณมากจากน้ำตาลที่กินเข้าไป จะกระตุ้นให้มะเร็งให้แบ่งตัวมากขึ้น ดร.เอกราช บำรุงพืชน์ ผู้อำนวยการหลักสูตรโภชนศาสตร์บูรณาการในเชิงสมุทัยเวชศาสตร์ วิทยาลัยการแพทย์แบบบูรณาการ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวว่า เซลล์มะเร็งชอบน้ำตาลมาก และจะไปแย่งน้ำตาลที่เข้าสู่เซลล์มาใช้ทำให้เจริญเติบโต โดยเฉพาะน้ำตาลกลูโคส หรือน้ำตาลทรายที่นิยมบริโภค ในทางวิทยาศาสตร์ คือ น้ำตาลโมเลกุลคู่ ที่มีกลูโคส จับคู่กับ ฟรุกโตส ซึ่งกลูโคสจะเข้าไปเลี้ยงเซลล์มะเร็ง และแย่งน้ำตาลจากเซลล์เม็ดเลือดขาวตัวหนึ่ง เรียกว่า เอ็นเคเซลล์ หรือ เซลล์เพชฌฆาต ที่คอยตระเวนจับกินเซลล์มะเร็ง แต่เมื่อมีน้ำตาลเข้ามาในร่างกายกลับถูกเซลล์มะเร็งแย่งไป เซลล์เม็ดเลือดขาวย่อมไม่มีเรี่ยวแรงลาดตระเวน มะเร็งจึงเติบโตรวดเร็ว ส่วนฟรุกโตสที่จับคู่อยู่กับกลูโคส ก็ร้ายกาจไม่เบาเช่นกัน เพราะโมเลกุลของฟรุกโตส จะเปลี่ยนไปเป็นสารที่เป็นส่วนประกอบของผนังเซลล์มะเร็ง ทำให้มะเร็งเติบโตรวดเร็ว น้ำตาลจึงเหมือนไปติดพลังงานเสริม เพิ่มพลังงานให้เซลล์มะเร็ง และเป็นองค์ประกอบสำคัญทำให้เซลล์มะเร็งขยายตัวเพิ่มขึ้น “ปัจจุบันพบมีงานวิจัยล่าสุดซึ่งเป็นที่ฮือฮามากว่าในอาหาร […]
Tel : 085 661 4629 / (จันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.00 - 18.00 น)
cheewajitmedia@gmail.com
02-422-9999 ต่อ 4180 / (จันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.00 - 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th