คัมภีร์โบราณจาก ถ้ำบามิยัน สู่ประเทศไทย
เมื่อปี พ.ศ.2544 พระพุทธรูปยืนจำนวนสององค์ที่สลักอยู่บนหน้าผาสูงสองพันห้าร้อยเมตรในหุบผาบามิยัน ณ จังหวัดบามิยัน ทางตอนกลางของประเทศอัฟกานิสถานถูกทำลาย แรงระเบิดส่งผลให้ผนัง ถ้ำบามิยัน เกิดการสั่นสะเทือน ทำให้ตุ่มดินเผาที่บรรจุคัมภีร์โบราณ ซึ่งจัดเป็นธรรมเจดีย์เก่าแก่ของพระพุทธศาสนาหลั่งไหลออกมา
บรรดานักค้าของเก่าซึ่งไปเจอคัมภีร์โบราณเหล่านี้ ขายต่อกันมาเป็นทอดๆ จนมาถึงมือของ ดร.มาร์ติน สเคอเยน เจ้าของสถาบันอนุรักษ์สเคอเยน ประเทศนอร์เวย์ ดร.มาร์ตินได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดีและภาษาศาสตร์จากทั่วโลก ช่วยกันแปลข้อความที่ปรากฏในชิ้นส่วนคัมภีร์โบราณ และพบว่าเป็นคำสอนของพระพุทธศาสนา
ปี พ.ศ.2552 ลูกศิษย์ชาวไทยในประเทศนอร์เวย์ของพระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ เจ้าคณะภาค10 เจ้าอาวาสวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร ได้เชิญท่านไปที่สถาบันอนุรักษ์สเคอเยน ประเทศนอร์เวย์ เมื่อพระพรหมสิทธิพบคัมภีร์โบราณจึงกล่าวว่า
“คัมภีร์สำคัญเช่นนี้ ต้องอันเชิญไปยังประเทศไทยเพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ทราบถึงความสำคัญ และเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ประเทศไทย”
จากนั้น ปี พ.ศ.2553 รัฐบาลไทยและมหาเถรสมาคม ได้อันเชิญคัมภีร์โบราณทางพระพุทธศาสนามาประดิษฐานชั่วคราว ณ อาคารพิพิธภัณฑ์พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม มีพุทธศาสนิกชนเข้าสักการะคัมภีร์โบราณเป็นจำนวนมาก
ดร.มาร์ติน เกิดความประทับใจที่คัมภีร์โบราณ ซึ่งเป็นของเก่าที่เขาเก็บรักษาไว้ เมื่อนำไปเมืองไทยแล้วมีคุณค่ากับพุทธศาสนิกชนชาวไทยเป็นอย่างมาก จึงตัดสินใจมอบคัมภีร์โบราณบางส่วนให้แก่วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร เพื่อจัดแสดงเป็นการถาวร
เรื่อง: อุรัชษฎา ขุนขำ ภาพ: วรวุฒิ วิชาธร, วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร
ภาพจาก
ติดตามอ่านคอลัมน์ Special Report ฉบับเต็มได้ในนิตยสาร Secret ฉบับ 211 (10 เม.ย. 2560)
Secret คือแรงบันดาลใจ
สั่งซื้อนิตยสารหรือสมัครสมาชิก Secret ได้ที่ 0-2423-9889
ทาง Naiin.com : https://www.naiin.com/magazines/title/SC/