“ขอเวลาปลดกรรม” เรื่องเล่า กฎแห่งกรรม ระหว่างแม่-ลูก จากผู้อ่าน
คุณเคยไหม… ได้ยิน เรื่องราว กฎแห่งกรรม ครั้งใดต้องตีสีหน้าและพูดทำนองว่า พิสูจน์ไม่ได้และ…ไร้เหตุผล ฉันเองก็ไม่ต่างจากคนอื่น
ฉันเคยคิดว่า ตนเองเป็นคนอ่อนโยนและใจดีมีเมตตา ฉันเคยนำกระรอกที่ตกจากต้นชมพู่ไปหาหมอ ยอมนั่งรอให้หมอผ่าตัดมันนับชั่วโมง แล้วภูมิอกภูมิใจกับคุณงามความดี ราวกับว่าตนเองเป็นเจ้าของ ฉันพยายามบอกตนเองว่า ความดีเหล่านี้ น่าจะชดเชยความบกพร่องบางอย่างในชีวิตของฉัน โดยหารู้ไม่ว่า บุคคลที่ฉันควรจะดีด้วยให้มากที่สุด กลับไม่เคยได้รับสิ่งดี ๆ จากฉันเลย
แม่ไม่ได้รักลูกสาวคนนี้น้อยกว่าลูกคนไหน แต่ที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน ก็เพราะว่าเขาเกิดมาในต่างจังหวัด เมื่อก่อนนั้น รถเรือไม่สะดวกสบายเหมือนทุกวันนี้ แม่ไม่อาจใจแข็งหอบลูกน้อยตัวแดง ๆ ขึ้นรถเมล์ตากลมร้อน เดินทางจากเชียงใหม่ กลับลงมาอยู่บ้านที่ประจวบคีรีขันธ์ได้ แม่จำใจปล่อยให้เขาอยู่กับย่า และหมายมั่นว่าจะกลับขึ้นไปรับเขาลงมาอยู่ด้วยกันสักวันหนึ่ง เท่าที่จำความได้ ฉันรู้สึกเหมือนถูกแกล้ง ที่ไม่ให้ได้อยู่กับแม่ นานทีปีหนแม่จึงจะขึ้นมาเยี่ยมฉันสักครั้ง และทุกครั้งก็จบลงด้วยความเศร้าเพราะการจากลา พ่อกับแม่ปล่อยให้ฉันเป็นลูกย่าไปโดยปริยาย ทั้งที่แม่เคยเอ่ยปากว่า วันหนึ่งเราจะได้อยู่กันพร้อมหน้า
สองปีผ่านไป พอเจ้าตัวน้อยเริ่มจะนั่งรถนั่งเรือได้ แม่เอ่ยแสดงความจำนงว่า จะพาลูกสาวกลับไปอยู่ด้วยกันที่ประจวบคีรีขันธ์ แต่ย่าปฏิเสธเสียงแข็ง บอกว่าเลี้ยงหลานสาวคนนี้มานาน ทั้งรักทั้งหลง หากแม่มาพรากไปตอนนี้ ก็เหมือนจงใจมาลดทอนอายุกัน
แม่จำยอม ได้แต่ภาวนาว่า “เข้าใจแม่ด้วยนะลูก” แต่ดูเหมือนลูกสาวของแม่จะไม่เข้าใจ จะว่าไปแล้ว ที่เชียงใหม่ก็ไม่มีอะไรเป็นความทุกข์อีกต่อไป ทั้งย่าและอา ๆ ต่างก็มะรุมมะตุ้มตามใจ ฉันกลายเป็นศูนย์กลางความรักของผู้คนที่นี่ ฉันชินเสียแล้ว กับการเจอหน้าแม่ปีละไม่กี่ครั้ง
แม่รู้ดีว่า การเติบโตขึ้นมาท่ามกลางความรัก และการตามใจเป็นอย่างไร ความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกเริ่มห่างเหิน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแม่ไม่ตามใจ ทุกอย่างมาชัดเจนในตอนที่ลูกสาวของแม่เข้าเรียน โตเป็นวัยรุ่น ออกจากอ้อมอกของผู้ปกครองเป็นครั้งแรก ฉันรู้สึกเหมือนได้โบยบิน ฉันใช้ชีวิตไม่ต่างจากวัยรุ่นทั่วไป กิน เที่ยว และใช้จ่าย สุดท้ายก็ทะเลาะกับแม่ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหลายทั้งปวงของฉัน
แต่ลูกสาวแม่ก็ใช้ไม่เคยพอ ครั้งหนึ่งเขาเคยโทรศัพท์ไปหาแม่ บอกว่าเงินหมด เราเถียงกันอยู่นาน แม่ได้ยินเสียงแว่วมาทางโทรศัพท์ว่า “แม่ยังเป็นแม่หนูอยู่หรือเปล่า” ลูกสาวแม่กลายเป็นคนไม่รู้จักวางแผน เป็นเด็กที่ไม่เคยโตตามอายุ คิดอะไรง่าย ๆ พูดอะไรง่าย ๆ อยากได้อะไรต้องได้ พ่อกับแม่…มีไว้แก้ปัญหาให้ตนเอง
เหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นชนวนเหตุของความบาดหมาง หลังจากวางสายลงในวันนั้น ระหว่างฉันกับแม่ก็มีกำแพงกั้นบาง ๆ ฉันเริ่มถือทิฐิว่า ต่อไปนี้จะใช้ชีวิตแบบไม่มีแผนของฉันไปเรื่อย ๆ ฉันตัดสินใจใช้ชีวิตคู่กับแฟนหนุ่มที่คบหากันมาสามปี โดยที่ไม่บอกแม่สักคำ ลูกสาวแม่ทำทุกอย่างที่แสดงว่า เขาไม่ใช่ลูกแม่ แม่ไม่โกรธไม่เคือง เพียงแต่เป็นกังวลแทนว่า บาปกรรมที่เขาทำกับแม่ จะคืนสนองเขาในวันหนึ่ง แต่ก็นับว่าลูกสาวแม่โชคดี สามีของเขาเป็นคนดี รักลูกสาวแม่ และขยันทำมาหากิน ถ้าเขาคิดว่าความรักจากสามี จะทดแทนความรักของแม่ที่เขาไม่เคยมองเห็นได้…ก็ขอให้เขาโชคดี
แต่บางทีแม่ก็สงสัยว่า วันแม่หรือแม้แต่วันเกิดของเขาเอง ลูกสาวคนนี้เคยคิดถึงแม่บ้างไหม วันที่ฉันคิดถึงแม่ที่สุด คือวันที่ฉันได้เป็นแม่ ชีวิตและหัวใจน้อย ๆ กำลังเติบโตอยู่ในร่างกายของฉัน “ลูกจ๋า มาอยู่กับแม่ต้องอดทนนะ เข้าใจแม่ด้วยนะลูก” เช่นเคย ข่าวการตั้งท้องของลูกสาวแม่ แม่ก็รับรู้ผ่านคนอื่นเช่นเคย แม่อวยพรให้ลูกสาวของแม่โชคดี สุขภาพดี เป็นแม่ที่ดี และมีลูกที่ดี
แต่ฉันโชคร้าย ครรภ์ไม่แข็งแรง ฉันป่วยกระเสาะกระแสะ ลูกในท้องตัวโต สุขภาพย่ำแย่ ฉันแพ้ท้องถึงขนาดต้องนอนโรงพยาบาลนานเป็นเดือน ครั้งนั้น ความดันของฉันขึ้นสูงจนเกือบจะหมดสติ ฉันกลัวใจแทบขาด หมอบอกว่า … อีกนิดเดียวเท่านั้น ไม่รู้ว่าความป่วยไข้ของเขาเกิดจากอะไร แต่แม่ก็อโหสิให้เขาไปนานแล้ว ไม่เคยแค้นเคือง ดีเสียอีก หลานน้อยคนนี้ อาจทำให้ลูกสาวของแม่ เข้าใจแม่คนนี้มากขึ้น
หมอบอกว่า ลูกฉันจะอยู่ในท้องไม่ถึงเก้าเดือน หมอบอกให้ระวังเป็นพิเศษ ฉันสามารถแท้ง เสียลูก…และเสียชีวิตได้ง่ายๆ
แต่แม่พยายามสวดอ้อนวอนกับคุณพระคุณเจ้าว่า อย่าให้ลูกสาวของแม่ เสียลูกน้อยในครรภ์ไปเลย แม่อยากให้เขามีโอกาสเป็นแม่ มีโอกาสได้ฟูมฟัก และรักใครสักคนที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาเอง
นี่อาจเป็นโอกาสเดียวที่เขาจะได้รับรู้และสำนึกว่า การเป็นแม่คนนั้นเป็นอย่างไร คุณพระคุณเจ้า นี่อาจเป็นหนทางเดียวที่ลูกสาวของแม่จะได้ปลดเปลื้องกรรมของตนเอง แม่ก็ไม่รู้จะรอเขาได้นานอีกสักแค่ไหน … ในห้องคลอดคืนนั้น หญิงท้องแก่คนหนึ่งนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยอาการกระสับกระส่าย… เธอเจ็บและทรมานอย่างแสนสาหัส แต่เธอก็พร้อมจะอดทนทุกอย่างเพื่อลูกในท้องของเธอ
ตอนที่คลอดฉัน แม่ก็คงเจ็บและทรมานไม่ต่างจากฉันในวันนี้ มิหนำซ้ำ แม่ยังต้องทนเจ็บ เพราะพฤติกรรมที่ไม่เข้าท่าของฉันมาโดยตลอด ฉันขอบคุณลูกในท้องเหลือเกินที่ทำให้ฉันรู้ว่า ความรักของแม่นั้นยิ่งใหญ่เพียงใด
ในวินาทีที่ฉันเจ็บจนแทบขาดใจ ฉันพยายามต่อรองกับโชคชะตา … ขอโอกาสให้ฉันได้กลับไปกราบแม่อีกสักครั้ง …ขอเวลาให้ฉันได้ปลดปล่อยตนเองจากกรรม ที่เคยทำให้ท่านต้องเจ็บช้ำน้ำใจ…
“แม่จ๋า รอหนูก่อนนะแม่”
เรื่อง นิรัตตา
บทความน่าสนใจ
สุกรเปรต วิบากกรรมของผู้ยุยงให้คนอื่นแตกแยก
Dhamma Daily : เราสามารถ ชนะกรรม ได้หรือไม่
กรรมของ คนเห็นแก่ตัว คืออะไร เรามีคำตอบมาฝาก
เมื่อ ขุนหลวงนารายณ์ ทรงมีความสงสัยเรื่องคนเชื่อกรรม
กฏแห่งกรรม ยุติธรรมเสมอ (กรรมตามสนอง)
เกมกรรมของคนลวง บทเรียนชีวิตของอดีต เด็กเสี่ย
Dhamma Daily : เรื่องของ เวรกรรม จะพิสูจน์ได้อย่างไร
กรรมที่ฉันทำกับข้าวตอก เรื่องเล่า กฎแห่งกรรม ที่ทำกับสัตว์
กฎแห่งกรรม เรื่องเล่าจากหลวงพ่อพุธ ฐานิโย
ยายผิงกับแมวเรื่องเล่ากฎแห่งกรรม จากหลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม
“แม่ไม่รักผม!” วิธีวางใจ กับประโยคที่แม่คนไหนก็ไม่อยากได้ยิน บทความจากแม่ชีศันสนีย์
ปัญหา ระหว่างพ่อ แม่ และลูก จะสงบได้ง่ายด้วยความเข้าใจ
“เปลี่ยนชื่อ” หรือจะสู้ “เปลี่ยนกรรม” บทความดีๆ จากแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต
ถึงเวลาก็ต้อง “ปล่อย” เรื่องจริงของคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวผู้ปล่อยวางความทุกข์