เอาตัวรอดอย่างไรดี เมื่อ พนักงานขายครีม ลากเข้าบูธ ?
แม้เราจะรู้ดีว่า พนักงานขายครีม ขายผลิตภัณฑ์เสริมความงาม หรือพนักงานจากสถาบันเสริมความงามต่างๆ ที่มาออกบูธในห้างสรรพสินค้ามีหน้าที่ต้องนำเสนอสินค้าให้คนรู้จักและขายของให้ได้ตามเป้า แต่บางครั้งพนักงานเหล่านั้นก็สร้างความอึดอัดใจให้เรา ด้วยวิธีการไม่น่ารักต่างๆ นานา โดยเฉพาะวิธียอดฮิตอย่างการเดินพุ่งเข้ามาประชิดตัว เพื่อ ลากเข้าบูธ หรือวิธีที่สร้างความปวดหัวให้หลายต่อหลายคนไม่น้อย นั่นคือการอาศัยจังหวะเผลอ เอาครีมมาป้ายที่แขนหรือลำตัวของเราแบบเนียนๆ ทำให้เราต้องจำใจเดินเข้าไปในบูธ (เพื่อไปล้างไม้ล้างมือ) อย่างเสียไม่ได้ ….ถ้าคุณไม่อยากเจอภาวะน่าอึดอัดใจแบบนี้ เรามีเทคนิคดีๆ ในการเอาตัวรอดจากพนักงานไม่น่ารักมาฝากค่ะ
Do!
1.เดินหนี ตีวงโค้ง
วิธีนี้เบสิคสุด แต่รับรองว่าใช้ได้ผลทุกครั้ง เมื่อไหร่ที่สายตาคุณจับเรดาร์ได้ว่า ในระยะ 5-10 เมตรข้างหน้ามีพนักงานคอยสแตนด์บายอยู่ที่บูธ (สังเกตง่ายๆ ว่า บูธมักจะอยู่ใกล้บันไดเลื่อน) เมื่อนั้นให้คุณรีบสับขาเดินให้เร็วที่สุด สายตาต้องพุ่งไปข้างหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว อย่าวอกแวก อย่าเผลอสบตา โนสนโนแคร์เสียงใดๆ ที่ตามหลังมา หรือถ้าคุณสามารถเดินอ้อม หรือตีวงโค้งออกไปได้ ก็ทำเลยค่ะ อย่ารีรอ หรือถ้าหากคุณพยายามเดินเร็วแล้ว แต่พนักงานยังพยายามสับขาตามคุณมา ให้คุณส่ายหัว พร้อมยกมือบอกปฏิเสธเขาไป โดยไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น และอย่าลืม เดินพุ่งไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องด้วยนะคะ อย่าหยุดเด็ดขาด
2.ใช้มุกนายโทรตาม
อีกวิธีที่ได้ผลดีไม่แพ้ข้อแรก คือมุกเดินคุยโทรศัพท์ ไม่ต้องโทรจริงๆ หรอกนะคะ แค่ทำท่าเฉยๆ ก็พอ คนที่มีมารยาท ส่วนใหญ่จะไม่รบกวนคนอื่นเวลาคุยโทรศัพท์ ดังนั้น สบายใจได้เลยว่าคุณไม่โดนรบกวนแน่นอน แต่ไหนๆ จะแอคติ้งคุยโทรศัพท์ทั้งที ก็ต้องทำให้สมจริงหน่อย ลองเติมอินเนอร์เข้าไปด้วยการจินตนาการว่า เจ้านายกำลังโทรตาม ลองดูเถอะค่ะ เดี๋ยวสีหน้าแววตาคุณจะดูเคร่งเครียดและรีบร้อนขึ้นมาเอง ใครเห็นว่าเรากำลังจริงจังกับชีวิตขนาดนี้ ก็ไม่อยากเข้ามาคุยด้วยแล้ว
3.ดึงสติ และปฏิเสธให้เป็น
ในกรณีที่คุณเดินหนีไม่ทัน และแอคติ้งไม่เนียน รู้ตัวอีกทีก็อยู่ที่หน้าบูธแล้ว อย่างนั้นก็ลองฟังสรรพคุณของสินค้าดูสักหน่อยก็ได้ คงไม่เสียหายอะไร ถ้าคุณไม่ได้มีธุระปะปังต่อ แต่มีข้อแม้ว่า คุณต้องดึงสติตัวเองตลอดเวลา แม้พนักงานจะใช้วิธีฮาร์ดเซลล์เท่าไหร่ ก็อย่าให้ความเกรงใจมาบีบบังคับให้ตัวเองต้องยอมซื้อของที่ไม่ได้อยากได้แม้แต่น้อย และที่สำคัญ คุณต้องรู้จักปฏิเสธให้เป็น ไม่จำเป็นต้องเหวี่ยงวีนอะไร แค่ตอบกลับไปด้วยความสุภาพ เช่น “พี่ผิวแพ้ง่ายมาก รักษาผิวหน้ากับคุณหมออยู่ ถ้าหายดีแล้วขอกลับมาสอบถามอีกครั้งนะคะ” “ตอนนี้พี่ใช้ครีมของ XXX (แบรนด์ที่แพงกว่าหลายเท่า) ยังไม่อยากหยุดมาใช้ยี่ห้อนี้เลยค่ะ เสียดายเงิน” หรือถ้าคุณไม่ชอบการโกหก ก็อาจพูดไปตรงๆ เลยว่า “ยังไม่ถูกใจเท่าไหร่” “ยังไม่มีความจำเป็นต้องซื้อ” จากนั้นก็ขอตัวเดินจากไปอย่างนุ่มนวล
Don’t!
1.เผลอหยิบใบปลิว อาจจะได้กลับแบบตัวปลิว
กฎเหล็กอย่างหนึ่งที่คุณต้องจำไว้ให้ดีคือ พนักงานขายเครื่องสำอางที่ยืนแจกใบปลิวหรือเทสเตอร์อยู่หน้าบูธ ส่วนใหญ่ไม่ได้ตั้งใจให้เราหยิบ แล้วก็เดินจากไปง่ายๆ หรอกนะคะ ทันทีที่คุณรับของเหล่านั้นไว้ บทสนทนาก็จะเริ่มต้นขึ้นทำนองว่า “ปกติคุณพี่ใช้ครีมตัวไหนอยู่คะ” เมื่อเขาเปิดบทสนทนามาอย่างนี้แล้ว คุณจะใจร้ายไม่ตอบคำถามเขาแล้วเดินจากไปดื้อๆ เลยอย่างนั้นเหรอ… ทางที่ดี ถ้าคุณไม่อยากให้เกิดภาวะน่าอึดอัดใจแบบนี้ อย่ารับใบปลิวหรือเทสเตอร์จากพนักงานเลยค่ะ ถ้าคุณไม่ได้สนใจจะซื้อจริงๆ
2.ความจน ไม่ช่วยอะไร
หลายคนรู้สึกเกรงอกเกรงใจพนักงาน จึงพูดปฏิเสธออกไปด้วยความสุภาพว่า “ขอโทษทีค่ะ พี่ไม่มีเงิน” พร้อมกับยิ้มแห้ง แต่รู้ไหมคะว่า การใช้ความจนมาเป็นข้ออ้างแบบนี้ นอกจากจะไม่ช่วยให้พนักงานปล่อยคุณไปแล้ว ยังทำให้เขาสามารถงัด Topic มาพูดคุยกับคุณได้ยืดยาวมากขึ้นอีก เช่น “ไม่เป็นไรเลยค่ะคุณพี่ แบ่งจ่ายก็ได้ค่ะ หรือไม่ ตอนนี้หนูมีโปรโมชั่นพิเศษผ่อน 10 เดือน…” คุณพอจะเดาออกใช่ไหม ถ้าประโยคเหล่านี้เริ่มต้นขึ้น เรื่องมันไม่จบง่ายๆ แน่ๆ
รู้เทคนิคอย่างนี้แล้ว ก็ลองเอาไปใช้กันดูนะคะ ได้ผลหรือไม่อย่างไร อย่าลืมมากระซิบบอกกันด้วยล่ะ
บทความน่าสนใจ
3 เทคนิค ไม่ดื่มเหล้า แต่เข้าสังคมได้
เทคนิคง่ายๆ เปลี่ยนตัวเองให้เป็น คนน่าดึงดูด
7 เสน่ห์ของผู้หญิง แม้หน้าตาธรรมดาแต่ดึงดูดสายตาหนุ่มๆ
แต่งตัวไปวัด แบบไม่ตกเทรนด์ กับ 5 ไอเดีย แมทช์ชุดเริด เกิดทุกงานบุญ!