Amarin Cuisine พาทุกคนมาเปิดครัว เชฟอาร์ต ศุภมงคล ศุภพิพัฒน์ Chef Table คนแรกของประเทศไทย จากนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติไทย สู่เส้นทางสายเชฟ
เชฟอาร์ต ศุภมงคล ศุภพิพัฒน์ เชฟหนุ่มใหญ่ไฟแรงมากประสบการณ์
อยากให้เชฟเล่าประวัติส่วนตัวและประสบการณ์ในวงการอาหารให้พวกเราฟังหน่อยค่ะ
ผม เชฟอาร์ต ศุภมงคล ศุภพิพัฒน์ ประสบการณ์ในวงการอาหารของผม ประมาณ 20 กว่าปี เรียนจบปริญญาตรีทางด้านอาหาร แล้วไปทำงานต่อในประเทศเนเธอร์แลนด์ อยากไปเปิดโลกทัศน์ ดูการทำอาหารยุโรป อาหารฝรั่งเศส อาหารที่เป็นสไตล์เวสเทิร์นว่าเป็นอย่างไร เพราะสมัยก่อนยังไม่มีอินเตอร์เน็ต ซึ่งผมคิดว่า ศึกษาแค่ในหนังสืออย่างเดียวมันไม่พอ เลยตัดสินใจไปทำงานต่างประเทศเพื่อที่จะไปเก็บเกี่ยวความรู้ ทำงานเสร็จกลับมาตอนแรกอยากทำงานโรงแรม เพราะการทำงานร้านอาหารสำหรับยุคนั้นยังไม่เป็นที่นิยม สมัยก่อนโปรไฟล์ที่ดีคือต้องทำงานในโรงแรม ประกอบกับตอนนั้นพอกลับมา ด้วยอะไรหลายๆอย่าง ทำให้ผมไม่ได้ทำงานโรงแรม และไฟยังแรงอยู่เลยอยากทำร้านของตัวเอง เพราะตอนไปต่างประเทศ ร้านอาหารที่เราไปทำก็เป็นร้านเล็กๆ ระบบการจัดการมีประสิทธิภาพ ผมเลยนำประสบการณ์ที่ได้มาทำร้านอาหารเล็กๆของตัวเอง ได้ทำในสิ่งที่เราอยากทำก็เลย ตั้งหน้าตั้งตาหาโลเคชั่นเพื่อเปิดร้านอาหาร บังเอิญไปได้ทาวน์เฮ้าเล็กๆใกล้บ้าน ตอนนั้นไม่มีวัยรุ่นคนไหนกล้าเปิดร้านเป็นของตัวเอง เพราะส่วนใหญ่คนไทยจะยึดติดกับเชฟที่มีอายุ เรียนรู้ลองผิดลองถูกไปเรื่อย เป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่า ที่คนอื่นอาจจะมองว่าเรียนจบปริญญาตรีแล้วต้องต่อปริญญาโท ปริญญาเอก แต่ผมคิดว่าเราเปิดร้านหาประสบการณ์เลยดีกว่า สุดท้ายก็กลายเป็นบทเรียนสำคัญในชีวิต ได้ทบทวนแก้ไข สิ่งใดที่ผิดพลาด ก็ปรับปรุงทำให้ดีขึ้น
จุดเริ่มต้นที่ทำให้เชฟสนใจการทำอาหาร
ที่บ้านเป็นครอบครัวใหญ่มีพี่น้องหลายคน คุณแม่ชอบทำอาหาร เลยทำให้เราได้เห็นอาหารต่างๆตั้งแต่เด็ก ได้เข้าไปเป็นลูกมือ ได้ชิม ได้เรียนรู้ มันก็เลยซึมซับและถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กว่าควรให้ความสำคัญกับอาหาร จะกินต้องกินให้ดี ให้ความสำคัญกับเวลารับประทานอาหารร่วมกันเป็นครอบครัว เพราะเราจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา พูดคุยแลกเปลี่ยนต่างๆนานาก็ในช่วงมื้อเย็นหรือมื้อค่ำของครอบครัวนี่ล่ะ
อะไรคือแรงบันดาลใจในการทำอาหารของเชฟ
ผมอยากทำอาหารจานนึงให้มันพิเศษทุกครั้ง ถึงจะเป็นอาหารจานเดิมก็เป็นอาหารจานเดิมที่อร่อยขึ้นทุกวัน คิดทุกครั้งว่าจะทำอย่างไรให้มันอร่อยขึ้นและอร่อยขึ้น….. คิดเสมอว่าเราทำอาหารให้คนที่เรารักกิน ใส่ใจ เอาใจลงไปทำ อาหารทุกอย่างที่ทำมันก็เลยออกมาจากจิตวิญญาณและความรู้สึก ทำแล้วมีความสุข
การทำอาหารครั้งไหนที่รู้สึกประทับใจที่สุด
ผมประทับใจทุกครั้ง ที่เห็นคนทานอาหารของเราแล้วมีความสุข เพราะทุกวันเราทำด้วยความสุข ลูกค้ามีความสุข เราก็มีความสุข
ทำไมเชฟถึงเปิด Chef Table ที่บ้าน
ผมทำร้านอาหารมาสิบกว่าปี เริ่มตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น และอยากหาอะไรที่แปลกใหม่และท้าทาย เพื่อให้ชีวิตได้ Refresh ตลอด ถ้าเราทำอะไรแบบเดิมไปนานๆ ผมรู้สึกว่า Passion มันค่อยๆหายไป ความอยากทำนู้นอยากทำนี่มันก็หายไป เพราะทุกอย่างกลายเป็นกิจวัตรที่ต้องทำ ขาดสีสัน ทำเพราะเป็นหน้าที่ ผมเลยคิดว่า พักก่อนกับร้านอาหาร แล้วก็ไปท่องเที่ยว พักผ่อน ตอนนั้นสร้างบ้านหลังนี้ขึ้นมาเลยมีไอเดียว่าเรามีกลุ่มลูกค้าเดิมที่ร้านอาหาร จะทำอย่างไรให้ เราอยู่กับบ้านแล้วมีคนมากินข้าวที่บ้าน ซึ่งคิดมาเสมอว่าอยากทำงานที่บ้าน เพราะไม่ชอบเดินทาง ไม่ชอบรถติด ก็เลยได้ Concept Chef Table ตอนแรกคนก็ไม่รู้จักว่า Chef Table คืออะไร จริงๆก็คือการมากินข้าวที่บ้านของเชฟ เมนูอาหารก็ถูกพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ เพราะเราได้ลองถูกลองผิดในสไตลล์ของเรา เมนูอาหารและวัตถุดิบเราเป็นคนกำหนด จะทำอย่างไรให้ดีที่สุด ใช้อะไรให้ออกมาแล้วคุณภาพดีที่สุด เราก็เลือกใช้อันนั้น ความแตกต่างมันก็เกิดขึ้นเพราะเราครีเอทเมนูอาหารเซ็ตเมนูอาหารนั้นขึ้นมาสำหรับกลุ่มลูกค้าเฉพาะวันนั้น วันรุ่งขึ้นลูกค้ากลุ่มใหม่เราก็จะเปลี่ยนเมนูไปเรื่อยๆ มันเลยมีความพิเศษและความแตกต่าง ผมทำ Concept นี้ มา 4 ปีแล้วและเป็นที่แรกที่ทำ Chef Table
ทราบมาว่าเชฟเคยเป็นนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติไทย อยากให้เชฟเล่าให้เราฟังหน่อยค่ะ
ที่บ้านผมเป็นนักว่ายน้ำเกือบทุกคน เห็นเพื่อนๆรุ่นเดียวกัน ติดทีมชาติและได้ไปแข่งต่างประเทศ เราก็อยากไปบ้าง เลยตั้งใจฝึกซ้อมและคัดตัวจนติดทีมชาติ และได้ทุนไปฝึกซ้อมและเรียน High School ที่รัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา ก็ไปกินอยู่ใช้ชีวิตที่นู้น เวลามีแมทต้องแข่งขันก็กลับมาแข่งที่ประเทศไทย
วันนี้เชฟเปิดครัวทำเมนูอาหารอะไรให้พวกเราได้ชมกันคะ
เมนูแรก Foie gras tortellini, lamb tenderloin, truffle sliced and truffle butter white wine sauce ที่ร้านจะทำทุกอย่างเป็นHomemade โดยเพราะพาสต้า Tortellini กับ Lamb และ Truffle ผมว่ามันเข้ากันดี และเป็นเมนูใหม่เลยอยากทำให้ชิม อีกเมนูคือ Wild halibut fillet, white sweet corn mousse, clam and clam basil veloute วัตถุดิบของเมนูนี้คือหอยตลับญี่ปุ่น ซึ่งเรามี Supplier ที่นำของสดๆมาจากญี่ปุ่น เสิร์ฟพร้อมเนื้อปลา และน้ำสต๊อกที่ทำมาจากหอยตลับญี่ปุ่น
หัวใจของการเป็นเชฟหรือคนทำอาหารที่ดี ต้องคำนึงถึง และอยากให้เชฟฝากข้อคิดเล็กๆน้อยๆ สำหรับคนที่สนใจอยากเป็นเชฟ หรืออยากเริ่มต้นทำอาหารค่ะ
ต้องมีใจรัก ขยัน เพราะงานครัวเป็นงานที่หนัก และต้องมีระเบียบวินัย เพราะถ้าเราไม่มีระเบียบวินัย งานมันจะออกมาได้ไม่ดี ต้องเรียนรู้ตั้งแต่พื้นฐานให้แน่น เพราะความสำเร็จไม่มีทางลัด ขอให้สนุกกับการทำอาหาร ไม่สำคัญว่าคุณจะต้องเป็นเชฟที่เก่ง แค่เพียงคุณมีความสุขกับสิ่งที่ทำ ผมว่าอันนั้นสำคัญที่สุด…..
สำหรับใครที่อยากไปรับประทานอาหารฝีมือ เชฟอาร์ต ศุภมงคล ศุภพิพัฒน์ สามารถดูรายละเอียดคอร์สเพื่อเลือกประเภทอาหาร หรือติดต่อได้ทาง IG : cheftablebychefart หรือสอบถามทาง Line ID : @cheftablebychefart)
