เมื่อไม่นานมานี้ หมู่บ้านเล็กๆ ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลีเป็นที่รู้จักกันว่า มีประชากรอายุเกิน 100 ปีอยู่เป็นจำนวนมาก โดยผู้สูงอายุที่นี่มีเส้นเลือดฝอยที่อ่อนวัยกว่าคนทั่วไปราว 20 ปี นั่นเป็นเพราะพวกเขานิยมกินผักสด ปลา และน้ำมันมะกอก
โดยคุณหมอมาคิตะ เซ็นจิ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคเบาหวานและผู้เขียนหนังสือสุดยอดวิธีกินดีไม่่มีป่วย ได้กล่าวถึงความสำคัญของการกินให้อายุยืนไว้ว่า “เราจะสุขภาพดีหรือแย่ต่างกันอย่างไรขึ้นอยู่กับการเลือกอาหารและวิธีกินของแต่ละคน และอาหารการกินเป็นเรื่องสําคัญ หากเลือกเป็น กินเป็น จะช่วยให้ร่างกาย ทํางานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น”
ดังนั้น ถ้าอยากมีอายุยืน และอยากมีความสุขในบั้นปลายชีวิตที่ยังสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้เป็นปกติ และไม่ต้องเป็นผู้ป่วยติดเตียง เราลองมาดูกันว่าคนที่อายุยืนยาวแต่ยังแข็งแรงเขามีเคล็ดลับการกินอย่างไร
5 เคล็ดลับ กินให้อายุยืน
อย่ากินมากไป
ข้อมูลอ้างอิงจากศูนย์วิจัยทางการแพทย์เกี่ยวกับผู้ที่มีอายุเกินกว่า 100 ปี มหาวิทยาลัยเคโอ (Center for Supercentenarian Medical Reserch Keio University) ระบุว่า คนจะมีอายุยืนต้องกินแค่พออิ่ม ถ้ากินน้อยไปก็ไม่มีแรง กินมากไปก็ไม่ดี
หลายคนมีความสุขกับการได้กินของอร่อย บางครั้งเราจึงเผลอกินอาหารมากเกินไปจนแน่น โดยเฉพาะเวลาหิวจัด แต่การกินแค่พออิ่ม หมายถึงเราต้องกินอาหารให้ได้ประมาณ 80% ของกระเพาะอาหาร กินพอรู้ว่าไม่หิวแล้วก็พอ ไม่ต้องกินจนอิ่มจุก
เราต้องเริ่มจากตัดวงจร ‘หิวมากจนกินไม่ยั้งออกไปก่อน’ เพื่อฝึกควบคุมการกินของตัวเอง โดยเริ่มต้นจาก เพิ่มจำนวนมื้ออาหารย่อยๆ ในแต่ละวัน ไม่ปล่อยให้ตัวเองหิวโซ กินช้าลงเพื่อให้สมองส่งสัญญาณว่าอิ่มออกมาได้ทัน โดยการคี้ยวอาหารแต่ละคำนานๆ
หากเราเปลี่ยนพฤติกรรมการกินได้ ต่อให้กินแค่พออิ่มก็ยังอยู่ต่อได้สบายโดยไม่รู้สึกหิวแม้แต่น้อย
กินผักให้หลากหลาย
คนไม่กินผักอายุสั้น คำกล่าวนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย แม้จะเป็นคนกินปลาเยอะ แต่ถ้ากินผักน้อยก็มักอายุสั้น โดยปริมาณผักที่เหมาะสมในการกินต่อวัน คือ 350 กรัม (ประมาณ 2 ฝ่ามือพูนๆ) ซึ่งจะต้องเป็นผักหลายๆ ชนิด หลายๆ สีผสมกัน ในหนึ่งมื้อ เช่น บรอกโคลี ผักกาดขาว และมะเขือเทศ ซึ่งมีสารอาหารแตกต่างกันเพื่อให้ร่างกายได้รับทั้งวิตามินและแร่ธาตุ
บางคนพอพูดถึงผักขนาด 2 ฝ่ามือพูนๆ อาจรู้สึกว่า ดื่มน้ำผักผลไม้สำเร็จรูปแทนดีกว่า แต่มันเทียบกันไม่ได้เลย เพราะน้ำผักเหล่านั้นมักผสมน้ำตาล แถมยังไม่มีเส้นใยอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายเลย เพราะเส้นใยอาหารที่อยู่ในผักเป็นอาหารหลักของจุลินทรีย์ในลำไส้ ซึ่งช่วยรักษาสมดุลภายในลำไส้ ขับถ่ายสะดวก
นอกจากนี้ควรกินผักปลอดสารเคมี ซึ่งเติบโตธรรมชาติ โดยเราอาจสังเกตุสัญลักษณ์ Organic Thailand หรือถ้าหาไม่ได้ก็ต้องตั้งใจล้างผักเพื่อกำจัดสารเคมีที่อาจตกค้างให้หมดไป
กินช็อกโกแลต
ฌาน กาลมอง หญิงชาวฝรั่งเศสวัย 122 ปี ที่เสียชีวิตในปี คศ 1997 ที่ใครต่างกล่าวขวัญว่าเธอมีอายุยืนยาวถึงขนาดเคยเจอกับวินเซนต์ แวนโก๊ะ ศิลปินระดับโลกมาก่อน ของโปรดของเธอคือไวนด์แดงและช็อกโกแลต เธอกินช็อกโกแลตมากถึง 1 กิโลกรัมต่อสัปดาห์เลยทีเดียว
เพราะเมล็ดคาเคาที่เป็นส่วนผสมหลักในการผลิตช็อกโกแลต อุดมด้วยสารพอลิฟีนอล ยิ่งกินคู่กับไวน์แดงจึงมีฤทธิ์ยับยั้งความแก่ชราเป็นสองเท่า โดยงานวิจัยถึงเรื่องดังกล่าวในประเทศญี่ปุ่นระบุว่า คาเคาในช็อกโกแลตยังมีสรรพคุณช่วยลดความดันโลหิต เพราะมีฤทธิ์ลดการอักเสบของหลอดเลือด หลอดเลือดจึงขยายตัวทำให้ความดันลดลง นอกจากนี้ยังอุดมด้วยแร่ธาตุหลายชนิด เช่น แคลเซียม สังกะสี แมกนีเซียม เหล็ก ซึ่งล้วนดีต่อการมีอายุยืนยาว
แต่ช็อกโกแลตที่จำหน่ายทั่วไปมาพร้อมกับน้ำตาลสูง ดังนั้น ควรเลือกกินดาร์กช็อกโกแลตที่มีปริมาณคาเคามากกว่า 70% ให้ได้วันละ 25 กรัมต่อวันจะดีที่สุด ส่วนไวท์ช็อกโกแลตที่มีเนยโกโก้เป็นส่วนผสมก็มีสารพอลิฟีนอลและแร่ธาตุอยู่แต่น้อยกว่ามาก
กินถั่วให้มาก
ถั่วเป็นอาหารสุขภาพที่ให้ประโยชน์สูงแก่ร่างกาย เช่น ถั่วเหลืองอุดมด้วยโปรตีนจากพืชและวิตามินอี ช่วยป้องกันภาวะหลอดเลือดแข็งตัว ทั้งอุดมด้วยสารพอลิฟีนอลที่ออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่
คนในหลายภูมิภาคของโลกนิยมกินถั่ว โดยเฉพาะในเมืองบาร์บาเจีย ตอนกลางของเกาะซาร์ดิเนีย ประเทศอตาลี ส่วนคนญี่ปุ่นบนเกาะโอกินาวะ นิยมกินเต้าหู้เนื้อแข็ง ทำจากถั่วเหลือง
ในซูเปอร์มาร์เก็ตมีผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองหลายอย่างให้เลือกซื้อ ทั้งเต้าหู้ นมถั่วเหลือง สะดวกให้กินได้ทุกวัน หรือจะนำถั่วแระ ถั่วฝักยาว ถั่วแขก ถั่วลันเตา แบบแช่แข็งมาลวกกิน หรือปรุงเป็นเมนูต่างๆ ก็ได้
แต่การกินของหวานที่ทำจากถั่ว เช่น ถั่วเขียวต้มน้ำตาล ไม่เหมาะกับการกินบ่อยๆ เพราะยิ่งทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลมากเกินไป เปลี่ยนมาหุงใส่ข้าว หรือโรยใส่สลัดผักดีกว่า
จิบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
หนึ่งในเครื่องดื่มที่ช่วยให้คนอายุยืนยาวขึ้น คือ ไวน์ ผู้สูงวัยในเกาะซาร์ดิเนีย ประเทศอิตาลี บางคนดื่มไวน์ถึงวันละ 1 ลิตรทุกวัน ส่วนชาวโอกินาวะก็ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ที่เรียกว่าอาวะโมริกันมานาน ส่วนชาวจีนเป็นที่ร่ำลือเรื่องการดื่มเหล้ามานานถึงเจ็ดพันปี
งานวิจัยหลายแห่งที่น่าเชื่อถือพิสูจน์แล้วว่า การดื่มไวน์ดีต่อสุขภาพ เพราะมีสารพอลิฟีนอล ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ส่วนไวน์ขาวแบบดรายก็มีสรรพคุณช่วยให้น้ำหนักลดลงได้ เพราะมีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด การดื่มไวน์หลังมื้ออาหารเย็นจะช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดเช้าวันถัดไปได้ดี