ฮีโร่ของฉัน…ปะป๊าสู้สู้
“ตัวอย่างที่ดีมีค่ามากกว่าคำสอน”
เมื่อฉันได้ยินประโยคนี้ครั้งแรก ทำให้ฉันนึกถึงปะป๊าขึ้นมาทันทีทันใด ปะป๊าที่ฉันรู้จักมาตั้งแต่เด็ก ท่านเป็นคนพูดน้อย แต่ทำมาก รักครอบครัว รับผิดชอบ เป็นผู้นำครอบครัวที่ดีมาก
ครอบครัวของฉันเคยผ่านช่วงไอเอ็มเอฟเศรษฐกิจตกสะเก็ดมาด้วยกัน ตอนนั้นที่บ้านประสบปัญหาอย่างหนัก ต้องปิดกิจการลง พร้อมกันนั้นก็เป็นปีเดียวกับที่ฉันเอนทรานซ์ไม่ติดด้วย แต่ท้ายที่สุดพวกเราก็ผ่านกันมาได้และทำให้รักกันมากขึ้น แต่ด้วยผลพวงทางเศรษฐกิจครั้งนั้น ทำให้ไม่นานต่อมาปะป๊าก็ตื่นขึ้นมาชงชาดื่มไม่ได้เหมือนอย่างเคย ปะป๊ารินชาหกเพราะกะไม่ถูก ขับรถไม่ได้ เกือบชนประตูบ้าน ปะป๊าเรียกอาหารเหล่านั้นว่า “การเสียศูนย์” ท่านรู้ตัวเองดีว่ามันต้องมีอะไรผิดปกติแน่นอน จึงรีบไปหาหมอ
หมอบอกว่า โชคดีที่มาทัน เพราะปะป๊าเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ หากมาช้ากว่านี้อีกเพียงสองชั่วโมงอาจเป็นอัมพาตได้ และได้อธิบายให้ปะป๊าทราบว่า ปะป๊ามีปัจจัยเสี่ยงครบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอายุ (อายุ 50 – 60 ปีมักเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ ตอนนั้นปะป๊าอายุประมาณ 50 ปี) สูบบุหรี่ อ้วน ไม่ออกกำลังกาย และเครียด ปะป๊าเข้าข่ายทุกประการอย่างที่หมอบอก
เมื่อปะป๊าได้ยินอย่างนั้น ท่านก็รู้ตัวดี และเนื่องจากท่านรักตัวเองและครอบครัวมาก ท่านไม่อยากให้ลูกหลานลำบากถ้าหากท่านเป็นอะไรไป ปะป๊าจึงตัดสินใจเลิกบุหรี่อย่างเด็ดขาดนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ทั้ง ๆ ที่สูบมานานตั้งแต่วัยรุ่น และทั้ง ๆ ที่ลูก ๆ เคยขอร้อง ต่อรองให้เลิกสูบมานับครั้งไม่ถ้วน แต่สุดท้ายท่านก็ทำได้
เรื่องน้ำหนักที่เกินมาก คุณหมอให้ลดลงประมาณสิบหกกิโลกรัม ปะป๊าค่อย ๆ เปลี่ยนวิถีชีวิตตัวเองใหม่หมด จากไม่เคยออกกำลังกายเลย ก็หันมาเดินออกกำลังกายทุกเย็น ปะป๊าค่อย ๆ เรียนรู้ร่างกายของตัวเอง จากที่เริ่มด้วยการเคยออกกำลังกายอย่างหักโหมจนเจ็บเข่า ก็ค่อย ๆ ปรับการออกกำลังกายไปพร้อมกับการควบคุมอาหารไปด้วย จากที่ปะป๊าเคยชอบกิน 4 มื้อประจำ ชอบกินอาหารตอนดึก ๆ กินขาหมู กินของหวาน ก็เปลี่ยนใหม่ ไม่กินตอนดึก เน้นกินผักผลไม้ จนในที่สุดปะป๊าสามารถลดน้ำหนักลงมาได้ถึงสิบกิโลกรัมในระยะเวลาไม่นาน และท่านก็รู้สึกได้ว่า ร่างกายมีกล้ามเนื้อ เพราะท่านออกกำลังกายด้วยการเดินเร็วทุกเย็น
วิถีชีวิตของท่านเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ มีสุขภาพกายที่แข็งแรงขึ้น แรก ๆ อาจมีเสมหะมากเนื่องจากสูบบุหรี่มานานถึงสี่สิบปี ท่านรู้สึกได้เลยว่า สมัยก่อนปอดของตัวเองเต็มไปด้วยควันพิษจากบุหรี่สะสมเป็นจำนวนมาก สมัยนี้เห็นใครสูบบุหรี่กลับรู้สึกเหม็นควันบุหรี่ขึ้นมาทันที
เมื่อสุขภาพกายแข็งแรง สุขภาพใจท่านก็ดีมากขึ้นด้วย ท่านพยายามไม่เครียด ปล่อยวางได้มาก ทุกวันนี้ปะป๊าใช้ชีวิตอย่างพอดีและพอเพียง เข้าใจชีวิตมากขึ้น และมีความสุขตามอัตภาพ ไม่ต้องโลภมากหรืออยากรวยมาก แต่เพราะท่านรู้แล้วว่า ชีวิตคนเราสุดท้ายก็ไม่เหลืออะไร จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีสิ่งต่าง ๆ มากมาย ปะป๊าจึงไม่กลับไปสู่วงจรอุบาทว์ ที่ต้องหาเงินเยอะ ๆ แข่งขันกันสุดฤทธิ์สุดเดช โดยปราศจากความพอดี แต่หันมาสร้างความสุขจากใจตัวเอง ด้วยการมีครอบครัวที่อบอุ่น มีชีวิตที่เรียบง่าย มีพอกินพอใช้ ไม่เป็นหนี้ใคร ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร มีเวลาว่างก็ท่องเที่ยวบ้าง และทำแต่ละวันให้มีความสุขด้วยการมีสติอยู่กับปัจจุบัน
แค่นี้ก็สุดยอดแล้ว…ฮีโร่ของฉัน
ที่มา นิตยสาร Secret
เรื่อง การัณยา จิตติชัยรัตน์