บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ยกทัพนวัตกรรมทีวีพรีเมียมใหม่ล่าสุดของปี 2562 มาเปิดตัวแก่แฟน ๆ ชาวไทย ชูการประมวลผลแบบ Deep Learning ผ่านเทคโนโลยี Artificial Intelligence (AI) ที่ได้รับการพัฒนาให้อัจฉริยะยิ่งขึ้นอย่างรอบด้านเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมทีวี ตอกย้ำความเป็นผู้นำวงการด้วยเทคโนโลยีหน้าจอที่ก้าวล้ำที่สุดกับ LG OLED TV ซีรี่ส์ W9 ขนาด 77 นิ้ว มาพร้อมชิปประมวลผลใหม่ α9 (อัลฟา 9) Intelligent Processor
เจเนอเรชั่น 2 เรียนรู้ข้อมูลในเชิงลึกยิ่งขึ้นแบบ Deep Learning มอบความอัจฉริยะรอบด้านทั้งภาพ (AI Picture) เสียง (AI Sound) และการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน ThinQ AI (AI Smart) พร้อมเปิดตัวไลน์อัพทีวีในตระกูล LG NanoCell TV เสริมประสิทธิภาพด้วยชิปประมวลผล α7 (อัลฟา 7) Intelligent Processor เจเนอเรชั่น 2 และ LG Big Screen TV ตอบโจทย์ผู้ชื่นชอบจอใหญ่จุใจขนาดใหญ่สุดถึง 86 นิ้ว มอบความคมชัดสมจริงทุกมุมมอง เพื่อประสบการณ์ความบันเทิงที่เต็มอรรถรสอย่างสมบูรณ์แบบ
นายนิพนธ์ วงษ์แสงอรุณศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “พฤติกรรมของผู้บริโภคในตลาดโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ปัจจุบันหันมานิยมทีวีขนาดใหญ่กว่า 70 นิ้วเพิ่มมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด และให้ความสนใจในเรื่องของคุณภาพเสียงและความก้าวหน้าของเทคโนโลยี AI กันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งไลน์อัพทีวีใหม่ของแอลจีเหล่านี้ สามารถตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวได้อย่างตรงจุด โดยในปีนี้ เราได้เพิ่มตัวเลือกขนาด 77 นิ้วของทีวี OLED ซีรี่ส์ C9 จากเดิมที่มีเพียงขนาด 65 และ 55 นิ้ว ทีวี NanoCell ซีรี่ส์ SM94 ขนาด 75 นิ้ว และ Big Screen TV ซีรี่ส์ UM75 ขนาดใหญ่สุด 86 นิ้ว รวมทั้งต่อยอดความเป็นผู้นำนวัตกรรมด้านทีวีด้วยการพัฒนาเทคโนโลยี AI ที่อัจฉริยะยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพื่อสร้างอรรถรสที่เต็มอิ่มขึ้นในทุก ๆ ด้านของการรับชมความบันเทิง และเราจะยังคงพัฒนานวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของแอลจีในการนำเสนอชีวิตที่ดีขึ้นในทุกมิติให้แก่ผู้บริโภค”
ไลน์อัพทีวีของแอลจีในปี 2562 นี้นำโดยทีวีในตระกูล LG OLED TV ซีรี่ส์ W9, C9, B9 และ LG NanoCell TV ซีรี่ส์ SM9400, SM9000 และ SM8600 โดดเด่นด้วยชิปประมวลผลอัจฉริยะ เจเนอเรชั่น 2 ของ α9 Intelligent Processor (W9, C9) และ α7 Intelligent Processor ที่พัฒนาบนพื้นฐานของเทคโนโลยี AI ให้ประมวลผลได้แบบ Deep Learning จึงสามารถเรียนรู้จากการจดจำและวิเคราะห์ข้อมูลได้ในเชิงลึกอย่างชาญฉลาด พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพความรวดเร็วในการประมวลผลทั้งภาพ เสียง และการใช้งานสมาร์ททีวี เสริมความอัจฉริยะให้ก้าวล้ำอย่างรอบด้าน
AI Picture: ยกระดับภาพคมชัดตระการตาสมจริงยิ่งขึ้น
ด้วยเทคโนโลยี AI ของชิปประมวลผลอัจฉริยะเจเนอเรชั่นที่ 2 ทีวีในตระกูล LG OLED TV และ
LG NanoCell TV จึงเลือกใช้อัลกอริทึ่มในการประมวลผลที่เหมาะสมกับสัญญาณภาพของคอนเทนต์แต่ละประเภท และยกระดับคุณภาพของการแสดงภาพให้คมชัดสมจริงที่สุด พร้อมปรับระดับความสว่างของภาพ HDR บนหน้าจออัตโนมัติผ่านเซนเซอร์รับแสง (AI Brightness) โดยเป็นการปรับความสว่างเฉพาะจุด ไม่ใช่การปรับแสงทั่วทั้งหน้าจอ จึงแสดงรายละเอียดความคมชัดของทุกฉากได้อย่างชัดเจนในทุกสภาพแสงไม่ว่าจะอยู่ในห้องที่มีแสงจ้าหรือห้องมืดก็ตาม
AI Sound: เปิดโสตประสาทด้วยคุณภาพมิติเสียงทรงพลังรอบทิศทาง 5.1 แชนแนล
สร้างปรากฎการณ์เปิดโสตประสาทด้วยการปรับปรุงคุณภาพเสียงจาก 2.0 แชนแนลเป็น 5.1 แชนแนล ให้เสียงที่ออกมาทรงพลังมีมิติขึ้นอย่างเห็นได้ชัดไม่ว่าจะมาจากต้นฉบับแบบใด อีกทั้งยังสามารถระบุตำแหน่งผู้รับชมผ่านเมจิกรีโมทเพื่อส่งตรงเสียงไปยังตำแหน่งดังกล่าว (AI Acoustic Tuning) ให้ผู้รับชมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของโลกแห่งความบันเทิงได้อย่างลึกล้ำมากยิ่งขึ้น ปลดล็อกอรรถรสในการรับชมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
AI Smart: ฉลาดลึกล้ำยิ่งขึ้นเมื่อ ThinQ AI มาพร้อมกับ Google Assistant
หลังจากที่ได้พัฒนาระบบสั่งงานด้วยเสียง ThinQ AI อย่างต่อเนื่องไปเมื่อปีที่ผ่านมา ระบบ ThinQ AI ใน LG OLED TV, LG NanoCell TV และ LG UHD TV รุ่นใหม่มาพร้อม Google Assistant แบบ built-in สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพโดยไม่ต้องมีอุปกรณ์เสริมใด ๆ และยังพัฒนาให้สามารถรองรับคำสั่งภาษาไทยได้ทั้งคำสั่งพื้นฐานในการควบคุมทีวี รวมถึงการค้นหาคอนเทนต์จากเน็ตฟลิกซ์ ยูทูป หรือกูเกิล ซึ่งทีวีสามารถรับรู้คำภาษาไทยได้อย่างแม่นยำ ตอบโจทย์เรื่องความง่ายของการใช้งานทีวีเพียงพูด สิ่งที่ต้องการก็ปรากฎขึ้นบนจอทันที
นอกจากนี้ สมาร์ททีวีไลน์อัพใหม่ในทุกตระกูลจากแอลจียังสามารถรองรับระบบ Apple AirPlay 2 เพิ่มความสะดวกสบายในการแชร์คอนเทนต์ทั้งภาพและเสียงจากอุปกรณ์ของ Apple ไปยังทีวีอย่างง่ายดาย พร้อมเพิ่มฟังก์ชั่น Home Dashboard เสริมเทคโนโลยี IoT มอบความสะดวกสบายในการควบคุมคำสั่งพื้นฐานของอุปกรณ์สมาร์ทโฮมและเครื่องใช้ไฟฟ้าแอลจีที่มาพร้อมระบบ Smart ThinQ เช่น เครื่องดูดฝุ่น เครื่องซักผ้า และเครื่องปรับอากาศ ได้จากทีวีโดยตรง พร้อมเพิ่มช่องต่อ HDMI 2.1 ที่แสดงเฉดสีได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด รองรับภาพระดับ 4K HFR ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี AI ในทีวีทุกตระกูลของแอลจี ไฮไลต์ของปีนี้ยังรวมถึงทีวีจอ LED ที่มีความแม่นยำในการควบคุมสีมากที่สุดด้วยเทคโนโลยี NanoCell โดดเด่นด้วยสีสันที่ละเอียดและเสมือนจริงเป็นธรรมชาติ (Nano Color) จัดวางหลอด LED แบบ Full Array Local Dimming (FALD) เสริมมิติความดำสนิทมากยิ่งขึ้น (Nano Dimming) มีองศาการรับชมที่กว้างถึง 178 องศาโดยที่สีไม่ผิดเพี้ยน (Nano Accuracy) ในดีไซน์เรียบง่ายล้ำสมัย บนขาตั้งพระจันทร์เสี้ยว (Nano Bezel) ลงตัวกับทุกการตกแต่งอย่างสมบูรณ์แบบ รวมถึงทีวีในตระกูล Big Screen TV และ UHD TV ในราคาเข้าถึงง่าย ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่มที่มองหาความบันเทิงในระดับเหนือชั้น เพื่อประสบการณ์ในการรับชมที่สมบูรณ์แบบที่สุด
“ด้วยทีวีไลน์อัพซึ่งครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการประสบการณ์ด้านความบันเทิงภายในบ้านที่แตกต่างนี้ เราตั้งเป้าเป็นผู้นำตลาด 4K TV โดยมีส่วนแบ่งการตลาดที่ 35% ภายในปี 2562 นี้” นายนิพนธ์กล่าว
LG OLED TV ซีรี่ส์ W9, C9 และ B9 ราคาเริ่มต้น 74,990 – 599,990 บาท LG NanoCell TV ซีรี่ส์ SM9400, SM9000, SM8600 และ SM8100 ราคาเริ่มต้น 23,990 – 119,990 บาท และ LG UHD TV
ซีรี่ส์ UM7600, UM7500, UM7300, UM7290 และ UM7100 ราคาเริ่มต้น 13,490 – 109,990 บาท ผู้ที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลแอลจี 0-2878-5757 หรือ www.lg.com/th พร้อมสามารถติดตามกิจกรรมต่าง ๆ จากแอลจีได้ทาง