“จิตตก” เป็นคำที่เราคุ้นหูและมักจะใช้พูดกันเวลาที่มีอะไรมากระทบจิตใจเราแล้วมันทำให้เราเกิดความไม่สบายใจและไม่สามารถจัดการกับปัญหาเหล่านั้นได้จนทำให้เราเกิดความเครียด กดดันหรือรู้สึกวิตกกังวล เกรงว่าสิ่งที่ไม่ดีจะเกิดขึ้น จะมีความเสียหายเกิดขึ้น คิดว่าจะไม่ประสบความสำเร็จ คิดว่าจะล้มเหลว ทำให้เกิดอาการวิตกกังวล ซึ่งเรารู้ดีค่ะว่าช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่เรายังไม่สามารถจัดการกับความคิดและจิตใจของตัวเองได้ หรือยังไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์ที่กดดันได้มากนัก แต่อย่างไรเสียเราก็ยังคงต้องดูแลเยียวยารักษาใจตัวเองให้ได้อยู่ดี ต้องอย่าไปจมดิ่งลงไปกับปัญหาหรือเหตุการณ์ที่ทำให้จิตตกนาน เพราะหากเรายิ่งจมอยู่กับอาการจิตตกนานเท่าไร เราก็ยิ่งจะสูญเสียโอกาสในการเดินหน้าในชีวิต มากเท่านั้น
แต่ก็ไม่ใช่ว่าในภาวะจิตตกจะไม่มีข้อดีเอาซะเลย มันก็มีอยู่บ้าง เพราะอาการจิตตกมักจะเกิดขึ้นในยามที่เราเจอปัญหา และปัญหานั้นๆ อาจทำให้เรารู้จักเปลี่ยนมุมมองต่อสิ่งต่างๆ กลายเป็นจุดพลิกผันทำให้เราเติบโตและก้าวหน้าขึ้นได้เช่นกัน เราลองมาดูกันว่า เมื่อจิตตก ให้มองในแง่ดี ว่าเราจะได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างจากเหตุการณ์ที่เจอ แล้วจะทำให้เรามองเห็นทางออกของปัญหามากขึ้น พูดง่ายๆ คือ เมื่อใดที่จิตตกมันทำให้คนเรามีสติมากขึ้นนั่นเอง
เมื่อ “จิตตก” จะเป็นโอกาสให้คนเราได้สำรวจตัวเอง
หลายคนคงเคยมีประสบการณ์การจิตตกแบบไม่มีสาเหตุ รู้ตัวอีกทีใจก็ดิ่งลึกเหมือนหล่นลงไปอยู่ก้นหลุมแถมใช้เวลานานกว่าจะกู้คืนให้ปกติ และด้วยธรรมชาติของมนุษย์แล้วอารมณ์ความรู้สึกสามารถเคลื่อนที่ขึ้นลง เหวี่ยงไปมาได้เสมอ หากมีบางจังหวะที่ความรู้สึกเราดิ่งวูบ หรือที่พูดกันติดปากว่าจิตตก จึงไม่ใช่เรื่องผิดธรรมชาติ และที่สำคัญอาการจิตตกที่เกิดขึ้นนั้นล้วนมีสาเหตุ ในช่วงที่เรารู้สึกว่าจิตใจของตัวเองดาวน์ลงอาจเป็นช่วงที่เราได้นั่งทบทวนตัวเอง เป็นโอกาสดีที่เราจะได้ลองคุยกับตัวเองว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญหรือไม่สำคัญของชีวิตอย่างแท้จริง ได้เรียนรู้และฝึกคิดว่าไม่มีอะไรที่เป็นได้ดั่งใจเราไปหมดทุกอย่าง บางทีสถานการณ์หรือเหตุการณ์นั้นๆ ก็ทำให้เรารู้จักการเยียวยา และรักษาตัวเองขึ้นมาใหม่
เมื่อ “จิตตก” ทำให้เรารู้จักฝึกมองปัญหาไปสู่การแก้ไขให้อนาคตดีขึ้นได้
สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มใจหล่นและจิตตกยังไม่ลึก สิ่งสำคัญคือต้องรับรู้ตัวเองก่อนว่ากำลังจิตตก อย่าเพิ่งไปคิดถึงวิธีการรักษา แค่กำลังรับรู้ว่าตัวเองกำลังเผชิญความรู้สึกอะไรอยู่ก็เป็นคุณสมบัติเบื้องต้นของคนที่มีสุขภาพจิตดีแล้ว ในความเป็นจริงช่วงที่คนเรากำลังจิตตกหรือรู้สึกเฟลกับอะไรบางอย่าง มักจะทำให้คนเรานั้นนึกย้อนไปถึงอดีตที่ผ่านมา เช่น ถ้าเป็นเมื่อก่อนเราคงแก้ปัญหาแบบนั้นแบบนี้ แล้วก็ผ่านมันมาได้แล้ว ทำให้เอาวิธีนั้นมาใช้กับสถานการณ์แย่ๆ ในปัจจุบัน และทำให้มองไปถึงอนาคตว่าถ้าเรายังมัวจมอยู่กับเรื่องแบบนี้อนาคตเราไม่มีทางมีความสุขแน่
การกระทำแบบนี้เป็นสร้างความคิดในแง่บวกก็ได้ คิดถึงเพื่อนเก่าๆ ก็ลองโทรหา หรือนัดเจอแล้วคุยเรื่องเก่าๆ เวลาเรานึกถึงเรื่องเหล่านั้นเราจะมีความสุขและสนุกมาก ทำให้เกิดอาการยิ้มไม่หุบ ซึ่งอาจสร้างความสนใจให้คนรอบข้างได้ว่า คนอะไรยิ้มคนเดียวได้ อย่าไปสนค่ะ อย่าได้แคร์ นึกถึงตอนไหน ยิ้มแล้วก็สนุกไปในตอนนั้นเลย หรืออาจจะนึกถึงตอนที่ ทำอะไรเปิ่นๆ ฮาๆ แบบว่า เออเนอะ ตอนนั้นก็ทำไปได้ ในช่วงที่คุณแย่ แม้ความสุขจะมีน้อยนิด แต่มันไม่ได้หายไปจากความทรงจำคุณหรอกครับเรื่องสนุกในวันวาน มันต้องมีมากกว่า 1 เรื่องสิน่า
>>อ่านต่อหน้าถัดไป<<