มรสุมชีวิต หมู-ดิลก ทองวัฒนา จากพระเอกดาวรุ่งสู่วันที่ไม่เหลืออะไร
พระพุทธเจ้าตรัสถึงความไม่เที่ยง ไม่มีสิ่งใดจีรังยั่งยืน มีขึ้นแล้วก็ต้องมีลงเป็นเรื่องธรรมดา ในวันที่ท้องฟ้าสดใสอยู่ ๆ กลับกลายเป็นวันที่มืดมนด้วยเมฆฝน ชีวิตของมนุษย์ธรรมดากับการพบพานกับความสุขและความทุกข์เป็นเรื่องปกติของธรรมชาติ สิ่งนี้เรียกว่า “โลกธรรม 8” มรสุมชีวิต ไม่ต่างจากพายุร้ายที่โถมกระหน่ำเข้าหา เรื่องที่เราอยากแชร์ เพื่อให้เป็นแรงบันดาลใจ และกำลังใจในการต่อสู้กับมรสุมชีวิตในวันนี้ มาจากการเล่าสู่กันฟังของคุณหมู ดิลก ทองวัฒนา ดารารุ่นใหญ่ที่แสดงบทบาทคุณพ่อได้เยี่ยมจนหาใครเทียมได้ยาก จนมีฉายาว่า “พ่อทุกสถาบัน” ผ่านรายการ คุยแซ่บ Show
ก่อนที่คุณหมู-ดิลกจะมาเป็นนักแสดง เขาอาศัยอยู่ในบ้านเช่า ไม่เคยมีบ้านเป็นของตนเอง จนกระทั่งได้เป็นนักแสดงจึงพอเก็บเงินซื้อบ้านได้ แล้วกลายมาเป็นเรือนหอหลังจากแต่งงานครั้งแรก เมื่อเป็นพระเอกได้สัก 4-5 ปี และแต่งงานได้ 7 ปี ชีวิตคู่ก็มาถึงทางตัน ทั้งสองตัดสินใจหย่าร้างกัน สุดท้ายเขาก็ไม่ได้อะไรติดตัวมาเลยแม้นของที่หามาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรง เพราะคุณหมูยกทรัพย์สินให้เป็นสินเดิมไม่ได้ยกให้เป็นสินสมรส
ตอนเป็นพระเอกอะไรก็ดีไปหมด มีชื่อเสียงและคนรู้จัก แล้วมีความสุขดีและเงินในกระเป๋าใช้ แต่เมื่อชีวิตขาดความสมดุลโดยเฉพาะเรื่องเงิน นับว่าชีวิตช่วงนั้นมีปัญหามาก เป็นมรสุมชีวิตเลยก็ว่าได้ ความรักพัง การงานแย่ การเงินไม่ต้องเอ่ยถึง สิ้นเนื้อประดาตัว ไร้บ้าน ไร้รถ
ตอนนั้นได้แต่โทษว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาเป็นความผิดของคนอื่น ร้องไห้ทุกวันกับความผิดหวัง พอนาน ๆ เข้าเริ่มมีสติคิดได้ว่าสิ่งที่เขาเป็นตอนนี้ เช่น การร้องไห้ทุกวัน ตั้งคำถามที่หาคำตอบไม่ได้ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นสิ่งที่มีประโยชน์อะไรเลยกับชีวิต เมื่อคิดได้ดังนั้นก็เลิกร้องไห้ เลิกโทษคนอื่น เคยคิดสั้นแต่เป็นบางชั่วขณะเท่านั้น เพราะสิ่งที่ทำให้ไม่ทำตามที่คิดคือ คุณแม่และคนในครอบครัว ทำให้มีใจคิดสู้ เลยผกผันเข้ามาสู่เส้นทางงานขายประกันชีวิต
จากอาชีพนักแสดงที่เป็นที่ชื่นชอบของคนในสังคม ต้องมาเป็นคนขายประกัน คิดถึงสายตาคนอื่นที่มอง แต่ก่อนที่จะนึกถึงสายตาของคนอื่นเราควรมองตนเองก่อน สิ่งที่ทำให้คุณหมูเลิกคิดถึงสายตาของคนรอบข้างคือ “เราเกิดมาเพื่อทำงาน งานอะไรก็ได้ที่มันสุจริต”
เหตุการณ์ที่พบลูกค้าปฏิเสธถึงขนาดเขียนโน้ตใส่กระดาษแล้วส่งมาให้ว่า “อธิบายเสร็จออกจากบ้านไปด้วย เราไม่ซื้อ” เขารับโน๊ตนั้นมาแล้วแอบเข้าไปอ่านในห้องน้ำ น้ำตาหยดลงบนกระดาษโน้ตด้วยความสงสารตนเอง แต่เขาคิดว่ามันเป็นสิทธิ์ของลูกค้าที่จะปฏิเสธ แรก ๆ อาจมีความสะท้อนใจบ้าง แต่สุดท้ายก็ถามตนเองว่า “ตั้งใจทำอาชีพนี้ใช่มั้ย ก็ตอบตัวเองว่าใช่”
ช่วงที่เปลี่ยนสายงานเป็นจุดต่ำสุดของชีวิตที่เขาก็ผ่านมันมาได้ เคยเหลือเงินติดตัวแค่ 27 บาท เพราะตอนนั้นกำลังสร้างเนื้อสร้างตัวกับภรรยา ทั้งคู่ต้องนำเงินเดือนมาดาวน์บ้าน จนเหลือเงินแค่ 27 บาท เลยต้องลุ้นกันต่อว่าเงินจำนวน 27 บาทนี้เราจะสู้ต่อไปทั้งเดือนอย่างไร
ขอบคุณข้อมูลจากรายการ คุยแซ่บ Show
เส้นทางชีวิตของคุณหมู-ดิลก ทองวัฒนา จากจุดสูงสุดของชีวิตที่ได้รับ ลาภ ยศ สรรเสริญ และความสุข ผันมาเป็นเลื่อมลาภ เลื่อมยศ นินทา และความทุกข์ พระพุทธเจ้าตรัสถึงไตรลักษณ์ กฎ 3 ข้อที่เป็นลักษณะตามจริงของธรรมชาติ ได้แก่ อนิจจัง (ทุกสิ่งไม่เที่ยง) ทุกขัง (ทุกสิ่งไม่ทนในสภาพเดิม) และ อนัตตา (ทุกสิ่งไม่มีตัวตนไม่สามารถบ่งการได้)
ไม่ว่าจะเป็นชีวิตของคุณหมูหรือใครก็ตามไม่มีใครหนีพ้นกฎของธรรมชาติ 3 ข้อนี้ไปได้ โลกธรรม 8 ก็สืบมาจากกฎไตรลักษณ์ คือ เราไม่สามารถบ่งการ (อนัตตา) ให้อยู่ในจุดที่มีความสุข ดำรงไว้ซึ่งลาภ ยศ และคำสรรเสริญ ทุกสิ่งต้องเปลี่ยนแปลง (อนิจจัง) เพราะไม่มีสิ่งใดสามารถหยุดให้อยู่กับที่ได้ (ทุกขัง) ได้ตลอดไป ไม่มีความสุขและความทุกข์ที่ถาวร
หวังว่าเรื่องราวเส้นทางชีวิตของคุณหมู-ดิลก ทองวัฒนาจะเป็นประโยชน์ ให้ผู้อ่านเข้าใจถึงธรรม (ชาติ) และมีแรงบันดาลใจที่จะรอคอยด้วยความอดทน (ระหว่างที่รอคอยก็ต้องต่อสู้ด้วย เป็นการปฏิบัติฉันทะ) จนกว่ามรสุมชีวิตจะผ่านพ้นไป ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกท่านค่ะ
ที่มา :
ภาพ :
บทความน่าสนใจ
อ๋อง – พัฒนะ พันธุ์เทวะ ดาราหนุ่ม นักสู้ชีวิต ได้ดีทุกวันนี้ เพราะมีพี่ชายเป็นไอดอล
จากเด็กแสบที่เคยทำพ่อแม่เสียใจ สู่ชีวิตที่คิดได้เมื่อเข้าถึงความเป็นพุทธของ ท็อป จรณ โสรัตน์
แม็กซ์ เดี่ยวดวลไมค์ กับ 9 ปีที่สู้ชีวิตจนได้แชมป์เดี่ยวดวลไมค์
คิดบวก ชีวิตบวก ข้อคิดสู่ชีวิตเป็นสุข จาก ท่านว.วชิรเมธี
ดร.ปัญญา แซ่ลิ้ม จากเด็กเรียนหนังสือไม่เก่งของห้องสู่การเป็นเด็กนักเรียนทุนอานันทมหิดล