แม็กซ์ เดี่ยวดวลไมค์ กับ 9 ปีที่สู้ชีวิตจนได้แชมป์เดี่ยวดวลไมค์
เรื่องราวต่อไปนี้ที่ซีเคร็ตจะนำมาเล่าคือเรื่องของชายคนหนึ่งจากเวทีเดี่ยวดวลไมค์ไทยแลนด์ แถมเขายังเป็นแชมป์คนแรกของเวทีนี้อีกด้วย ชื่อของเขาคือ “แม็กซ์- ตรัย นุ่มแก้ว” หรือ แม็กซ์ เดี่ยวดวลไมค์
แม็กซ์-ตรัย นุ่มแก้ว หรือ แม็กซ์ เดี่ยวดวลไมค์ ได้บอกเล่าเรื่องราวและประสบการณ์ชีวิตของเขาที่กว่าจะเข้าสู่วงการหลังจากเป็นแชมป์ เวทีเดี่ยวดวลไมค์ หนทางก่อนหน้านี้เขาต้องเผชิญกับอุปสรรคในชีวิตมามาก ผ่านเฟชบุ๊กส่วนตัวที่ใช้ชื่อว่า “แม็กซ์ ตรัย นุ่มแก้ว” เขาเกริ่นว่า
เมื่อ พ.ศ. 2552 แม็กซ์ขึ้นรถไฟเข้ามายังกรุงเทพมหานครเพื่อหางาน เขาลงที่สถานีปลายทางคือ หัวลำโพง แล้วต่อรถเมล์สาย 113 (หัวลำโพง-มีนบุรี) ไปลงที่รามคำแหง เขาหางานที่เขาสนใจ จนเลือกงานที่สมัครไว้ในตอนนั้น 5 อาชีพคือ เด็กเสิร์ฟอาหารร้านหมูกระทะ, เด็กแจกใบปลิวหน้าราม ,พนักงานร้านเซเว่น ,รปภ. และคนงานแบกข้าวสารส่งร้านต่างๆ
ขณะนั้นคิดเพียงว่าทำงานอะไรก็ได้ เพื่อให้ตนเองมีรายได้วันละ 200 บาท ที่สามารถพอเลี้ยงตัวเองได้ พอจ่ายค่าเทอมที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง และค่าห้องพัก สุดท้ายเลือกเป็นพนักงานร้านเซเว่น ได้เงินเดือนประมาณ 5,000 บาท เลือกทำกะกลางคืน เพื่อได้มีเวลาพักผ่อนตอนกลางวันและมีเวลาอ่านหนังสือทบทวนบทเรียนในช่วงบ่าย ตอนนั้นทำงาน 6 วัน หยุดพักเฉพาะวันจันทร์ จึงเลือกที่จะลงวิชาส่วนใหญ่ในวันนี้ เพื่อให้ได้มีโอกาสฟังอาจารย์สอนอย่างจริงจัง ด้วยทำงาน 6 วันและเรียนอีก 1 วันเต็ม ไม่ได้หยุดพัก เคยเป็นลมบนรถเมล์มาแล้ว 2 ครั้งด้วยกัน เพราะพักผ่อนน้อย
การเป็นพนักงานร้านเซ่เว่นต้องเผชิญกับความยากลำบาก เช่น “ ทุกครั้งที่กำลังถูพื้น ซึ่งวันนึงๆต้องถูเป็นร้อยรอบ จากลูกค้ามากมายที่เหยียบย้ำเข้ามา ตอนนั้นทุกครั้งที่มือกำลังโยกหน้าโยกหลัง บรรจงถูพื้น ถูซ้ำๆย้ำๆอยู่วันหลายรอบ หลายครั้งแอบไปร้องหลังร้าน เพราะมันเหนื่อยและง่วงมาก ตี3นี่ร้องบ่อยเพราะเงียบดี
อยู่ไกลบ้านนี่ มันโครตอ้างว้างโดดเดี่ยวเลย สมองว่างเมื่อไหร่ หน้าพ่อแม่ก็ลอยมา
” คือเราอยู่กรุงเทพอ่า พ่อแม่เขาไม่รู้หรอกว่าเรากำลังทำอะไรอยู่บ้าง แต่เราอ่ารู้ตัวเองเว่ย ว่าเรากำลังทำอะไรเพื่อเขาอยู่?
“ในใจผมก็คิดว่า ทำไมกูต้องมาตามถูตามเช็ดให้ใครก็ไม่รู้ที่ทำสกปรกไว้ด้วย คำตอบที่ได้ตอนนั้นก็คือ
จะเอาวันละ 200 ก็ต้องถู ไม่ต้องสน ว่าถูรอยเท้าใคร เพราะหน้าที่เราอะคือถู ไม่ถูก็ออกไปเป็นลูกค้าแต่จะไม่ได้ตังค์นะ
” นับตั้งแต่ได้คำตอบผมก็ตั้งหน้าตั้งตาถูมาเรื่อย ถูอย่างตั้งใจ ประกอบกับไม่ทิ้งเรียนทิ้งฝันไขว่คว้าสู้พยายามผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน จากงานถูงานแบกงานยกงานหามงานพากย์งานพูด จนปัจจุบันไม่ต้องไปถูพื้นให้เขาแล้ว”
ระยเวลา 9 ปีที่ แม็กซ์ ตรัย นุ่มแก้วออกบ้านมาเผชิญชีวิตที่กรุงเทพฯ ทำให้เขามองเห็นอะไรบางอย่าง ได้ชัดเจนคือ รอบตัวของเราจะมีสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า “โอกาส” ลอยอยู่มากมาย เราต้องพยายามมองหาและคว้ามันให้ได้ เดินหน้าทำตามความฝันอย่างสม่ำเสมอ ออกเดินทางทุกวัน ถึงแม้ว่าจะยังไม่ถึงฝั่งฝันก็ตาม จนดูเหมือนราวกับว่ามันค่อยๆถอยห่างออกไปไกลกว่าเดิมก็ตาม
แต่ถ้าเราทำอะไรเหมือนเดิม ผลลัพธ์มันก็จะเหมือนเดิม
วันนั้นถ้าผมเลือกที่จะเฉยเมยต่อโอกาส และคร้านที่จะสู้กับชีวิต ตอนนี้ผมคงมีอายุงานด้านการถูพื้นยาวนานถึง 9 ปี ถูยังไงก็ถูอยู่อย่างนั้น ไม่มีทางเปลี่ยนแปลง
อย่างที่เขาบอกว่า ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น ประโยคนี้เขาไม่ได้แต่งขึ้นมา สำหรับพูดสวยๆ เท่านั้น แต่มันใช้ได้จริง และสิ่งสำคัญคือระหว่างทางที่เรากำลังสู้ อย่าไปให้ราคากับคำของคนที่เขาพูดดูถูกเรา (ชั่งเขา เขามีปากก็ให้เขาพูดไป) แต่ขอให้จดจำทุกกำลังใจ และทุกบุญคุณที่คนอื่นเขาให้ความช่วยเหลือเราระหว่างทางเป็นพอ
ซีเคร็ตขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจแก่ทุกคนที่กำลังก้าวไปบนเส้นทางฝัน ความฝันจะเป็นจริงได้ต่อเมื่อเราลงมือทำมัน ขอขอบคุณเรื่องราวดีๆที่คุณตรัย นุ่มแก้ว หรือ แม็กซ์ เดี่ยวดวลไมค์ ถ่ายทอดให้อ่านค่ะ
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
www.facebook.com/แม็กซ์ – ตรัย นุ่นแก้ว
บทความน่าสนใจ
3 วิธี เปลี่ยนสู่ชีวิตใหม่ ที่ใช้ได้ตลอดปีและตลอดไป โดย ท่านปิยโสภณ
คิดบวก ชีวิตบวก ข้อคิดสู่ชีวิตเป็นสุข จาก ท่านว.วชิรเมธี
พี่สาวสู้ชีวิต ป่วยมะเร็งกว่าทศวรรษ
กชพรรณ วิรุฬห์รักษ์สกุล จากแม่ค้าเร่สู้ชีวิต สู่เศรษฐีร้อยล้าน
จากเด็กแสบ ที่เคยทำพ่อแม่เสียใจ สู่ชีวิตที่คิดได้เมื่อเข้าถึงความเป็นพุทธ ของท็อป จรณ โสรัตน์
Dhamma Talk : วิธี “ทิ้ง” ความ…”ท้อแท้ ” โดย พระอาจารย์นวลจันทร์ กิตติปัญโญ