เคล็ดลับในการทำต้มเลือดหมู
เลือกเลือดหมูก้อนที่ทำใหม่ๆ เนื้อจะนุ่ม ไม่แข็งกระด้างมีรสหวานในตัว นำก้อนเลือดหมูมาลวกน้ำร้อนและนำไปต้มกับน้ำซุปหมูเพื่อให้น้ำซุปซึมเข้าเนื้อ
สรรพคุณและประโยชน์จาก ต้มเลือดหมู
ต้มเลือดหมู นอกจากจะอร่อยแล้วยังมีประโยชน์มากมาย เพราะในต้มเลือดหมูนั้นอุดมไปด้วย ธาตุเหล็กที่เป็นประโยชน์และสำคัญต่อร่างกาย เพราะว่าหากร่างกายของเรานั้นขาดธาตุเหล็ก กระบวนการฟอกเลือดดำให้เป็นเลือดแดงก็เกิดขึ้นน้อยหรือไม่เกิดขึ้นเลย ทำให้หัวใจต้องสูบฉีดเลือดมากขึ้น ส่งผลให้หัวใจทำงานหนักและเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว โดยเฉพาะเด็กจะมีพัฒนาการของสมองช้า ไม่เจริญเติบโต เนื่องจากเลือดไปเลี้ยงสมองน้อย ประสิทธิภาพในการเรียนรู้ลดลง
สำหรับผู้ใหญ่ที่ขาดธาตุเหล็ก ร่างกายก็มักจะอ่อนเพลีย ผิวพรรณซีด เวลาเปิดเปลือกตาจะเป็นสีขาว เพราะไม่มีเลือดไปเลี้ยง ผู้ที่มีธาตุเหล็กสมบูรณ์จะมีเลือดฝาดดี มีการวิจัยพบว่าคนที่ขาดธาตุเหล็กประสิทธิภาพในการทำงานจะน้อยลง ทำให้เจ็ยป่วยบ่อย อาหารที่มีธาตุเหล็ก ส่วนใหญ่ก็จะเป็นจำพวก ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น เนื้อสัตว์ ตับสัตว์ เลือดหมู ไก่ เป็ด นม และต้มเลือดหมู มีธาตุเหล็กสูงมาก
เลือดหมู
เลือดสัตว์ทุกชนิดมีฤทธิ์ช่วยสร้างเม็ดเลือดได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นเลือดหมู, เลือดไก่, เลือดเป็ด, เลือดวัว ฯลฯ ล้วนอุดมด้วยธาตุเหล็ก ผู้ป่วยโรคโลหิตจางควรเสริมสร้างธาตุเหล็กด้วยการรับประทานเลือดสัตว์ต้มสุก นอกจากนี้ยังมีโปรตีนที่เป็นสารอาหารอันเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เลือดสัตว์ยังมีสรรพคุณแก้อุจจาระเป็นเลือดและประจำเดือนขาดด้วย
ตำลึง
ตำลึงบำรุงเลือด สรรพคุณตำลึงมีฤทธิ์ในการช่วยบำรุงเลือด ป้องกันโรคโลหิตจาง เพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายไม่อ่อนเพลียง่าย ระบบการทำงานภายในร่างกายสามารถทำงานดีขึ้น มีเรี่ยวแรงในการทำกิจกรรมต่างๆ ได้เป็นอย่างดี อ่านประโยชน์อื่นๆของตำลึง คลิก!
พริกไทย
ชาวตะวันตกนำไปสกัดใช้ในทางยา
เนื่องจากภายในพริกไทยดำมีสารจำพวก อัลคาลอยด์ ชื่อว่า ไปเปอรีน (piperine) มีผลเป็นยากดประสาท ซึ่งส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง ช่วยลดไข้ ลดอาการเจ็บปวด ลดการอักเสบ และฆ่าแมลงได้ อีกทั้งสารไปเปอรีนมีส่วนช่วยในการเพิ่มขึ้นของเม็ดสีในผิวหนังอีกด้วยค่ะ
ใช้พริกไทยดำในการลดความอ้วน
พริกไทยดำนั้นได้รับการยอมรับและยืนยันจากทีมวิจัยในประเทศสหรัฐอเมริกาว่า สามารถที่จะช่วยลดความอ้วนได้อย่างมีประสิทธิภาพและดีเยี่ยม ซึ่งเจ้าตัวสารประกอบที่ชื่อว่า Piperine (ไพเพอร์รีน) มีคุณสมบัติในเรื่องของการช่วยขจัดไขมัน และต่อต้านไขมันส่วนเกินได้ดี ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ อ่านต่อคลิก!
ตับหมู
ตับจะอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของ
กระเทียม
ในกระเทียมมีสารที่ทำให้ส่งกลิ่นแรง นั่นคือ “สารอัลลิซิน” และ “สารสคอร์ดินิน” เจ้าสาร 2 ชนิดนี้แหละครับที่มีสรรพคุณช่วยป้องกันเลือดแข็งตัวเป็นก้อน ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด และป้องกันไม่ให้ไขมันจับตัวในเส้นเลือด จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นสมุนไพรไทยที่มากสรรพคุณทางยานั่นเอง…อ่านต่อคลิกที่นี่
เซี่ยงจี๊
เซี่ยงจี๊ (ไตหมู) มีโพแทสเซียม, โซเดียม, ฟอสฟอรัส เมื่อโพแทสเซียมและโซเดียมทำงานร่วมกันจะช่วยรักษาน้ำในร่างกายให้มีความสมดุลและหัวใจทำงานเป็นปกติ การรับประทานเซี่ยงจี๊มีประโยชน์ช่วยบำรุงไต ช่วยบำบัดโรคทางเดินอวัยวะเพศ และช่วยลดความดันเลือด แต่การรับประทานเซี่ยงจี๊มากเกินไปก็ไม่ดีต่อร่างกายเช่นกัน เพราะในเซี่ยงจี๊มีไขมันสูง ควรรับประทานเซี่ยงจี๊ในปริมาณที่พอเหมาะ
เนื้อหมู
เนื้อหมู นอกจากจะอุดมไปด้วยโปรตีนแล้ว ยังเป็นแหล่งของสารอาหารอื่นๆ เช่นวิตามินบี 1 ช่วยลดอาการเหน็บชา วิตามินเอบำรุงสายตา และยังมีฟอสฟอรัส และไนอาซีน(วิตามินบี3) ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากไม่ว่าจะเป็นช่วยในการลดไขมัน ลดการอักเสบของผิวหนัง หรือแม้กระทั่งบำรุงสมอง
แต่สิ่งที่ควรระวังคือ
หากใครเป็นเก๊าท์ ต้องระวัง เพราะน้ำซุปต้มเลือดหมูทำจากน้ำต้มกระดูก ซึ่งมีกรดยูริค เยอะ ส่วนเครื่องในก็มีกรดยูริคสูงเหมือนกัน อันนี้อาจต้องระวังสักนิด นอกจากนี้คนอีกกลุ่มที่ต้องระวัง คือ คนที่เป็นธาลัสซีเมีย เพราะคนที่เป็นธาลัสซีเมีย ไม่ควรกินธาตุเหล็กเยอะ แต่ต้มเลือดหมู มีทั้งเลือดหมู, เครื่องใน, ใบตำลึง เหล่านี้มีธาตุเหล็กทั้งนั้นเลย แต่ถ้าในคนทั่วไปที่ไม่ได้เป็นธาลัสซีเมีย
ต้มเลือดหมูคือต้มที่ดี เป็นต้มที่เปี่ยม คอลลาเจนเพราะในเลือดหมูมีคอลลาเจน ในน้ำต้มกระดูกก็มีคอลลาเจน ทั้งยังมีผักเขียวที่มีวิตามินซี ก็ยิ่งทำให้คอลลาเจน ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดี ดังนั้นต้มเลือดหมู ถือว่าเป็นซุปสวยได้เลย เป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีชนิดหนึ่ง แต่ต้องระวังหากใส่กระเทียมเจียวเยอะๆ หมูติดมัน หมูกรอบ หมูสามชั้น แล้วปรุงให้รสจัดเกินไป มันก็จะกลายเป็นอาหารที่ไม่สุขภาพไปได้
ขอบคุณข้อมูลจาก
