ช็อกโกแลตหนึ่งในวัตถุดิบที่ชื่นชอบของใครหลายๆคน การละลายสำหรับนำมาทำเมนูต่างๆอาจมองเป็นเรื่องง่าย แต่จริงๆแล้ว นั้นจะไหม้ง่ายมากในอุณหภูมิสูง แล้วจะมีวิธี เทคนิคละลายช็อกโกแลต ให้เนื้อเนียนเงาไม่เป็นก้อนได้อย่างไร เรามี 5 ขั้นตอนง่ายๆ มาฝากให้ลองไปทำกันดู พร้อมกับทำความรู้จักความเป็นมากันค่ะ
เทคนิคละลายช็อกโกแลต
ช็อกโกแลต คือผลิตผลที่ได้มาจากเมล็ดของโกโก้ มักนำมาใช้เป็นส่วนผสมหลักในเมนูต่างๆ ทั้งคาว หวาน และเป็นวัตถุดิบสำคัญอีกอย่างหนึ่ง ที่นิยมมาทำของหวานและเบเกอรี่หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นไอศกรีม ลูกอม คุกกี้ เค้ก ขนมปังหรือว่าพาย และด้วยเอกลักษณ์เฉพาะที่ไม่เหมือนใคร ช็อกโกแลตจึงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจากคนทั่วโลกจนถึงทุกวันนี้ เทคนิคละลายช็อกโกแลต
หลายคนอาจสับสนระหว่าง เมล็ดโกโก้ และผงโกโก้
เมล็ดโกโก้ คือ เมล็ดที่อยู่ภายในฝัก ซึ่งจะถูกนำมาตากแห้งหรือคั่วเสียก่อน
ผงโกโก้ คือ เมล็ดโกโก้ที่ถูกบดจนเป็นเมล็ดเล็กๆ คล้ายก้อนกรวด ซึ่งเรียกว่า โกโก้นิบส์ แล้วนำไปบดต่อถึงจะกลายเป็น ผงโกโก้
หลายคนอาจสงสัยว่าส่วนผสมในช็อกโกแลตนั้นมีอะไรบ้าง มาดูกันค่ะ
ในช็อกโกแลตนั้นจะมีส่วนประกอบหลัก ๆ อยู่ 3 อย่างคือ
- เมล็ดโกโก้เหลว (Cocoa Liquor) คือเมล็ดโกโก้ที่ถูกนำไปบดจนเหลว จะมีรสขมมาก เพราะเป็นเมล็ดที่ไม่ได้ผ่านการปรุงก่อนนำไปบด
- ไขมันจากเมล็ดโกโก้ (Cocoa Butter) เป็นไขมันที่ราคาสูงที่สุดในโลก จะมีกลิ่นของช็อกโกแลตอ่อน ๆ แต่ไม่มีรสชาติ เป็นส่วนประกอบที่ทำให้ช็อกโกแลตมีความมันวาว
- น้ำตาลทรายป่น ทำให้ช็อกโกแลตมีรสชาติหวานมันยิ่งขึ้น หากใส่น้ำตาลน้อย เปอร์เซนต์ของช็อกโกแลตก็จะมากขึ้น แต่หากใส่น้ำตาลน้อย เปอร์เซนต์ ของช็อกโกแลตก็จะลดลงเช่นกัน แต่ช็อกโกแลตบางชนิด อาจมีส่วนผสมของนมผง กลิ่นวานิลลา และสารให้ความคงตัวเพื่อให้ได้รสชาติ และเนื้อสัมผัสที่ดียิ่งขึ้น
5 ขั้นตอน ละลายช็อกโกแลตอย่างไร ให้เหมือนมือออาชีพ
เติมความหวานให้กับคนที่คุณรักด้วยเมนูช็อกโกแลตให้กับคนพิเศษ แต่จะทำอย่างไรให้ช็อกโกแลตนั้นเพอร์เฟค วันนี้มีเทคนิคการละลายช็อกโกแลต ให้เนื้อเนียนสวยไม่เป็นก้อน มาดูกันครับ^^
ช็อกโกแลค เป็นผลติภัณฑ์ที่ทนความร้อนได้น้อย เพราะฉะนั้นเวลาละลายเราไม่ใส่หม้อแล้วไปตั้งไฟโดยตรง แต่จะใส่น้ำในหม้อแล้วตั้งไฟ หาภาชนะที่ทนความร้อนได้ดี เช่น ชามผสมสแตนเลส อาศัยแค่ไอระเหยของน้ำนำความร้อนเท่านั้นเอง
สิ่งที่ต้องเตรียม
- หม้อสำหรับต้มน้ำ
- ภาชนะทนความร้อนสำหรับละลายช็อกโกแลต (เลือกขนาดที่พอดีกับขนาดของหม้อ)
- พายไม้ หรือพายยางสำหรับคนผสม
วิธีละลายช็อกโกแลต
- สับช็อกโกแลตให้เป็นชิ้นเล็กๆ จะทำให้ละลายเร็วขึ้นและละลายได้สม่ำเสมอ
- ใส่ช็อกโกแลตในชาม (ควรเป็นภาชนะที่ทนความร้อนได้ดี)
- ตั้งหม้อใส่น้ำ ระดับน้ำจะต้องไม่สัมผัสกับก้นภาชนะที่ใส่ช็อกโกแลต
- รอจนน้ำเดือด จากนั้นลดไฟเบาลง ให้พอมีไอระเหยของน้ำ
- นำชามช็อกโกแลตไปตั้งบนหม้อ ไอระเหยของน้ำจะค่อยๆละลายช็อกโกแลต ระหว่างนั้นใช้พายคนเป็นระยะ ในทางเดียวกัน (ที่สำคัญคอยระวังไม่ให้น้ำเดือดจัด และคนอย่างสม่ำเสมอ เพราะจะไหม้ได้ง่ายครับ)
Tip หากอยากให้ช็อกโกแลตมีความมันวาวสวย สามารถนำเนยมาละลายพร้อมกับช็อกโกแลตได้เลย เนยจะช่วยทำให้ช็อกโกแลตมีความมันวาวมากขึ้น จะนำไปชุบผลไม้ หรือนำไปทำหน้าขนมต่างๆก็สวยแน่นอน
หญิงตั้งครรภ์กินช็อกโกแลตได้ไหม
นักวิจัยจากภาควิชาระบาดวิทยาทีมหาวิทยาลัยไอโอวา วิทยาลัยการสาธารณสุข และจากศูนย์ปริกำเนิดกุมาร ระบาดวิทยาและสิ่งแวดล้อมที่มหาวิทยาลัยเยล ได้รวบรวมหญิงตั้งครรภ์ 2,567 ราย เพื่อทำการศึกษา ซึ่งส่วนใหญ่ประมาณ 2,351 ราย มีการตั้งครรภ์เป็นปกติไม่มีภาวะแทรกซ้อนใดๆ ระหว่างตั้งครรภ์ และมีหญิงตั้งครรภ์จำนวน 158 รายที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ และอีก 58 รายซึ่งได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะครรภ์เป็นพิษ (preeclampsia)
ภาวะครรภ์เป็นพิษนี้เป็นภาวะที่หญิงตั้งครรภ์มีความดันโลหิตสูง และตรวจพบโปรตีนในปัสสาวะ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากสัปดาห์ที่ 20 ของการตั้งครรภ์ ภาวะครรภ์เป็นพิษสามารถนำ ไปสู่ปัญหาร้ายแรงสำหรับคุณแม่และลูกน้อย แต่กรณีของการเสียชีวิตและภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงจากครรภ์เป็นพิษจะเกิดขึ้นได้น้อยลง หากมีการตรวจพบและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ในการศึกษาคุณแม่กลุ่มที่มีการตั้งครรภ์ปกติ มีการรับประทานช็อกโกแลตในระหว่างตั้งครรภ์มากกว่ากลุ่มอื่นๆ (80.7% หรือ สูงกว่า 5-5%)
โดยใช้การเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม คือหญิงตั้งครรภ์ที่รับประทานช็อกโกแลตน้อยกว่า 1 หน่วยที่ให้บริโภคต่อสัปดาห์ การศึกษานี้ไม่ได้เป็นการศึกษาชิ้นแรกที่ได้รับผลในเชิงบวกสำ หรับการรับประทานช็อกโกแลตในระหว่างตั้งครรภ์ ดร.ลิซาเบธดับบลิว จากมหาวิทยาลัยเยลเคยดำเนินการศึกษาที่คล้ายกันในปี 2008 และพบความสำคัญกับการลดความเสี่ยงต่อภาวะครรภ์เป็นพิษpreeclampsia
(อ้างอิงจากบทความนพ.ม.ร.ว.ทองทิศ ทองใหญ่)
ประโยชน์ของช็อกโกแลต
- สารฟีนอลในช็อกโกแลตมีประโยชน์ต่อสุขภาพของหัวใจ ช่วยให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น และช่วยป้องกันการอุดตันของลิ่มเลือด
- ช่วยให้การทำงานของเยื่อบุผิวดีขึ้น
- มีคุณค่าทางโภชนาการ ทั้งคาร์โบไฮเดรตไขมัน วิตามินเอ ดี เค และธาตุเหล็ก
- คาเฟอีนในช็อกโกแลตช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า
- กระตุ้นให้สมองหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินช่วยให้อารมณ์ดี ไม่หงุดหงิดและลดความเครียดลงได้
บทความน่าสนใจอื่นๆ
โกโก้ ซูเปอร์ฟู้ด อาหารวิเศษ ตัวช่วย บำรุงสมอง เพิ่มความจำ และต้านอนุมูลอิสระ
Double Chocolate Chunk Cookie คุกกี้ช็อกโกแลตแบบเน้นๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก