ใครจะคิดว่าเด็กขี้แยที่เอาแต่ร้องไห้เวลาถูกเพื่อนแกล้งจะกลายมาเป็นพระเอกละครในวันนี้ อ้วน เด่นคุณ
ผมเกิดที่จังหวัดอุบลราชธานี ตั้งแต่เด็ก ๆ ผมไม่ชอบเดินตามใคร ไม่ชอบทำตามเพื่อน ซึ่งพอไม่ทำตามเพื่อน นอกจากจะไม่มีใครคบแล้ว เพื่อน ๆ ยังรวมหัวแกล้งผมตลอด อย่างตอนพักเที่ยง ผมตักข้าวใส่ถาดเสร็จ เพื่อนเอาดินสอหลาย ๆ แท่งมาปักในข้าวผมแล้วร้องเพลงแฮ็ปปี้เบิร์ธเดย์ ข้าวก็เลอะคราบดินสอ กินไม่ได้ ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งร้องไห้อยู่คนเดียว บางครั้งเพื่อนก็เอาถาดใส่ข้าวมายัดใส่กระเป๋าผมตอนเผลอ คือหาเรื่องแกล้งได้ไม่เว้นแต่ละวัน ผมร้องไห้กลับบ้านทุกวัน ผมโกรธนะที่เพื่อนแกล้ง แต่ไม่กล้าตอบโต้เพราะไม่มีพวกเหมือนคนอื่น
พอขึ้นมัธยมปลาย ผมไม่อยากถูกแกล้งอีก จึงเริ่มทำตัวกลมกลืนกับเพื่อน เริ่มเลียนแบบเพื่อน จนถึงขั้นเสเพล มีเรื่องท้าตีท้าต่อยไม่เว้นแต่ละวัน แต่ไม่ว่าจะเกเรขนาดไหน ผมก็มีความฝัน นั่นคือการเป็นนักดนตรี ผมเดินตามความฝันก้าวแรกโดยการเป็นนักดนตรีวงโยธวาทิตของโรงเรียน ทุกวันที่ผมเดินเข้าโรงเรียน ผมจะไหว้ศาลหน้าโรงเรียนแล้วขอพรว่า
“สาธุ ขอให้ผมได้เป็นนักดนตรีดัง ๆ ด้วยเถิด”
เวลานั้นเรื่องการเป็นดาราไม่อยู่ในความคิดของผมเลยแม้แต่น้อย มันคือสิ่งที่ห่างไกลกับเด็กต่างจังหวัดมาก เวลาผมดูโทรทัศน์ ผู้หญิงคนนั้นสวยมาก ชอบมากแต่ไม่เคยคิดว่าเราจะไปยืนในจุดนั้น แต่แล้วสิ่งที่เหนือความคาดหมายก็เกิดขึ้น
วันนั้นภาพยนตร์เรื่อง ฮักนะ สารคาม มาเปิดรับนักแสดงที่โรงเรียน โดยแต่ละห้องต้องส่งตัวแทนเพื่อไปคัดเลือกนักแสดง ผมไม่ได้สนใจเพราะไม่ใช่ทางของผม แต่หัวหน้าห้องส่งชื่อผมไปโดยไม่บอกก่อน พอถึงวันทดสอบการแสดง ซึ่งตรงกับวันเสาร์ ปกติแล้วทุกวันเสาร์ผมจะสอนดนตรีน้อง ๆ ที่บ้าน เพราะแม่ไม่ให้ออกจากบ้านไปไหน แต่ครั้งนี้หัวหน้าห้องมัดมือชก โทร.บอกแม่ว่ามีสอบภาษาไทย แล้วมาบอกผมว่าให้ไปเป็นหน้าเป็นตาให้เพื่อนในห้องหน่อย ผมจึงตกกระไดพลอยโจนต้องไปทดสอบการแสดงในที่สุด
เมื่อไปถึงที่ทดสอบการแสดง คนอื่นแต่งตัวกันมาดีมาก แต่ผมไม่คิดจะทำงานเส้นทางสายนี้อยู่แล้วจึงใส่เสื้อผ้าสไตล์ตัวเอง เสื้อขาด ๆ กางเกงยีนตัดขา ไม่น่าเชื่อว่าผมผ่านการคัดเลือกและได้เป็นหนึ่งในนักแสดงภาพยนตร์เรื่องนั้น เพราะทีมงานต้องการคาแร็คเตอร์จน ๆ นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชีวิตของผมเปลี่ยนไป
เมื่อเริ่มเข้าวงการบันเทิง ชีวิตไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด ผมต้องหยุดเรียนไปถ่ายภาพยนตร์ พอกลับมาเรียน สอบตกเกือบทุกวิชา ตอนนั้นเรียน ม.6 แล้ว
โชคดีที่โรงเรียนมีระยะเวลาให้นักเรียนสอบซ่อม ผมกลับมาดูหนังสืออย่างหนักจนสอบผ่านทุกวิชาและจบพร้อมเพื่อนในที่สุด
เมื่อเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ ทำงานในวงการเต็มตัว จากเด็กที่ไม่มีความรับผิดชอบก็รับผิดชอบมากขึ้น แม้การได้เป็นนักแสดงจะเป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย แต่เมื่อได้โอกาสแล้วก็ต้องตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่
สิ่งที่ผมยึดเป็นหลักในการทำงานมาตลอดคือสติ ต้องมีสติติดตัวอยู่เสมอ เพราะถ้ามีสติ เราจะไม่ทำเรื่องที่ไม่ควรทำ หรือสิ่งใดที่เคยทำแล้วไม่ดี เราก็ไม่ทำอีก ผมเชื่อว่าหากมีสติ ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไร เราก็สามารถผ่านมันไปได้ครับ
Secret BOX
ไม่มีคำพูดใครชี้ชะตาเราได้เท่าเราลงมือทำด้วยตัวเอง เพราะสุดท้ายแล้ววันหนึ่งถ้าเราทำดีหรือทำชั่ว มันก็มาจากการตัดสินใจของเรา โทษคนอื่นไม่ได้
อ้วน – เด่นคุณ งามเนตร
ที่มา นิตยสาร Secret ฉบับที่ 183
เรื่อง เด่นคุณ งามเนตร
เรียบเรียง อุรัชษฎา ขุนขำ
ภาพ ฝ่ายภาพ อมรินทร์พริ้นติ้งฯ