ในทำเนียบของผู้ประกาศข่าววันนี้คงมีชื่อของคุณไบรท์ - พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ ปรากฏอยู่ในดวงใจของบรรดาคอข่าวเป็นแน่ เพราะนอกจากเธอจะเล่าข่าวได้ฉะฉานและมีไหวพริบปฏิภาณดีแล้ว เธอยังมีความน่ารักและเปล่งประกายความเป็น “คนจิตใจดี” ออกมาอีกด้วย
เมื่อได้พูดคุยกัน เรายิ่งไม่แปลกใจเลยที่ใครๆ พากันชอบเธอ พร้อมกันนี้ก็อยากจะรู้ว่าเธอมีเคล็ดลับในการใช้ชีวิตอย่างไร ถึงได้ดูสุข สดใส และ “ไบรท์”สมชื่ออย่างนี้
อาชีพผู้ประกาศข่าวทำให้ต้องรับรู้ข่าวต่างๆ ทั้งดีและร้ายแทบทุกวัน มีผลกระทบต่อคุณไบรท์อย่างไรคะ
ไบรท์มองข่าวเป็นครูค่ะ ข่าวสอนอะไรไบรท์เยอะมาก ทั้งข่าวดีและไม่ดี ถ้ามองให้ลึกๆ การดูข่าวก็เหมือนกับเราได้
เรียนรู้ชีวิตจากคนอื่นนะคะ เช่นมีข่าวหนึ่งที่กระทบกระเทือนใจไบรท์เป็นพิเศษ คือ ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังขับรถไปรับแฟนที่ทำงาน ระหว่างทางเธอคุยโทรศัพท์กับแฟนว่ากำลังจะไปถึงในอีก 10 นาที แต่พอวางหูได้ไม่นาน ก็เกิดพายุลมแรงพัดเสาไฟฟ้าล้มลงมาทับรถ ผู้หญิงเสียชีวิตคาที่ ในขณะที่ผู้ชายก็ยังรอให้แฟนมารับ พอเขาทราบข่าวก็ร้องไห้เสียใจอย่างหนักข่าวนี้ทำให้ไบรท์คิดได้ว่าชีวิตคนเราสั้นมาก จะตายตอนไหนก็ไม่รู้ พรุ่งนี้กับชาติหน้าเราไม่มีทางรู้เลยว่าอะไรมาก่อนกันบางทีชาติหน้าอาจมาถึงก่อนก็ได้ถ้าเราตายวันนี้ ไบรท์คิดทันทีว่าไบรท์ต้องทำดีกับครอบครัว กับคนรอบข้างให้มากที่สุด มีสติกับตัวเอง และดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาท ในขณะเดียวกัน ข่าวดีๆ อย่างข่าวคนที่สู้ชีวิต ก็ทำให้ไบรท์คิดว่ายังมีคนอื่นที่เขาลำบากกว่าเรา แต่เขาก็สู้ไม่ถอยเลย ชีวิตเราเจอปัญหาน้อยกว่าเขาตั้งเยอะ เราก็ควรสู้สิ
ทราบว่าเรียนจบอักษรฯ จุฬาฯ เอกภาษาสเปน แล้วมาเป็นผู้ประกาศข่าวได้อย่างไรคะ
ไบรท์เป็นพิธีกรประจำโรงเรียนมาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ พอเข้ามหาวิทยาลัยเรียนหนักขึ้น แต่ก็ยังเป็นพิธีกรของภาควิชาอยู่บ้าง กระทั่งวันหนึ่งไบรท์นั่งกินข้าวกลางวันกับคุณพ่อคุณแม่ แล้วได้ดูรายการ ข่าวเที่ยงวัยทีน ทางช่องไอทีวี เห็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยได้อ่านข่าว ก็นึกสนุกอยากอ่านแบบนั้นบ้าง ไบรท์ก็เลยส่งจดหมายไปสมัคร จนได้อ่านข่าวหนึ่งครั้ง ต่อมามีการโหวตผู้ประกาศข่าวขวัญใจข่าวเที่ยงวัยทีน ไบรท์ได้รับการโหวตให้กลับมาอ่านอีก จากนั้นไบรท์ก็ได้เป็นผู้ประกาศข่าวมาเรื่อยๆ ทั้งอ่านข่าวกีฬา เป็นพิธีกรรายการ คนไทยที่ 1 ในโลกอ่านข่าวภาคค่ำช่องสปริงนิวส์ เป็นพิธีกรรายการ เจาะลึก ครม.ซึ่งรายการนี้แหละที่พี่สรยุทธเห็นไบรท์แล้วชวนให้มาทำรายการเรื่องเล่าเช้านี้
ไบรท์คิดว่าตัวเองโชคดีมากค่ะที่ไม่เคยต้องไปสมัครงานที่ไหนเลย ทั้งที่ไบรท์ก็ไม่ได้มีเส้นสายด้วย การที่ไบรท์ได้งานทำต่อเนื่องมาเรื่อยๆ เป็นเพราะได้รับโอกาสจากพี่ทีมงานที่เคยทำงานด้วยกันบ้าง จากผู้ใหญ่ที่เคยเดินผ่านแล้วยกมือไหว้ทักทายกัน ท่านก็เลยชวนไบรท์ไปร่วมงานก็มี ไบรท์สำนึกในบุญคุณของทุกท่านเลยค่ะ
ดูจากบุคลิกเป็นคนแจ่มใสร่าเริง ไม่ทราบเคยมีเรื่องทุกข์อกทุกข์ใจอย่างหนักบ้างไหมคะ
มีค่ะ เรื่องที่ทุกข์ที่สุดคือเรื่องคุณแม่ค่ะ หลายปีก่อนท่านเคยป่วยเป็นโรคมะเร็งที่รังไข่ ตอนนั้นไบรท์จำได้แม่นว่าตัวเองกำลังนั่งอ่านหนังสือรอเข้าสอบ พอรู้เรื่องคุณแม่เท่านั้นแหละ อ่านหนังสือแทบไม่รู้เรื่องเลย อ่านไปก็ร้องไห้ไป
พอสอบเสร็จ ไบรท์ก็รีบโทร.หาแม่ น้ำเสียงท่านเข้มแข็งมาก ไม่ร้องไห้เลยสักแอะ มิหนำซ้ำยังร่าเริงแจ่มใสเหมือนปกติด้วย พอไบรท์ไปถึงโรงพยาบาล ก็โผเข้าไปกอดท่าน พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล เพราะกลัวว่าท่านจะยิ่งใจเสีย แต่คุณแม่คงทราบแหละว่าไบรท์เพิ่งร้องไห้หนักมา ท่านก็เลยสอนไบรท์ว่า“ชีวิตก็แบบนี้แหละลูก มีเกิด แก่ เจ็บ และตาย แม่ก็เป็นหนึ่งในนั้น เห็นไหมว่าเราไม่ควรประมาทกับชีวิตนะ” คุณแม่เป็นคนชอบอ่านหนังสือธรรมะมาก ท่านฝึกมรณานุสติเป็นประจำพอวันที่จะต้องเข้าห้องผ่าตัด ท่านสั่งเสียลูกๆ ทุกอย่าง เพราะท่านกลัวว่าหลับไปแล้วอาจไม่ได้ฟื้นขึ้นมาอีก โชคดีมากที่หลังผ่าตัดอาการของแม่หายเป็นปกติ คุณหมอบอกเราว่าอย่าเพิ่งวางใจ ต้องรออีกสิบปีจึงจะแน่ใจว่าแม่หายขาดจากโรคมะเร็งแล้วจริงๆ
ปีนี้เป็นปีที่เก้าแล้ว คุณหมอตรวจร่างกายคุณแม่แล้วพบว่ามีก้อนเนื้ออยู่ในท่อไต ช่วงนี้กำลังอยู่ระหว่างรอผลตรวจว่าเป็นเนื้อดีหรือเนื้อร้าย ไบรท์ก็เลยกังวลมาก ยิ่งโทร.หาแม่บ่อยกว่าปกติ พี่สาวที่เรียนอยู่ต่างประเทศก็เหมือนกัน เราโทร.ถามสารทุกข์สุกดิบคุณแม่ตลอดทั้งวัน ซึ่งทุกครั้งที่โทร.ไป คุณแม่ก็ยังเข้มแข็งแจ่มใสร่าเริงเหมือนเดิม ทุกวันนี้ไบรท์ก็ได้แต่ถามเพื่อนที่เป็นหมอว่า ถ้าอาการของแม่เป็นแบบนี้แปลว่าอะไร ถามคนนู้นคนนี้เผื่อจะช่วยอะไรแม่ได้บ้าง ในขณะที่คุณแม่กลับทำตัวปกติ ไม่ทุกข์ ไม่เครียด อ่านหนังสือธรรมะเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คุณแม่เป็นคนเข้มแข็งมากจริงๆ ไบรท์ขอเป็นได้สักครึ่งหนึ่งของคุณแม่ก็พอใจแล้ว
ถ้าเช่นนั้นไอดอลในดวงใจก็คงหนีไม่พ้นคุณแม่
ใช่ค่ะ สำหรับไบรท์ คุณแม่คือยอดคุณแม่เลยละ เราสนิทกันมากจริงๆ ไม่ใช่เฉพาะคุณแม่หรอกค่ะ ทั้งคุณพ่อและ
พี่สาวด้วย ครอบครัวเราสนิทกันหมด แต่ด้วยความที่สมัยเด็กคุณพ่อต้องไปทำงานต่างจังหวัดเป็นประจำ ลูกสาวทั้งสองคนก็เลยสนิทกับคุณแม่เป็นพิเศษ ไบรท์รู้สึกเหมือนคุณแม่เป็นเพื่อนสนิท สามารถเล่าให้ท่านฟังได้หมดทุกเรื่อง
ตอนไบรท์เป็นเด็ก บ้านเราอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการทุกเช้าคุณแม่จะปลุกลูกด้วยเสียงร้องเพลง ส่วนใหญ่จะเป็น
เพลง ตื่นเถิดชาวไทย ไบรท์และพี่สาวก็จะตื่นนอนอย่างอารมณ์ดีด้วยเสียงเพลงของแม่ แล้วก็ขี่หลังแม่ไปอาบน้ำ เป็นแบบนี้ทุกวัน เชื่อไหมว่าตั้งแต่เด็กจนจบมัธยมปลาย ไบรท์แทบจะไม่ได้ไปร้านทำผมเลยนะคะ เพราะแม่เป็นคนตัดผมให้เองพอถึงวันเกิด แม่จะพาไปตักบาตรตอนเช้าหรือไปทำบุญที่วัดตกเย็นก็จะทำอาหารกินกัน บ้านเราไม่มีงานปาร์ตี้ฉลองวันเกิดไม่มีแม้แต่เค้กวันเกิดด้วยซ้ำ แต่วันนั้นลูกๆ จะกราบขอพรจากคุณแม่คุณพ่อแทนของขวัญ คุณแม่จะชอบอวยพรให้ลูกเป็นเพลง ชื่อเพลง อวยพรวันเกิด เพราะทุกคำในเพลงนี้มีความหมายดีมาก จนทุกวันนี้คุณแม่ก็ยังร้องเพลงนี้ให้ฟังอยู่เหมือนเดิมค่ะ ฟังทีไรไบรท์ก็น้ำตาไหลทุกที ไบรท์เชื่อว่าทุกคำพูดของพ่อแม่เป็นคำศักดิ์สิทธิ์จริงๆ นะ ถ้าท่านอวยพรอะไรให้ เราจะเป็นแบบนั้นจริงๆ
คุณแม่ของไบรท์มีวิธีการสอนลูกที่แยบยลมาก แม้ทุกวันนี้ไบรท์จะย้ายมาอยู่อีกบ้านให้ง่ายต่อการเดินทางมาทำงาน แต่ก็ไม่เคยรู้สึกว่าห่างกับท่านเลย เพราะเราจะโทรศัพท์คุยกันบ่อยๆโดยเฉพาะก่อนนอน แม่มักจะโทร.มาอ่านบทความธรรมะให้ไบรท์ฟัง ในวันพระแม่จะย้ำนักย้ำหนาให้อ่านพุทธโอวาทหนึ่งบทก่อนนอน ไบรท์เชื่อทุกคำที่แม่สอน โดยเฉพาะเรื่องการใช้ชีวิตแม่จะสอนว่า ลูกไม่จำเป็นต้องสุดโต่งไปด้านใดด้านหนึ่งนะการอยู่ตรงกลางแล้วรู้จักตัวของตัวเอง จะทำให้ลูกใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ไบรท์นำคำสอนของแม่มาประยุกต์ใช้กับทุกเรื่องแม้แต่เรื่องเล็กน้อยอย่างการช็อปปิ้ง ไบรท์เคยรู้สึกนะว่าการช็อปปิ้งทำให้เรามีความสุข แต่พอคิดไปคิดมาถึงได้รู้ว่าเป็นแค่ความสุขชั่วคราว แต่ความสุขที่จะอยู่กับเราได้ยืนยาวคือการที่เรารู้จักตัวเองว่าตัวเราคือใคร ควรใช้จ่ายเท่าไร แล้วอนาคตของเราควรจะเป็นอย่างไร ไบรท์มองว่านี่แหละคือการวางแผนการใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทตามคำสอนของแม่
มีมุมมองความรักในอนาคตอย่างไรคะ
ความรักถ้าบวกด้วยความเข้าใจถึงจะเป็นรักที่ยืนยาวค่ะด้วยอาชีพของไบรท์ที่เวลานอนและตื่นต่างจากคนอื่น จึงทำให้เรามีมุมมองการใช้ชีวิตที่ต่างออกไป การได้คุยกับใครที่มีมุมมองคล้ายกัน มีทัศนคติคล้ายกัน เข้าใจกัน ความรักก็จะราบรื่นไปได้ วันข้างหน้าต่อให้มีปัญหา เราก็พร้อมจะให้อภัยได้ เพราะมีความรักและความเข้าใจเป็นพื้นฐานค่ะ
ทำงานในวงการข่าวที่มีงานยุ่งแทบทุกวันเช่นนี้คุณไบรท์มีโอกาสได้ปฏิบัติธรรมบ้างไหมคะ
ไปค่ะ ไบรท์ชอบไปปฏิบัติธรรม ปกติไบรท์อ่านข่าวทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ พอเย็นวันศุกร์ก็จะแพ็คของไปปฏิบัติธรรม
แล้ว วัดที่ไปปฏิบัติบ่อยคือวัดปัญญานันทาราม ปทุมธานี และเสถียรธรรมสถานของคุณแม่ชีศันสนีย์ แต่บางครั้งปฏิบัติได้ไม่เต็มที่เพราะมัวพะวงว่าไม่ได้ดูข่าววันเสาร์ - อาทิตย์ พอถึงวันจันทร์จะไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะเอาไปเล่าข่าว ช่วงนี้ก็เลยเปลี่ยนเป็นทำบุญอื่นๆ แทน ทั้งตักบาตร สวดมนต์ นั่งสมาธิไบรท์ว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้ทำงานด้านนี้ เพราะมีโอกาสได้ช่วยเหลือคนอื่นเยอะมาก เวลาใครเดือดร้อนแล้วติดต่อมาที่ไบรท์ ไบรท์ก็จะพยายามช่วยประสานต่อให้จนเขาได้รับความช่วยเหลือ แต่สำหรับไบรท์ การทำบุญที่ประเสริฐที่สุดในชีวิตคือการทำบุญกับพ่อแม่ค่ะ เพราะท่านเป็นผู้มีพระคุณสูงสุดและการทำบุญกับคุณพ่อคุณแม่ก็ทำได้ง่ายมาก แค่พูดดีๆ กับท่าน เอาใจใส่ท่าน มีความกตัญญู แค่นี้ก็ได้บุญและมีความสุขที่สุดแล้วค่ะ
Secret Box
มีสติและสร้างความสุขกับปัจจุบันขณะเพราะเรายังไม่รู้ว่าชาติหน้ากับพรุ่งนี้อะไรจะมาถึงก่อนกัน
ไบรท์ - พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ
เรื่อง ชลธิชา แสงใสแก้ว ภาพ วรวุฒิ วิชาธร
ผู้ช่วยช่างภาพ สรยุทธ พุ่มภักดี สไตลิสต์ รุจิกร ธงชัยขาวสอาด
แต่งหน้าและทำผม ภัทรานิษฐ์ จันทรกุลเศรษฐ์