คลินิกฟอกไต วัดสุทธาราม – วัดแห่งนี้ไม่ได้เยียวยาเพียงจิตใจ
สถานที่ เยียวยา ผู้ป่วยโรคไต คลินิกฟอกไต ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าภคนีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ให้บริการฟอกเลือด
คลินิกฟอกไต วัดสุทธาราม
ภาพที่คนในละแวกวัดสุทธาราม ซอยตากสิน 19 เห็นกันจนชินตาคือ การที่มีผู้คนทยอยกันเข้ามาที่อาคาร 7 ชั้นที่ชื่อว่า “อาคารราษฎร์สักการะฯ” ตั้งแต่หกโมงเช้าถึงช่วงบ่ายของวันจันทร์ถึงวันเสาร์
นั่นเป็นเพราะอาคารแห่งนี้เป็นที่ตั้งของ “คลินิกฟอกไต” ของมูลนิธิรัตนโกสินทร์ ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าภคนีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ที่ให้บริการฟอกเลือดสำหรับผู้ป่วยโรคไต โดยคิดค่าใช้จ่ายต่ำกว่าสถานพยาบาลทั่วไป
วัดแห่งนี้ไม่ได้เยียวยาเพียงจิตใจ
คลินิกฟอกไตเพื่อประชาชนแห่งนี้ เกิดขึ้นจากความเมตตาของ พระพิศาลประชานาถ (ดนัย ศิลปี) เจ้าอาวาสวัดสุทธาราม ที่เห็นความทุกข์ยากของผู้ป่วยโรคไต และหวังให้คลินิกแห่งนี้เป็นที่พึ่งสำหรับผู้ป่วยที่มีรายได้น้อย
“คนเป็นโรคไต ถ้าไม่มีเงินก็รักษาตัวเองไม่ได้ เราเคยเห็นผู้ป่วยที่ต้องทรมานจากโรคนี้มาก่อน จึงตัดสินใจเปิดคลินิกฟอกไตเพื่อผู้ป่วยที่ยากไร้ พวกเขาจะได้มีชีวิตยืนยาว อยู่เป็นกำลังใจให้ครอบครัวและลูกหลานต่อไป”
พระพิศาลประชานารถ จัดตั้งโครงการเพื่อดูแลความเป็นอยู่และสุขภาพของชาวบ้านในชุมชนใกล้วัดสุทธารามมาตั้งแต่ยังเป็นเพียงพระลูกวัด เนื่องจากในอดีต พื้นที่บริเวณวัดห่างไกลความเจริญ ชาวบ้านอยู่กันอย่างแร้นแค้น ท่านจึงเชิญหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เข้ามาดูแลชาวบ้านในพื้นที่ เดือนละ 2-3 ครั้ง
ต่อมาท่านริเริ่มก่อตั้ง มูลนิธิศรีรัตนโกสินทร์ เพื่อดำเนินงานด้านสังคม โดยมูลนิธิฯ ได้รับอนุญาตจัดตั้งเมื่อ ปี พ.ศ. 2525 ซึ่งต่อมาสมเด็จพระเจ้าภคนีเธอ เจ้าฟ้าเพชรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ทรงกรุณารับมูลนิธิฯไว้ในพระอุปถัมภ์
ในปี พ.ศ. 2532 มูลนิธิศรีรัตนโกสินทร์ฯ เปิดคลินิกรักษาโรคทั่วไปอย่างเป็นทางการ โดยไม่เก็บค่ารักษาใด ๆ แต่สุดท้ายแล้วคลินิกนี้ต้องปิดตัวไปหลังจากเปิดบริการมาได้สิบห้าปี เพราะชาวบ้านเข้ามารักษาน้อยลงไปมาก แต่ถึงกระนั้น พระพิศาลประชานารถ กลับไม่ได้ล้มเลิกความตั้งใจในการดูแลสุขภาพของชาวบ้าน และเปิดคลินิกฟอกไตสำหรับประชาชนในปี พ.ศ.2547
“ช่วงเริ่มต้น ที่นี่มีเครื่องฟอกเลือดไตเทียมเพียง 2 เครื่องเท่านั้น คือได้รับบริจาคมาหนึ่งเครื่อง และมูลนิธิฯ ซื้อเองหนึ่งเครื่อง ต่อมาก็เริ่มมีผู้ศรัทธาบอกบุญต่อกันไป และมูลนิธิฯ เองก็หารายได้จากหลายทาง จนปัจจุบันมีเครื่องฟอกเลือดไตเทียมบริการผู้ป่วยจำนวน 37 เครื่องแล้ว”
คลินิกฟอกไต ที่พึ่งของคนยาก
คลินิกฟอกไต มูลนิธิรัตนโกสินทร์ฯ อยู่ในอาคาร 7 ชั้นที่ชื่อว่า “อาคารราษฎร์สักการะฯ” ซึ่งสร้างอยู่บนที่ดินของวัดสุทธาราม ในซอยตากสิน 19 ถนนเจริญนคร แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร คลินิกนี้ให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมโดยแพทย์ พยาบาล และบุคลากรผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง โดยมีเครื่องฟอกไตเทียมจำนวน 37 เครื่อง
เกณฑ์การรับผู้ป่วยคือ หนึ่ง ต้องเป็นผู้ป่วยที่มีอายุตั้งแต่ 15 – 60 ปี (เนื่องจากผู้ป่วยที่อายุ 60 ปีเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนระหว่างการฟอกเลือด จึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ในโรงพยาบาลในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉิน) สอง เป็นผู้ที่ดูแลตัวเองได้ และสาม ผู้ป่วยต้องผ่าตัดทำเส้นเลือดที่แขนสำหรับเครื่องฟอกไตเทียมมาเรียบร้อยแล้ว
ปัจจุบันคลินิกแห่งนี้ดูแลผู้ป่วยโรคไตจำนวน 247 คน แต่ละวันคลินิกรับผู้ป่วยได้ประมาณ 103 คน แบ่งให้บริการวันละสามรอบ รอบละ 4 ชั่วโมง เริ่มให้บริการตั้งแต่ 6.00 – 18.00 น.ทุกวัน ยกเว้นวันอาทิตย์ สำหรับค่ารักษาพยาบาลเก็บครั้งละ 500 บาท แต่บางรายก็เป็นไปตามกำลังของผู้ป่วย
แม้ความตั้งใจแรกเริ่มนั้น ท่านเจ้าอาวาสตั้งใจจะไม่เก็บค่าบริการใด ๆ แต่สุดท้ายมูลนิธิฯ ก็แบกรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดไม่ไหว จึงเก็บค่าบริการที่ทุกคนพอจ่ายได้คือ 500 บาท ซึ่งก็ยังไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาลในแต่ละเดือน
คุณกันตพงษ์ โพธิ์แสนหลี เจ้าหน้าที่มูลนิธิศรีรัตนโกสินทร์ฯ กล่าวถึงค่าใช้จ่ายของมูลนิธิฯ ว่า
“ปัจจุบันคลินิกฟอกไต มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่เดือนละประมาณ 3 – 4 ล้านบาท เพราะเราเก็บค่าบริการฟอกเลือดเพียงครั้งละ 500 บาท ทั้งที่ต้นทุนจริงสูงถึง 1,700 บาท ดังนั้นจึงต้องหาเงินสำรองเดือนละ 6-8 แสนบาท แม้จะมีเงินบริจาคของประชาชน หรือองค์กรต่าง ๆ เข้ามาบ้าง แต่ก็ไม่ได้ตลอด มูลนิธิฯ จึงหารายได้อื่นมาสนับสนุน ตอนนี้มีรายได้ประจำจากการให้เช่าอพาร์ทเมนต์ที่มูลนิธิฯ ซื้อไว้เพื่อให้คนเช่าในราคาไม่แพง ซึ่งก็พอช่วยได้ส่วนหนึ่ง แต่ก็ยังไม่เพียงพอ”
“จริง ๆ เราเคยประชาสัมพันธ์คลินิกนี้อยู่บ้าง ท่านเจ้าอาวาสก็เคยไปพูดในรายการสถานีประชาชน ก็ได้รับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาเป็นเงินจำนวนหนึ่ง ซึ่งเราก็ดีใจ แต่หลังจากนั้นกลับมีผู้มาขอรับบริการมากกว่าผู้บริจาค พอเราแจ้งว่าไม่สามารถรับผู้ป่วยเพิ่มได้ ก็ถูกต่อว่า การประชาสัมพันธ์จึงกลายเป็นดาบสองคม”
คุณกันตพงษ์ เล่าต่อว่า ในเวลานี้ทางมูลนิธิศรีรัตนโกสินทร์ยังไม่สามารถรับผู้ป่วยโรคไตได้เพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากเครื่องฟอกเลือดไตเทียมอยู่เพียงจำนวนจำกัด
“ตอนนี้มูลนิธิฯ ไม่สามารถรับผู้ป่วยเพิ่มได้ แม้เราอยากจะช่วยทุกคนเต็มที่ แต่ก็มีเครื่องฟอกเลือดไตเทียมอยู่เพียงจำกัด ดังนั้นผู้ป่วยที่อยากมารักษาจึงต้องต่อคิวจองไว้ จนกว่าจะมีผู้ป่วยย้ายออก แต่มีเพียงน้อยรายมาก
ความหวังของผู้ป่วย
ที่ชั้น 3 ชั้น 5 และชั้น 6 ของอาคารมูลนิธิศรีรัตนโกสินทร์คือ “ศูนย์ไตเทียม” บริเวณหน้าห้องนี้มีผู้ป่วยนั่งรอเรียกรับบริการอยู่หลายคน ทุกคนมีแฟ้มประวัติผู้ป่วยอยู่ในมือ พวกเขาต้องเข้ามาฟอกเลือดล้างไตเป็นประจำตามที่แพทย์นัดหมาย อย่างน้อยสองสัปดาห์ละ 2 ครั้ง แล้วแต่อาการของผู้ป่วยแต่ละคน
คุณโสภณ ศุภโชครังสรรค์ หนึ่งในผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาที่คลินิกฟอกไตแห่งนี้ เขาต้องฟอกเลือดสัปดาห์ละสองครั้งดังนั้น ก่อนมาฟอกเลือกที่นี่ เขาต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก
“ผมรู้จักที่นี่จากการหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต และได้เข้ามารับการรักษาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2558 เมื่อก่อนผมต้องเสียค่าฟอกเลือดสัปดาห์ละสี่พันบาท แต่พอมาฟอกเลือดที่มูลนิธิฯ ผมลดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะมาก เพราะคนที่เป็นโรคไตต้องเสียทั้งค่าใช้จ่าย และยอมเสียเวลา ฟอกเลือดแต่ละครั้งต้องใช้เวลาถึง 4 ชั่วโมง จริง ๆ แล้วไม่มีใครอยากเป็นโรคไตหรอกครับ แต่เมื่อเป็นไปแล้วก็ต้องรักษาตัวกันไป”
แม้เจ็บป่วยทางกาย แต่เขาก็มีกำลังใจรักษาตัว เพื่อให้ดำเนินชีวิตและทำงานต่อไปได้ ทั้งนี้เขาได้เล่าถึงความประทับใจที่มีต่อบุคลากรที่ดูแลผู้ป่วยของคลินิกฟอกไตแห่งนี้ว่า
“แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ทุกคนดูแลผู้ป่วยอย่างดี โดยใส่ใจสอบถามอาการของผู้ป่วยตลอด หรือถ้าเห็นใครอาการไม่ดี จะรีบช่วยเหลือทันที ตอนนี้ ผมทราบว่ารายรับของมูลนิธิฯ ติดลบอยู่เป็นประมาณ 13 ล้านบาท ผมก็อยากให้มีหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาช่วยเหลือครับ เพราะอยากให้ที่นี่เป็นที่พึ่งของคนยากไร้ต่อไป”
รักษากาย เยียวยาจิตใจ
บรรยากาศในศูนย์ไตเทียม มีผู้ป่วยนอนรับการรักษาเต็มทุกเตียง พยาบาลและเจ้าหน้าทุกคนต่างกำลังทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ถึงกระนั้นทั้งผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ก็มีรอยยิ้มให้แก่กัน และพูดคุยทักทายกันอย่างเป็นกันเอง นั่นเป็นเพราะคลินิกแห่งนี้เยียวยาทั้งร่างกายและจิตใจของผู้ป่วยโรคไตไปพร้อมกัน
คุณแสงเดือน กรเจริญพร พยาบาลผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางโรคไตเทียม เล่าว่า เธอได้มาทำงานที่คลินิกฟอกไตแห่งนี้จากการชักชวนของเพื่อนพยาบาลที่ทำงานอยู่ที่นี่ เธอรู้สึกดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ป่วยทุกคน
“การทำงานที่นี่ เป็นทั้งการทำงานและทำความดีในเวลาเดียวกัน ทุกครั้งที่เรารักษาคนไข้ เท่ากับเราได้ช่วยต่อชีวิตเขาให้ยืนยาวขึ้น ดิฉันตั้งใจจะช่วยประคับประคองชีวิตคนไข้ให้ยืนยาวที่สุดเท่าที่จะทำได้”
เธอเล่าต่อว่า กำลังใจ คือสิ่งหนึ่งผู้ป่วยต้องการไม่น้อยกว่าการรักษาทางกาย
“คนไข้ที่นี่เป็นไตวายระยะสุดท้าย ที่ต้องมาฟอกเลือดเป็นประจำ ถ้าหยุดเมื่อไหร่คนไข้อาจเสียชีวิตได้ ดังนั้นดิฉันจึงเจอกับคนไข้บ่อย และเมื่อดูแลเขาไประยะหนึ่ง ก็ได้รู้จักชีวิตของเขามากขึ้น รู้ว่าเขาลำบากแค่ไหน บางครั้งก็ช่วยคลายทุกข์ให้เขาได้ด้วยการรับฟังปัญหา หรือให้กำลังใจ เพราะการรักษานั้นไม่ใช่การดูแลทางกายเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการดูแลจิตใจ ให้เขารู้ว่าอย่างน้อยยังมีเราที่สนับสนุนดูแลอยู่ เขาจะมีกำลังใจรักษาตัวต่อไป”
หนึ่งหยดน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์
นอกจากรายได้ต่าง ๆ ของมูลนิธิรัตนโกสินทร์แล้ว น้ำใจจากประชาชนทั่วไปถือเป็นหนึ่งแรงสนับสนุนสำคัญ ที่ทำให้คลินิกฟอกไต สามารถดำเนินงานช่วยเหลือผู้ป่วยต่อไปได้ ที่ผ่านมามีประชาชนและองค์กรต่าง ๆ ร่วมบริจาคเงินสมทบทุน รวมถึงการบริจาคเครื่องฟอกเลือด ซึ่งมีราคาสูงมาก
คุณชัยณรงค์ วัฒนาปราโมทย์ หนึ่งในผู้บริจาคเครื่องฟอกเลือดแก่คลินิกฟอกไต มูลนิธิรัตนโกสินทร์ฯ เล่าถึงที่มาของการบริจาคว่า
“ผมเคยเจอแม่ค้าคนหนึ่งที่ตลาด เขาบอกว่าเป็นโรคไต และมาฟอกเลือด ที่คลินิกวัดสุทธาราม เพราะเก็บค่ารักษาไม่แพง ผมเห็นเขาก็สงสาร จึงช่วยเงินเขาอยู่หลายครั้ง จนสุดท้ายก็ได้ข่าวว่าเขาเสียชีวิตไปแล้ว ผมรู้ว่าคนที่ป่วยโรคไตนี้ทรมานมาก เพราะมีคนรอบตัวเป็นโรคนี้อยู่เหมือนกัน
“ตัวผมเองไม่ได้ลำบากอะไร ลูก ๆ ก็โตกันหมดแล้ว ผมจึงคิดอยากบริจาคเครื่องฟอกเลือดเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคไต จึงเริ่มลองเสิร์ชข้อมูลในอินเทอร์เน็ตจนพบว่า วัดสุทธารามมีคลินิกฟอกไตสำหรับผู้ยากไร้ ผมจึงเลือกบริจาคให้ที่นี่ พอวันนี้ได้มามอบเครื่องฟอกเลือดด้วยตัวเอง รู้สึกดีใจมาก เพราะจะได้มีส่วนช่วยเหลือผู้ป่วยทุกคนที่นี่”
หน้าที่แห่งการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์
“การรักษาโรคไม่ใช่กิจของสงฆ์” เป็นกระแสในสังคมที่พระพิศาลประชานาถได้ยินเสมอ และกลับมีความเห็นว่า การช่วยให้สังคมน่าอยู่ขึ้นเป็นหน้าที่ของทุกคนที่มีโอกาส
“บางคนบอกว่า เรื่องนี้ไม่ใช่หน้าที่ของพระ แต่เราเห็นว่า เมื่อช่วยได้ก็อยากช่วย เพื่อให้สังคมดีขึ้น ซึ่งหากใครจะมองให้เป็นกุศลก็เป็นกุศล แต่ถ้าใครมองว่าเป็นอกุศลก็มองได้ มีพระพุทธพจน์ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลาย จงจาริกไป เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่ชนหมู่มาก เพื่ออนุเคราะห์แก่ชาวโลก เราเห็นว่าในกรณีนี้เราพอทำได้ ชาวบ้านมีศรัทธา และก็ทำเท่าที่ทำได้ ไม่เดือดร้อน เราเองก็ดีใจที่ได้ช่วยประชาชนได้
“จริง ๆ วัดที่ต่างจังหวัดหลายแห่งก็อยากทำคลินิกนี้ แต่ทำไม่ได้ เพราะแพทย์และพยาบาลที่เชี่ยวชาญเรื่องไต แต่อยู่ในกรุงเทพฯ ทำได้ เพราะอยู่ใกล้แพทย์และบุคลากรเฉพาะทาง”
ความตั้งใจหนึ่งของ พระพิศาลประชานาถคือ ต้องการให้คลินิกฟอกไตแห่งนี้ยั่งยืนเพื่อที่เป็นที่พึ่งของผู้ป่วยโรคไตที่ยากไร้ต่อไป
“เราอยากให้คลินิกนี้อยู่อย่างยั่งยืน จึงต้องวางแผนหารายได้มาสนับสนุนจากหลายทางซึ่งตอนนี้ก็เริ่มวางใจได้แล้วว่า แม้เราตายไปแล้วก็จะมีรายได้มาเกื้อหนุนได้ตลอด นอกจากนั้นตอนนี้มูลนิธิศรีรัตนโกสินทรสนับสนุนการศึกษาเด็กเรียนดีหลายคน ก็หวังว่าต่อไปจะมีลูกหลานของมูลนิธิฯ มาช่วยสนองเจตนาของเราได้บ้าง”
“ที่ผ่านมา ไม่เคยคิดว่าทำเพื่อตัวเอง ทำในนามวัดสุทธาราม หรือทำในนามของมูลนิธิรัตนโกสินทร์ฯ แต่เราทำในนามพระสงฆ์ทั่วสังฆมณฑล เพื่อให้ชาวบ้านได้รู้ว่า พระสงฆ์มีส่วนช่วยเยียวยาความเจ็บป่วยของเขาได้”
และไม่ว่าด้วยเหตุผลใด สุดท้ายแล้ว คลินิกฟอกไต มูลนิธิศรีรัตนโกสินทร์ฯ วัดสุทธาราม ได้ช่วยรักษากายและเยียวยาจิตใจผู้ป่วยโรคไตมากว่าสิบสองปีแล้ว ทั้งยังคงยืนหยัดที่จะช่วยบรรเทาความเจ็บป่วยของเพื่อนมนุษย์ต่อไป
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนมูลนิธิศรีรัตนโกสินทร์ฯ ได้ที่
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาสำเหร่ เลขที่ 113-1-16081-3 ชื่อบัญชี มูลนิธิรัตนโกสินทร์ฯ
โทร.0-2437-9679 โทรสาร 0-2437-9678
เรื่อง: เชิญพร คงมา ช่างภาพ: วรวุฒิ วิชาธร ผู้ช่วยช่างภาพ: รุ่งทิพย์ เรืองเชื้อเหมือน
บทความน่าสนใจ
วัดคีรีวงศ์ ความสุขทางใจค้นพบได้ด้วยการปฏิบัติธรรม
วัดมกุฏกษัตริยาราม วัดสุดท้ายในรัชกาลที่ 4
Secret คือแรงบันดาลใจ
สั่งซื้อนิตยสารหรือสมัครสมาชิก Secret ได้ที่ 0-2423-9889
ทาง Naiin.com : https://www.naiin.com/magazines/title/SC/