ฝึกเจริญสติ ณ วัดแก้วฟ้าจุฬามณี
วัดแก้วฟ้าจุฬามณี เริ่มจัดโครงการบวชเนกขัมมบารมีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 เพื่อให้พุทธศาสนิกชนทุกคนมีโอกาสฝึกเจริญสติลดละกิเลส และค้นพบหนทางแห่งความสงบทางจิตใจ
วัดแก้วฟ้าจุฬามณีเป็นวัดเก่าแก่สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ประมาณปี พ.ศ. 2300 มีพื้นที่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เดิมอุโบสถตั้งอยู่ห่างจากตลิ่งมาก แต่น้ำเซาะพังเรื่อยมาจนเกือบถึงกำแพงอุโบสถ ทางวัดจึงติดต่อขอแลกที่ดินกับชาวจีนตระกูลล่ำซำซึ่งมีที่ดินติดกับวัด จากนั้นจึงย้ายอุโบสถไปยังพื้นที่ดังกล่าวแทน
กระทั่งเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2551 พระครูสังฆรักษ์สุภชัย สุภชโย ผู้ช่วยเจ้าอาวาส ได้ริเริ่มโครงการบวชเนกขัมมบารมีขึ้น
“เดิมอาตมาเป็นพระวินยาธิการ หรือที่ชาวบ้านรู้จักในนามตำรวจพระ ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยถูกต้องและความดีงามตามหลักพระธรรมวินัยในหมู่พระสงฆ์ จึงไม่ค่อยได้เรียนรู้เรื่องการปฏิบัติธรรมเจริญสติมากนัก กระทั่งได้รับมอบหมายให้ไปสอนธรรมแก่เด็กก่อนวัยเรียน จึงเกิดความคิดว่า หากเด็ก ๆ ลองแต่งชุดขาวและไปฟังธรรมทุกวันพระ น่าจะเป็นเรื่องดีไม่ใช่น้อย อาตมาจึงลองจัดโครงการดู ปรากฏว่าชาวบ้านเห็นแล้วชอบใจ เลยคิดต่อยอดว่าน่าจะลองจัดโครงการสำหรับผู้ใหญ่บ้างเพื่อให้คนได้ศึกษาธรรม เพราะวัดในละแวกนี้ไม่มีที่ใดจัดปฏิบัติธรรมเลย”
หลังจากเริ่มจัดตั้งโครงการ ท่านเจ้าคุณพระรัตนเมธี เจ้าอาวาสวัดแก้วฟ้าจุฬามณีเกรงว่าจะไม่มีผู้มาปฏิบัติ เนื่องจากสถานที่ไม่เอื้ออำนวยนัก รวมทั้งพระครูสังฆรักษ์สุภชัยก็ยังไม่มีความรู้ด้านการปฏิบัติธรรมมากพอ จึงแนะนำให้เปิดกิจกรรมสนทนาธรรมก่อนในเบื้องต้น
“ตอนนั้นบริเวณใต้ธัมเมกขสถูปจำลองซึ่งเป็นห้องปฏิบัติธรรมในปัจจุบัน มีสภาพรกร้างเนื่องจากเป็นอาคารที่พระสร้างกันเอง เมื่อฝนตกจึงเกิดปัญหาน้ำรั่วซึม ท่านเจ้าอาวาสเห็นว่า หากอยากเปิดปฏิบัติธรรม ลองเชิญโยมมานั่งสนทนาธรรมกันตรงนี้ก่อนไหม ดีกว่าปิดทิ้งร้างไว้เฉย ๆ เราก็เห็นด้วยเนื่องจากธัมเมกขสถูปเป็นสถานที่สำคัญทาพระพุทธศาสนา คือเป็นที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาและเกิดพระสงฆ์รูปแรกของโลกคือพระอัญญาโกณฑัญญะ อาตมาเห็นว่าก็น่าจะเหมาะสม
“อาตมาเรียกคนที่เดินผ่านไปมาเข้ามาสนทนาธรรมอยู่หลายวันก็ไม่มีใครสนใจ สุดท้ายจึงตั้งจิตอธิษฐานว่า ขอให้ได้จัดปฏิบัติธรรมเผยแผ่ธรรมให้ญาติโยม ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้นมีคนเข้ามาร่วมสนทนาธรรมถึง 7 คน ทุกคนสนับสนุนให้ลองจัดโครงการ หากไม่มีคนมาก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวมากัน 7 คนก็ได้ แต่ปัญหาคือ เราไม่มีทั้งคนสอนและสถานที่ ทั้ง 7 คนก็อาสาช่วยเหลือทั้งหมด ทั้งทำความสะอาดห้องและเป็นผู้สอนเองในเบื้องต้นเพราะ 1 ใน 7 คนนั้นเคยเป็นผู้ปฏิบัติธรรมมาก่อน เราจึงมีโอกาสเปิดโครงการบวชเนกขัมมบารมีขึ้นเป็นครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2551 โดยมีคนมาร่วมปฏิบัติธรรมถึง 30 คน นับว่าเกินความคาดหมายมาก”
หลังจากการปฏิบัติธรรมครั้งแรกผ่านพ้นไปด้วยดี จึงจัดปฏิบัติธรรมอีกหลายครั้ง ระหว่างนั้นพระครูสังฆรักษ์สุภชัยก็เดินทางไปศึกษาการปฏิบัติธรรมจากวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ วัดธรรมมงคลเถาบุญญนนท์วิหาร และศูนย์ปฏิบัติธรรมธรรมโมลีจนแตกฉาน และกลับมาวางแนวทางการสอนเจริญสติแบบประยุกต์
“มีครั้งหนึ่งอาตมาอ่านหนังสือเจอว่าสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 19 ทรงสอนการเจริญสติให้พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ด้วยการกำหนดลมหายใจเข้า - ออก นับหนึ่ง หายใจเข้า -ออกอีกครั้ง นับสอง ไปเรื่อย ๆ จนถึงห้าแล้วเริ่มนับหนึ่งใหม่ เมื่อลองนำมาปฏิบัติตามเห็นว่าได้ผลดี จึงนำมาสอนควบคู่กับการเดินจงกรม 6 ระยะ กำหนดรู้ ขวาย่างหนอ - ซ้ายย่างหนอ ปฏิบัติเช่นนี้เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน เราไม่ได้หวังให้ทุกคนมาปฏิบัติแล้วต้องนิพพาน เพราะกว่าจะไปถึงขั้นนั้นต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง เพียงแค่ขอให้เขามีสติ ลดละกิเลส นำธรรมะไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ก็เพียงพอแล้ว”
การปฏิบัติธรรมนับเป็นจุดเริ่มต้นของความสงบที่แท้จริง
วัดแก้วฟ้าจุฬามณี
9 ถนนทหาร หมู่ 14 แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพ 10300
โทร. 090 973 1427
ที่มา คอลัมน์ Travel in Peace นิตยสาร Secret
เรื่อง Pitchaya
ภาพ ฝ่ายภาพอมรินทร์พริ้นติ้งฯ
บทความน่าสนใจ
วัดโมลีโลกยารามราชวรวิหาร การศึกษาคือหัวใจสําคัญของการเผยแผ่