อินเตอร์มิตเตนต์ฟาสติ้งที่มาบูมในระยะหลังเพราะช่วยเรื่องการลดน้ำหนักได้จริงๆ และช่วยส่งเสริมให้สุขภาพดี แต่ไม่อยากให้ทุกคนเข้าใจว่ามีเพียงการทำอินเตอร์มิตเตนต์ฟาสติ้งเท่านั้นที่ทำให้เราแข็งแรง ซึ่งหลักการจริงๆ คือการอดอาหารเป็นช่วงเวลา แต่เราไม่เคยพูดลงลึกไปว่าช่วงที่กินกินอะไร ไม่อยากให้หลงประเด็นว่าช่วงที่กินคุณกินอะไรก็ได้ซึ่ง ถ้าทำอย่างนี้ ผลลัพธ์สุดท้ายอาจจะเลวร้ายกว่าคนที่กินปกติก็ได้
Macrobiotic Dietแมคโครไบโอติก…วิถีกินแบบองค์รวม
แมคโครไบโอติก (Macrobiotic Diet) คือต้นแบบการกินของอาหารชีวจิต ซึ่งเน้นการกินแบบเป็นวิถีองค์รวม คุณอัจจิมา ศรีปรัชญาอนันต์ นักกำหนดอาหารขึ้นทะเบียนวิชาชีพสหรัฐอเมริกา อธิบายให้เราฟังว่าหลักการกินอาหารแบบแมคโครไบโอติกคือ การกินอาหารอย่างไรให้มีความสมดุล ใช้หลักหยิน – หยางตามปรัชญาชาวจีน
มีหลักเลือกการกินอาหารตามฤดูกาล เลือกกินอาหารที่ปลูกเองหรือปลูกตามท้องถิ่นโดยไม่ใช้สารเคมี หลีกเลี่ยงอาหารที่ผ่านกระบวนการปรุงแต่ง เลือกอาหารที่ปรุงด้วยวิธีแบบธรรมชาติ และสอนให้ใส่ใจในการกิน กินแต่พออิ่มมีการเคี้ยวอาหารแต่ละคำอย่างละเอียด มีการระลึกถึงและขอบคุณอาหารที่กินเข้าไปเพื่อดำรงชีวิต
ผลดีของการกินอาหารประเภทแมคโครไบโอติก มีการศึกษาวิจัย ผู้ที่กินตามหลักสูตรเป็นระยะเวลา 6 เดือน พบว่ามีน้ำหนักตัวที่ลดลงความดันโลหิตลดลง ระดับคอเลสเตอรอลโดยรวม คอเลสเตอรอลชนิดLDL และไตรกลีเซอไรด์ในเลือดลดลง ขณะที่คอเลสเตอรอลชนิดดีหรือ HDL กลับเพิ่มขึ้นด้วย
Clean Eating Diet อาหารคลีนเพื่อสุขภาพ
2-3 ปีที่ผ่านมา อาหารคลีน (Clean Eating Diet) เป็นเทรนด์อาหารที่ทุกคนพูดถึง ถึงทุกวันนี้จะถูกพูดถึงน้อยลง แต่หลายคนก็ยังคงกินอาหารคลีน
อาหารคลีนเข้ามาในประเทศไทยประมาณ 3-4 ปีที่ผ่านมาและเป็นทฤษฎีที่กว้างมาก ไม่มีหลักการที่ตายตัว คนไทยส่วนใหญ่รับทฤษฎีอาหารคลีนเข้ามา โดยจดจำมาจากคนดัง บรรดาเหล่าเซเลบริตี้ แล้วนิยามเป็นเมนูอาหารที่ค่อนข้างจำกัดเกินไป ยกตัวอย่างเช่น อกไก่นึ่ง ไข่ต้มบรอกโคลีลวก ข้าวกล้อง ซึ่งเป็นการดีไซน์เมนูที่จำกัดจนเกินไปจนบางทีทำให้อาหารคลีนดูไม่น่ากิน และปลายทางสุดท้ายโฟกัสที่เรื่องของน้ำหนักลดลงเพียงอย่างเดียว ซึ่งในระยะยาวจะทำให้ร่างกายได้สารอาหารไม่เพียงพอ และจะเกิดความเครียดเรื่องการกินอาหารจนเกินไป
FOOD FOR YOUR BLOOD TYPE อาหารตามกรุ๊ปเลือด
การกินอาหารตามกรุ๊ปเลือดก็เป็นอีกกระแสที่เคยได้รับความนิยม และยังมีคนจำนวนหนึ่งให้ความสำคัญกับการกิอาหารตามกรุ๊ปเลือดอยู่ คุณอัจจิมา ศรีปรัชญาอนันต์ นักกำหนดอาหารขึ้นทะเบียนวิชาชีพสหรัฐอเมริกาอธิบายเรื่องนี้ว่า
ถ้าเรากินอาหารที่มีเลกตินไม่เหมาะกับเลือดของเรา ก็จะทำให้เลกตินเข้าไปรบกวนการทำงานของระบบย่อยอาหาร การเผาผลาญ การสร้างอินซูลิน และความสมดุลของฮอร์โมน เกิดภาวะเลือดจับตัวเป็นก้อน จากความแตกต่างของสารเคมีในเลือดนี่เอง จึงทำให้เลือดแต่ละกรุ๊ปมีความสามารถในการย่อยต่างกัน
ถ้าร่างกายกินอาหารและสามารถย่อยได้หมดร่างกายก็จะนำสารอาหารไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ แต่ถ้าย่อยได้ไม่หมด ก็จะตกค้างอยู่ในร่างกายและเน่าเสียเมื่อร่างกายดูดซึมกลับไปอีกครั้งก็จะทำให้ป่วยง่ายขึ้น แต่ในปัจจุบันนี้ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เชื่อถือได้มาสนับสนุนแนวคิดที่ว่าหมู่เลือดกับอาหารนั้นมีความสัมพันธ์กันอย่างที่กล่าวมา
Normal Eating & Mindful Eating กินให้พอดีกับร่างกาย
ในปี 2020 นี้ต่างประเทศนิยมย้อนกลับมากินอาหารที่ไม่ใช่แค่รับรสจากธรรมชาติอีกต่อไปแล้ว แต่ยังรวมถึงการมีสติรับรู้ในขณะกิน รู้จักเลือกกินให้เหมาะกับความต้องการของร่างกายเฉพาะบุคคล โดยเทรนด์การกินดังกล่าวนี้คือ Normal Eating และ Mindful Eating
คือหลักการกินที่ดีเพื่อให้พอดีกับที่ร่างกายต้องการใช้พลังงาน ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มคุณแม่ให้นมต้องกินอาหารเพิ่มมากกว่าคนปกติ 2 เท่า หรือนักกีฬาต้องการอาหารที่ได้สารจำเป็นต่อร่างกายครบถ้วนรายละเอียดคือ เป็นการกินอาหารอย่างมีสติ ควรโฟกัสอยู่กับอาหารที่กินและคนรอบข้างที่ร่วมกิน เพราะบรรยากาศการกินร่วมกันจะช่วยให้เรากินอาหารอร่อยขึ้นและมีเวลาในการเคี้ยวนานขึ้นเพื่อช่วยระบบย่อย
อาหารเจ ต้นทางจากวิถีพุทธ
อาหารเจเป็นอาหารที่อยู่ในเทรนด์ทุกยุคสมัย ถือว่าเป็นหนึ่งในวิถีปฏิบัติของคนไทยเชื้อสายจีนเลยก็ว่าได้ อาจารย์วิโรจน์ ตั้งวาณิชย์ เล่าที่มาของอาหารเจว่า การกินเจของคนจีนเริ่มต้นจากพุทธศาสนา ศาสนาพุทธเข้ามาในเมืองจีนและแทรกซึมอยู่ในวิถีชีวิต วัฒนธรรม แม้แต่วรรณคดีกาพย์กลอน และหลักศีล 5 คือธรรมะที่คนจีนนับถือ และพูดถึงศีลข้อ 1 ห้ามฆ่าสัตว์ตัดชีวิต พอไม่ฆ่าสัตว์คนจีนก็กำหนดขึ้นมาว่า ต้องกินเจ ซึ่งเป็นพุทธมหายาน กำหนดให้พระจีนฉันเจ แต่เพราะเมืองจีนอากาศหนาว พระจึงสามารถฉันได้สามมื้อ
การกินอาหารเจให้ดีต่อสุขภาพคนไทยนั้นมีเคล็ดลับว่าที่เมืองจีนอาหารเจต้องกินให้มันเพราะอากาศหนาว ทุกคนต้องการไขมันส่วนเมืองไทยเป็นเมืองร้อนเราไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมันในการทำอาหารเยอะ และจำเป็นต้องเน้นโปรตีนจากถั่ว เต้าหู้ ฟองเต้าหู้ หรือบางบ้านทำอาหารเจจะใช้น้ำมันถั่วลิสงซึ่งเป็นน้ำมันที่กินแล้วร้อนมาก คนที่ร่างกายมีความร้อนอยู่แล้วพอกินเข้าไปจะร้อนใน ก็ใช้น้ำมันพืชอย่างถั่วเหลืองแทนได้
ทั้งหมดนี้คือ 10 DIET TRENDS ของปี 2020 เป็นการกินอาหารตามเทรนด์จากกูรูตัวจริง ปลอดภัย ไม่ป่วย ไกลมะเร็ง เบาหวาน ความดัน โรคอ้วน ที่เราได้ย่อเนื้อหามาให้ทุกคนได้อ่านเพื่อเป็นกรเรียกน้ำย่อยกันก่อน
เอาเป็นว่าถ้าใครอยากรู้รายละเอียดแบบลึกๆ เนื้อหาสาระแบบเต็มๆ ก็สามารถเข้าไปติดตามได้ในนิตยสารชีวจิตฉบับ 511 (22-26 มกราคม 2563) หรือสามารถสั่งสื่อออนไลน์ผ่านทางนี้ได้เลยค่ะ https://www.naiin.com/product/detail/497398
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เจาะลึกการกิน คีโตเจนิค กินไขมันเพื่อลดไขมัน ดีต่อสุขภาพจริงหรือไม่
อาหารเสริม กินมากๆ ตกค้างในร่างกาย อันตรายหรือไม่
กิน อาหารตามสั่ง อย่างไร ไม่เสี่ยงโรคไต โรคความดัน โรคเบาหวาน
