เทคนิคดื่มน้ำ ก่อน ระหว่าง และหลัง วิ่ง ป้องกันวืดแบบ ตูน บอดี้สแลม
ตูน บอดี้สแลม ก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาล หลังจากที่แพทย์หญิงสมิตดา สังขะโพธิ์ หรือ หมอเมย์ แพทย์ผู้คอยดูแลสุขภาพของร็อคเกอร์หนุ่ม โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับร่างกายของตูนว่า ตูนมีอาการเวียนหัวและจะหน้ามืดหลายครั้ง เพราะให้ความสนใจกับผู้คนที่คอยมาต้อนรับ จนทำให้ดื่มน้ำน้อย เมื่อรวมกับอากาศร้อนจัดจึงทำให้ร่างกายขาดน้ำได้ อาการดังกล่าวจึงเป็นเรื่องที่คนออกกำลังกายไม่ควรมองข้าม
ดื่มน้ำก่อนออกกำลังกาย
ก่อนออกกําลังกายประมาณ 20-30 นาที ควรดื่มน้ำเย็นประมาณ 400-500 มิลลิลิตร เพราะกว่าน้ำเย็นจะผ่านจากกระเพาะอาหารลงสู่ลําไส้เล็ก เพื่อดูดซึมจะใช้เวลาราว 30 นาที และไม่ต้องเกรงว่าจะปวดปัสสาวะ เพราะเมื่อเริ่มออกกําลังกาย การไหลเวียนของเลือดไปยังไตจะลดลง ทําให้ปัสสาวะนัอย แต่ไม่ควรดื่มน้ำปริมาณมากๆ ทันทีก่อนออกกําลังกาย เพราะจะทําให้จุกเสียดท้องและน้ำยังไม่สามารถดูดซึมที่ลําไส้เล็กได้
ดื่มน้ำระหว่างออกกำลังกาย
ระหว่างออกกําลังกายที่ใช้เวลาน้อยกว่า 30 นาที เช่น การวิ่งระยะไกล การขี่จักรยานระยะไกล การเตะฟุตบอล ผู้ออกกําลังกาย ควรดื่มน้ำทดแทนเป็นระยะๆ โดยดื่มครั้งละน้อยๆ แต่บ่อยครั้ง เพื่อไม่ให้เกิดอาการจุกเสียด แน่นท้อง แนะนําว่า ให้ดื่มน้ำเย็นครั้งละ 200 มิลลิลิตร ทุกๆ 15 นาที และเมื่อออกกําลังกายเสร็จให้ดื่มอีก 500 มิลลิลิตร
ดื่มน้ำหลังออกกําลังกาย
ให้คํานวณปริมาณน้ำที่ดื่มทดแทนจากน้ำหนักตัวที่หายไประหว่างการออกกําลังกาย น้ำหนักหายไปเท่าใดก็ให้ดื่มน้ำทดแทนเท่านั้น น้ำหนักที่ลดลงภายหลังการออกกําลังกาย ส่วนใหญ่เป็นน้ำหนักของน้ำที่สูญเสียไปกับเหงื่อมากกว่าจะเป็นน้ำหนักของไขมัน
ทั้งนี้คุณควรชั่งน้ำหนักตัวทุกครั้ง ทั้งก่อนและหลังการออกกําลังกาย เพื่อคํานวณหาปริมาณน้ำที่ต้องดื่มทดแทน การชั่งน้ำหนักตัวเป็นระยะๆ จะเป็นการประเมินภาวะขาดน้ำได้ดีที่สุด อาการกระหายน้ำเป็นตัวบ่งชี้ภาวะขาดน้ำได้ดี เพราะจะมีอาการต่อเมื่อร่างกายขาดน้ำไปมากพอสมควร โดยพบว่าผู้ออกกําลังกายหลายรายมีน้ำหนักตัวลดลงเนื่องจากภาวะขาดน้ำ โดยไม่มีการกระหายน้ำให้เห็นเลย
เครดิตภาพจาก https://www.facebook.com/kaokonlakao/
บทความน่าสนใจอื่นๆ
ท่าวิ่งที่ถูกต้อง เริ่ดสุด ถนอมข้อ ลดน้ำหนัก
วิ่งให้ ขาเรียว ภายใน 7 สัปดาห์