ปลากะพงย่างซอสเลมอน สเต็กปลากะพงซัลซ่าเลมอน

ปลากะพงย่างซอสเลมอน เมนูสุขภาพง๊ายง่าย ทำกินเองได้ที่บ้าน! (มีคลิป)

ปลากะพงย่างซอสเลมอน เมนูอร่อยง่ายได้สุขภาพ!

ปลากะพงย่างซอสเลมอน เนื้อปลากะพงฟิเล่ย์ ย่างบนกระทะร้อนๆจนหนังกรอบ สุกกำลังดี เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ รับประทานคู่กับ “ซัลซ่าสเลมอน” ที่มีส่วนผสมของเนื้อเลมอนลงไปด้วย เพิ่มรสหวานธรรมชาติด้วยน้ำผึ้ง เมื่อทานคู่กันแล้วตัดเลี่ยนได้เป็นอย่างดี ทั้งหอมและสดชื่นเข้ากันอย่างลงตัว ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูอร่อยที่ A Cuisine มาฝากทุกคน…แถมทำง่ายได้สุขภาพอีกด้วย มาดูกันเลยค่ะ ^^

 

ส่วนผสม สเต็กปลากะพง

  • เนื้อปลากะพง 100 กรัม 1 ชิ้น
  • หน่อไม้ฝรั่ง 50 กรัม
  • น้ำมันมะกอก สำหรับย่าง
  • เนยจืด 1 ช้อนโต๊ะ
  • โรสแมรี่ 1 ช่อ
  • ไทม์ 1 ช่อ
  • กระเทียมกลีบใหญ่บุบ 2-3 กลีบ

ส่วนผสม ซอสเลมอน

  • เลมอน 1 ลูก
  • มะเขือเทศหั่นเต๋าเล็ก 2 ช้อนโต๊ะ
  • หอมแดงสับ 3-4 หัว
  • งาดำ 2 ช้อนชา
  • น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันงา 2 ช้อนชา
  • น้ำมันมะกอก 1/3 ถ้วย
  • เกลือเล็กน้อย
  • พริกไทยป่นเล็กน้อย

วิธีทำ

ย่างปลา

1.หมักปลาด้วย เกลือ พริกไทยดำ น้ำมันมะกอก ให้ทั่วทั้งสองด้าน เตรียมไว้

2.ตั้งกระทะพอร้อน ใส่น้ำมันมะกอก ใส่เนย วางปลาลงไปย่างเอาด้านหนังลงก่อน ใส่โรสแมรี่ ใบไทม์ กระเทียม ย่างจนปลาสุก ตักขึ้นพักไว้

3.นำหน่อไม้ฝรั่งไปย่างต่อจนสุก ตักขึ้นพักไว้

ซัลซ่าเลมอน

4.หั่นเปลือกเลมอนออก ซอยเปลือกให้เป็นชิ้นเล็กๆ

5.เตรียมชามผสม ใส่เปลือกเลมอน หอมแดงซอย น้ำผึ้ง น้ำมันงา งาดำ เกลือ พริกไทย แล้วบีบน้ำเลมอนที่เหลือจากการปอกเปลือก คนผสมให้เข้ากัน

6.จัดเสิร์ฟ โดยวางหน่อไม้ในจาน วางชิ้นปลา ราดด้วยซัลซ่าเลมอน พร้อมรับประทาน

เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะคะ สำหรับคนรักสุขภาพแล้วเมนูนี้ก็ไม่ควรพลาดเลย อย่าลืมกลับไปลองทำดู แล้วส่งรูปมาอวดในเพจ A Cuisine ด้วยล่ะ ^^

 

ประโยชน์ของ “ปลากะพง” 

เป็นที่ทราบกันดีว่า ในเนื้อปลามีโปรตีนชั้นเยี่ยม ย่อยง่าย และไขมันต่ำ และในไขมันก็ยังมี โอเมก้า และ DHA ซึ่งช่วยในเรื่องการบำรุงสมอง รวมทั้งยังมีแร่ธาตุ วิตามิน และสารอาหารอื่น ๆ อีกหลายชนิด

ปลากะพง จัดว่าเป็นปลาที่มีไขมันต่ำ เมื่อเทียบกับปลาทะเลชนิดอื่น ๆ  คือ มีไขมัน เพียง 2-4 กรัม ต่อเนื้อปลา 1 ขีด แต่มีโอเมก้า 3 มากเมื่อเทียบกับปลาทะเลด้วยกัน ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ในโอเมก้า 3 จะมีอยู่มากในปลาทะเลน้ำลึก ซึ่งราคาจะค่อนข้างสูง แต่เราสามารถเลือกทานปลากะพงแทนได้ในราคาไม่แพงและได้รับสารอาหารได้เหมือนเลยทีเดียว

ประโยชน์จากปลามีมากมาย เด็กก็ชอบทานปลา เพราะช่วยบำรุงสมอง ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักก็ชอบทานปลา เพราะมีไขมันต่ำ ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วย ก็ชอบทานปลาเพราะย่อยง่าย จะเห็นได้ว่า เมนูปลาสามารถรับประทานกันได้ทุกเพศทุกวัย แท้ที่จริงเราได้รับประโยชน์อะไรบ้าง ลองมาดูกัน

  • ลดน้ำหนัก เพราะปลาจะให้พลังงานน้อยกว่าเนื้อสัตว์ประเภทอื่น จึงไม่ทำให้อ้วน
  • บำรุงสมอง ในปลามีกรด DHA ช่วยในเรื่องการพัฒนาสมอง ความจำ และการเรียนรู้
  • ผิวสวย ผ่องใส ในปลามีวิตามินดี จาก โอเมก้า 3 ที่ช่วยในเรื่องผิวพรรณ และการไหลเวียนเลือดในร่างกาย จึงช่วยในเรื่องการบำรุงผิวทั้งภายนอกและภายใน
  • สายตาดี ทานปลาช่วยบำรุงประสาทตา ซึ่งช่วยให้การมองเห็นดีขึ้น
  • บำรุงข้อกระดูก ในน้ำมันปลา สามารถช่วยเสริมสร้าง และบรรเทาอาการไขข้ออักเสบได้
  • ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ ทานปลา สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ช่วยลดความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ

    วิธีการเลือกซื้อปลา

    • เหงือกมีสีสด
    • ตาปลาต้องใส
    • เกล็ดและหนังไม่ขุ่น
    • เนื้อแน่น เมื่อกดดูไม่บุ๋มตามรอยนิ้วมือ
    • เนื้อไม่แข็งทื่อ
    • ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า
    • เหงือกมีสีสด

    วิธีการล้างปลาสดให้หมดเมือกและกลิ่นคาว มีหลายวิธี ลองดูกันนะคะ

    1. ล้างน้ำเปล่าธรรมดา แต่เน้นที่ความแรงของน้ำ
    2. ล้างด้วยน้ำผสมเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ แล้วตามด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งหนึ่ง
    3. ล้างด้วยการนำมะนาวฝานเป็นชิ้นมาถูที่เนื้อปลา แล้วตามด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งหนึ่ง
    4. ล้างด้วยน้ำส้มมะขามเปียก แล้วตามด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งหนึ่ง

    การเก็บรักษา

    ควรทำความสะอาดปลาก่อน กล่าวคือ ต้องขอดเกล็ดออกให้หมด ถ้าไม่มีเกล็ดต้องขูดเมือกออก ดึงเหงือกและควักไส้ออก ล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้น ใส่กล่องพลาสติก ปิดฝา นำเข้าช่องแช่แข็ง

ขอบคุณข้อมูลจาก

#ACuisine #เอคูซีน #MaTamCooking #EasyMenu
 กดติดตาม Instagram ได้ที่ @ acuisine.th Follow มาเยอะๆ นะคะ 

ง่าย สนุก สุข อร่อย อยากกิน..อยากฟิน..อยากทำ.. อย่าลืมติดตาม #Acuisine นะจ๊ะ

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.