เวลาที่เราเจอปัญหาหนัก ๆ เข้ามาในชีวิต ไม่ว่าจะเป็น เรื่องครอบครัว อกหัก ลูกติดยา สามีนอกใจ ภรรยามีชู้ ความเจ็บไข้ได้ป่วย ปัญหาเศรษฐกิจ ไม่มีเงินใช้ ตกงาน ความกดดันจากงาน ภาระมากเกินกำลัง ฯลฯ แล้วเราจะทำอย่างไรเล่าเมื่อต้องเผชิญ มีข้อคิดหลายอย่างที่อยากแนะนำให้ลองพิจารณา แล้วมาปรับคิด ปรับใช้ ให้ตรงกับสถานการณ์ของเรา
1. รับมือกับปัญหา
อย่าเพิ่งหนีเพราะเราอาจจะทิ้งปัญหาของเราให้คนอื่นรับแทน ลำบากแทน อย่าเพิ่งไปฆ่าตัวตาย กล้าเผชิญหน้ากับมัน ลองปรึกษาผู้ที่ไว้ใจได้และมีความรู้ เชื่อถือได้ อย่างน้อยก็ได้ระบาย ได้คนช่วยคิด เวลาจะทำให้สถานการณ์ทุกอย่างคลี่คลาย ปัญหาหนักที่เจอยังไงมันก็เปลี่ยนแปลง ถ้ามันยังไม่จบ อย่างน้อยเวลาก็ทำให้เรามีสติตั้งรับมันได้ทัน คิดหาหนทางแก้ไขได้ทัน หรือปลงกับมันได้มากขึ้นเรื่อย ๆ
2. มองคนอื่นที่เขาหนักหนาสาหัสกว่าเรา
เค้าแย่กว่าเรา เช่น คนพิการตาบอด เค้ายังไปทำมาหากิน เลี้ยงชีพทุกวัน จะเดินก็ยังลำบาก ต้องขึ้นรถลงเรือ ต้องระวังคนมาขโมยทรัพย์สิน หรือคนจน ๆ ที่ต้องอดมื้อกินมื้อ ทำงานหนักแบกหาม ได้นอนวันละ 4-5 ชม. แล้วกลับมาดูตัวเราว่าเรายังมียังเหลืออะไรทำอะไรได้บ้าง มีข้าวกินทุกมื้อไหม มีที่ซุกหัวนอนหรือเปล่า แขนขายังดีหรือเปล่า ยังมีแรงลุกขึ้นทำอะไรได้ตั้งมากมายใช่ไหม อย่าซ้ำเติมตัวเอง อย่าเศร้านาน ทุกคนล้มได้ แพ้ได้ แต่คนลุกได้เร็วจะได้เปรียบ หายเจ็บก่อน เจ็บน้อยกว่า กลับมาใช้ชีวิตให้มีความสุขได้ก่อน ลองเลือกเอาว่าอยากได้ชีวิตแบบไหน
3. หัดพูดขอบคุณกับสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดในชีวิต
ใครทำอะไรให้เล็ก ๆ น้อย ๆ ก็หัดขอบคุณ เช่น ร.ป.ภ. ช่วยเข็นรถในที่จอดรถให้ แม่ปอกผลไม้ให้กิน ใครที่เอื้อเฟื้อเรา ช่วยเหลือ หรือเรื่องหนักหนาสาหัสเกิดขึ้น ก็ลองคิดกลับหามุมมาขอบคุณกับเหตุการณ์นั้น เช่น คนใกล้ชิดตาย ก็บอกตัวเองว่า ทุกคนต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ วันหนึ่งก็ถึงตาของเราบ้าง แล้วเราใช้ชีวิตที่ยังเหลืออยู่อย่างคนรู้คิดมีความสุข และเป็นประโยชน์ให้ตัวเองหรือส่วนรวม หรือยังมีอะไรที่อยากทำแล้วยังไม่ได้ทำบ้าง อะไรที่จะพัฒนาศักยภาพของเราให้เติบโตทางความคิด จิตวิญญาณ พัฒนาสติให้มาก ระลึกให้ทัน การเอาสิ่งไม่ได้ รับสิ่งไม่ดีมาเป็นอารมณ์ มันเป็นบาปแก่ตัวเราเอง เหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเรา เราไปเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่วิธีคิด วิธีรับมือ ทำให้เราทุกข์น้อยลง ปล่อยวางมากขึ้น อย่าไปยึดถือ พลิกสถานการณ์ร้าย ๆ ให้เป็นบทเรียน ขอบคุณทุกเรื่องที่เข้ามาในชีวิต
4. หมั่นทำความดี
สร้างกุศลให้เจริญงอกงาม และรักษากุศลที่เกิดขึ้นแล้วให้คงอยู่ และเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป ละบาปทั้งปวง ไม่ทำบาปเพิ่ม แม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งก็คือการหมั่นทำความดี ละความชั่ว ทั้งทางกาย วาจา และจิตใจให้สะอาด บริสุทธิ์ สงบ ร่มเย็น พัฒนากุศลให้เจริญงอกงาม ทำบุญทำทาน ความหมายที่บริสุทธ์นั่นก็คือ เจตนาของผู้ให้อยากจะให้ด้วยตนเอง ไม่ได้ถูกบังคับ ร้องขอ และทรัพย์สิ่งของที่จะให้ ก็ต้องหามาด้วยความสุจริต วัตถุประสงค์ของการทำก็เพื่อลดความโลภ เสียสละ ละวาง ไม่ใช่เพื่อต้องการสวรรค์วิมาน หรือผลตอบแทนใด ๆ จากบุญนั้น
ที่มา หลงตัวตนสับสนหนทาง โดย พระอาจารย์ยุทธนา เตชปัญฺโญ
บทความน่าสนใจ
10 เหตุผลที่เราทุกคนควรมีเมตตา ข้อคิดสะกิดใจโดย ท่าน ว.วชิรเมธี
อย่าอยู่อย่างคนรกโลก ข้อคิดเตือนสติ โดย พระอาจารย์นวลจันทร์ กิตติปัญโญ