รักคืออะไร? นักปรัชญา และนักวิทยาศาสตร์ต่างก็ใช้ความพยายามเฟ้นหาคำตอบของ นิยามรัก และแล้วในปีค.ศ. 1980 ดร.โรเบิร์ต สเตนเบิร์ก ก็ได้คิดค้นและพัฒนา ทฤษฏี Triangle of Love หรือ ทฤษฏีแห่งความรัก อันว่าด้วยเรื่องของ อารมณ์ที่เกิดจากความใกล้ชิด ความปรารถนา และพันธสัญญา จากทฤษฏีพบว่ามีความรู้สึกอยู่ 7 อย่างที่คู่รักมีต่อกัน ซึ่งแต่ละความรู้สึก จะบ่งบอกได้ว่า รักของเราและเขามาถึงจุดที่สมบูรณ์พร้อมหรือยัง
นิยามรัก ทั้ง 7
ที่บอกได้ว่ารักของเรามาถึงจุดที่สมบูรณ์พร้อมหรือยัง
ความเสน่หา (Infatuation)
มีหลายคนที่แม้จะไม่ได้รู้จักกันและกันอย่างดี แต่ก็ยังถูกดึงดูดเข้าหากันด้วยความต้องการ และความปรารถนา ในแง่ของความสัมพันธ์แบบนี้ คนสองคนได้เจอกันเพียงชั่วครู่ ก็สามารถตกลงปลงใจ ที่จะอยู่ด้วยกันได้แบบไม่จำเป็นต้องมี เหตุผลใดๆ
นักจิตวิทยา ให้ความเห็นเกี่ยวกับรักประเภทนี้ว่า ความหลงใหล สามารถเปลี่ยนแปลงไปเป็นความรู้สึกอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็ว และจะหายไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
ความชอบ (liking)
ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นด้วย ความชอบ เราจะรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง เราและคนรักจะมีความสนใจ และมุมมองของชีวิตแบบเดียวกัน นั่นทำให้เราเข้าใจกันและกันได้เป็นอย่างดี นักจิตวิทยาลงความเห็นว่า หากคู่รักมีเพียงความชอบ แต่ไม่มีความหลงใหล และความรู้สึกอยากมีชีวิตอยู่ร่วมกันในอนาคต สุดท้ายความสัมพันธ์แบบนี้จะจบลงแบบ เป็นเพื่อนกันมากกว่า
รักที่ว่างเปล่า (Empty love)
ความรักประเภทนี้ คือคู่รักจะมีแค่ความจำเป็น ที่ต้องอยู่ร่วมกันในอนาคต เช่น การจับคู่ระหว่างตระกูลที่ร่ำรวย โดยปราศจากความใกล้ชิด และความหลงใหล บางครั้งความรักแบบนี้ก็เกิดจากความรักที่ค่อยๆ จืดชืดลงของ คู่รักที่รักกันมานาน แต่ก็สามารถเปลี่ยนกลับมาเป็นรักที่หวานชื่นได้ ด้วยการเพิ่มความหลงใหล ให้มากขึ้น
รักอันร้อนแรง (Fatuous love)
รักประเภทนี้ คือส่วนผสมของความเสน่หา และความผูกพันจริงจังในอนาคต เป็นรักประเภทที่จะเกิดขึ้น หากคนสองคนรู้สึกปรารถนาและดึงดูดซึ่งกันและกันทั้งสองฝ่าย มากถึงขนาดอยากจะผูกมัดกันและกันไว้ด้วยพิธีการอย่าง การแต่งงาน ทั้งที่ไม่ได้มีความผูกพันใกล้ชิดกันมากมาย คือรักแบบสายฟ้าเเลบ นั่นเอง
รักหวานแหวว (Romantic love)
รักประเภทนี้จะมีทั้ง ความหลงใหล และความผูกพันใกล้ชิด อาจเกิดจากความผูกพันใกล้ชิด พัฒนาเป็นความหลงใหล หรือจากความหลงใหลเปลี่ยนเป็นความผูกพัน แต่มักจะข้ามมาเป็น ความผูกพันระดับที่อยากอยู่ด้วยกันไปนานๆ ในอนาคตไม่ได้
รักแบบเห็นอกเห็นใจกัน (Companionate)
เป็นรักแบบที่มี ทั้งพันธะสัญญาที่จะอยู่ร่วมกันในอนาคต และ ความผูกพันใกล้ชิด เป็นความสัมพันธ์ที่แนบแน่นและชัดเจนกว่ามิตรภาพ อย่างไรก็ตาม นักจิตวิทยาบอกว่า รักประเภทนี้จะไม่มีความหลงใหลผสมรวมอยู่ เป็นความรู้สึกที่จะค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในคู่แต่งงาน หรือคนที่สนิทกันมากจริงๆ
รักที่สมบูรณ์แบบ (Consummate love)
นี่คือรักที่ผสมผสานรวมทั้ง 3 ปัจจัย คือ ความผูกพันใกล้ชิด ความหลงใหลปราถนา และสัญญาที่อยากจะอยู่ร่วมทุกข์และสุขกันในอนาคต ทั้ง 3 ปัจจัยนี้อาจจะมีไม่เท่ากัน แต่ทั้งหมด ผสมรวมอยู่ในรักประเภทนี้ เป็นรักที่หาได้ยาก เมื่อเทียบกับนิยามรักทั้ง 6 ที่กล่าวไปข้างต้น แต่หากทั้งเราและเขาตั้งใจร่วมกันสร้างรักแบบนี้ขึ้นมา มันก็จะกลายเป็น รักแท้ ที่สมบูรณ์แบบค่ะ ใครที่มีนิยามรักแบบนี้ เชื่อได้เลยว่าเราและเขาจะต้องมีความสุขกับชีวิตรักอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่า รักที่สมบูรณ์แบบจะคงอยู่ตลอดไป มีบ้างเช่นกันที่บางครั้ง ความหลงใหล ก็จืดจางไป ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการทำความเข้าใจ และการประคับประคองไม่ให้ปัจจัย 1 ใน 3 หมดไปกลางทางค่ะ
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
9 เรื่องที่ คนมีรักมั่นคง และ ความสัมพันธ์ระยะยาว เท่านั้น ถึงจะเข้าใจ
7 สิ่งที่คนรักแอบสังเกตเรา เวลาที่เริ่มต้นพัฒนาความสัมพันธ์
passion หมด ก็หมดใจ ผู้ชายประเภทไหนที่หมด passion กันง่ายๆ รู้ไว้ ก่อน โดนเท !
รักแท้ (ไม่) แพ้ระยะทาง! วิธีรักษาความสัมพันธ์สำหรับคนรักที่ต้องห่างกันไกล
