“ไม่ไหว บอกไหว” คือสิ่งที่หลายคนกำลังเป็น เครียดมาก เกินไป พยายามปกปิดความเหนื่อยล้า เพื่อจัดการงานตรงหน้าให้เสร็จทันเวลา แต่ลืมหรือเปล่าว่า ถ้าเราล้มหรือเจ็บป่วยเป็นอะไรไป อย่างมากบริษัทก็หาคนมาทำใหม่เพื่อทดแทน ในทางกลับกัน ร่างกายของเรากลับไม่มีอะไหล่ในการเปลี่ยน ฉะนั้นเมื่อเกิดสัญญาณเหล่านี้กับตัวเอง ถึงเวลาต้องหยุดพักและสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้ว
ทุกข์ทรมานจากอาการนอนไม่หลับ
ถ้าคุณมีอาการนอนไม่หลับมาเป็นระยะหนึ่ง หรือเป็นบางช่วงที่ค่อนข้างมีเรื่องต้องคิด หรืองานที่ต้องจัดการมาก แม้จะเหนื่อยจากงานแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถข่มตานอนหลับได้ เป็นสัญญาณว่าคุณไม่ควรมองข้าม ความเครียด ที่เกิดขึ้น มันอาจเป็นเรื่องยากที่จะสั่งสมองให้ Shut Down ตัวเองก่อนนอนและล่องลอยไปกับความสุขขณะหลับฝัน เพราะเมื่อคุณกังวลเกี่ยวกับการตรวจทานงานในรายการสิ่งที่ต้องทำต่างๆ หรือคุณไม่สามารถหยุดคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ผ่านมาได้ นี่คือปฏิกิริยาของร่างกายของคุณต่อความเครียดที่รุนแรง
เจ็บป่วยตลอด
ความ เครียดมาก เกินไปทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของคุณอ่อนแอลงซึ่งหมายความว่าคุณมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อหวัดไข้หวัดหรือไวรัสที่อยู่รอบ ๆ สถานที่ทำงานหรือวงสังคมของคุณได้ง่ายขึ้น เมื่อคุณเครียดจริง ๆ มันก็ยากที่จะจัดการกับความเจ็บป่วยที่คุณต้องต่อสู้ดังนั้นถ้าคุณมีอาการไอและเป็นไข้เป็นเวลาหลายสัปดาห์ ถึงเวลาต้องให้เวลาตัวเองได้หยุดพักสมองแล้ว เพราะนั่นคือสัญญาณอีกอย่างหนึ่งที่แสดงว่าคุณมีความเครียดมากเกินไปในชีวิต
รู้สึกเหนื่อยล้าตลอด และพลังความกระฉับกระเฉงในร่างกายลดลง
แม้ว่าคุณจะนอนหลับ 8 – 10 ชั่วโมง แต่คุณอาจรู้สึกง่วงเรื้อรังหรือหมดแรง แม้ว่าระดับความเครียดที่ดีต่อสุขภาพจะทำให้เราเคลื่อนไหวและมีแรงจูงใจ แต่การถูกตรึงด้วยความเครียดมากเกินไปก็มีผลตรงกันข้าม ความกังวลและความเครียดนั้นเกิดจากสาเหตุทั่วไปสองประการที่ผู้คนรู้สึกว่าร่างกายรู้สึกเหนื่อยล้าและในกรณีที่มีความเครียดมาก คุณอาจรู้สึกราวกับร่างกายและความคิดเกิดอาการเฉยชา จนเป็นเหตุให้เกิดความรู้สึกสิ้นหวังซึ่งจะทำให้คุณเหนื่อยมากขึ้นเป็นสองเท่า