ไขเคล็ดลับความสำเร็จของ อามันซิโอ ออร์เตก้า เจ้าของอาณาจักรแบรนด์เสื้อผ้า “Zara”
อามันซิโอ ออร์เตก้า (Amancio Ortega) คือนักธุรกิจชาวสเปนผู้ประสบความสำเร็จ จนกลายเป็นหนึ่งในนักธุรกิจที่รวยที่สุดของโลก จากการจัดอันดับโดยนิตยสารฟอร์บส์ หากเอ่ยเพียงชื่อ หลายท่านอาจไม่รู้จัก แต่หากบอกว่าเขาคือผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท Inditex Group บริษัทผู้ผลิตแบรนด์แฟชั่นเสื้อผ้าขวัญใจหนุ่มสาว อย่าง Zara Massimo Dutti และ Pull & Bear เชื่อว่าหลายคนคงต้องร้องอ๋อ!
ออร์เตก้า เกิดที่ประเทศสเปน พ่อของเขาทำอาชีพรับจ้างก่อสร้างทางรถไฟ ส่วนแม่ทำงานแม่บ้าน เขาลาออกจากการเป็นนักเรียนตั้งแต่อายุ 13 ปี เพื่อออกไปหางานทำช่วยเหลือครอบครัว โดยเริ่มต้นจากการเป็นลูกมือร้าน Gala ร้านขายเสื้อผ้าในท้องถิ่น ซึ่งขายเสื้อผ้าจำพวกเสื้อเชิ้ตลายสก็อต หมวกสำหรับชาวประมงและคาร์ดิแกนขนสัตว์
ต่อมาเมื่อเขาอายุ 16 ปี เขาก็ค้นพบว่า เขาควรจะมอบสิ่งที่ลูกค้าต้องการ มากกว่ามอบสิ่งที่เจ้าของแบรนด์ต้องการ และต้องมอบสินค้าเหล่านั้นให้ถึงมือลูกค้าอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาอายุ 36 ปี จึงตั้งตัวเป็นเถ้าแก่เปิดร้านขายเสื้อคลุมอาบน้ำ และตั้งโรงงาน เย็บผ้าเล็กๆ กระทั่งต่อยอดไปสู่การเปิดร้านเสื้อผ้ายี่ห้อ ZARA สาขาแรก ในปี 1975 พ.ศ. 2518 ตอนเขาอายุ 39 ปี เขาจึงตัดสินใจเปิดกิจการร้านเสื้อผ้าของตนเองขึ้น ภายใต้ชื่อแบรนด์ Zara
ออร์เตก้า จ้างช่างเย็บผ้ามาตัดเย็บเสื้อผ้าตามแบบที่เขาต้องการ เขาทุ่มเทเลือกเนื้อผ้า ของประดับด้วยตนเอง พร้อมทั้งลงไปคุยกับพ่อค้าคนกลาง เพื่อให้ได้เสื้อผ้าที่ตัวเองต้องการและคุ้มค่าคุ้มราคามากที่สุด โดยมีเคล็ดลับสำคัญคือความฉับไวในการผลิตสินค้า เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างทันท่วงที
ว่ากันว่าแบรนด์เสื้อผ้าทั่วไปต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2-3 เดือน ในการผลิตเสื้อผ้าตามแบบที่โชว์บนรันเวย์ แต่สำหรับแบรนด์ Zara สามารถออกแบบ ตัดเย็บและส่งวางจำหน่ายได้ภายในระยะเวลาเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น
ที่ทำได้อย่างนี้เพราะ Zara ส่งพนักงานออกไปเก็บรายละเอียดเสื้อผ้าตามแฟชั่นวีคใหญ่ๆทั่วโลก เพื่อค้นหาไอเดียว่าเทรนด์ไหนจะมาแรง จากนั้นส่งต่อให้ดีไซน์เนอร์กว่าร้อยคนช่วยกันออกแบบที่สำนักงานใหญ่ของ Inditex แล้วให้ช่างทำแพทเทิร์นรับหน้าที่ตัดแพทเทิร์นตัวอย่าง ก่อนนำไปประชุมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดจำหน่ายและผู้เชี่ยวชาญประจำภูมิภาค ที่เข้ามารับหน้าที่ตรวจสอบรสนิยมและพฤติกรรมของผู้บริโภค ก่อนจะส่งผลงานการออกแบบนั้นไปยังผู้ผลิตในยุโรปและอเมริกาเหนือต่อไป
วิธีการผลิตเช่นนี้เอง ทำให้บริษัท Inditex สามารถฝ่ามรสุมช่วงเศรษฐกิจฝั่งยุโรปซบเซาเมื่อ 3 ปีก่อนมาได้ และยังเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของโลกที่สามารถขยายสาขาได้มากถึง 4,300 สาขา ในโซนประเทศยุโรป 400 สาขา ในทวีปอเมริกาและเกือบ ๆ 900 สาขาในฝั่งเอเชีย โดยปีที่แล้ว (2015) เขามีทรัพย์สินรวมแล้วมูลค่ากว่า 39,500 ล้านดอลลาร์
แม้จะคลุกคลีอยู่ในวงการแฟชั่นและร่ำรวยขนาดนี้ แต่ ออร์เตก้า กลับใช้ชีวิตสมถะเรียบง่าย เขาได้รับฉายาว่า Mr. absolute normality หรือชายผู้ปกติธรรมดาอย่างที่สุด เช้ามาเขาจะกินเพียงไข่กับมันฝรั่งทอด ส่วนตอนกลางวันเขาก็นั่งกินข้าวในโรงอาหารพร้อมกับคนงานโดยไม่ถือตัว ตั้งแต่สร้างโรงงานมา 40 ปี เขาไม่เคยมีออฟฟิศเป็นของตัวเอง แต่นั่งรวมอยู่กับคนงาน หากคนงานคนไหนอยากสอบถามความคิดเห็นเขา ก็สามารถเดินมาถามได้เลย ไม่ต้องนัดหมายกันล่วงหน้า แม้เขาเป็นเจ้าของแบรนด์ผู้นำแฟชั่น แต่เขากลับใส่เชิ้ตสีซ้ำๆ กันทุกวัน บางครั้งก็ใส่เพียงเสื้อยืด กางเกงยีนส์
ครั้งหนึ่งเขาเคยบอกคนเขียนชีวประวัติเขาว่า “ในที่สาธารณะ ผมต้องการให้ตัวเองเป็นที่รู้จักเฉพาะครอบครัว เพื่อฝูงและคนที่ทำงานด้วยกันเท่านั้นเอง”
จัดเป็นแนวคิดการใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่ฟุ้งเฟ้อ…น่าเอาเป็นแบบอย่างจริงๆ
เครดิตภาพ: www.richestcelebs.com
บทความน่าสนใจ
7 วลีเด็ดสู่ความสำเร็จของ มหาเศรษฐีฟอร์บส
จากศูนย์เป็นมหาเศรษฐี ลี กา ชิง ซูเปอร์แมนแห่งเมืองฮ่องกง
แนวคิดสู่ความสำเร็จของ อิงวาร์ คัมพราด มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งอาณาจักร IKEA