ลองใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ๆ ดูบ้าง เพื่อให้ชีวิตมีสีสันเพิ่มขึ้น

ปัญหาหนึ่งที่ผู้หญิงเราพบเจอ แล้วไม่กล้าเปลี่ยนการแต่งตัวอีกอย่างคือการไม่รู้จักทำความรู้จักในรูปร่างของตัวเอง หรือไม่ชัดเจนกับสิ่งที่อยากนำเสนอให้คนอื่นเห็นนั่นเอง แบบนี้ต้องเริ่มจากการใส่ใจตัวเอง รู้ว่าตัวเองมีรูปร่างแบบไหน เสื้อผ้าทรงไหนควรใส่ เสื้อผ้าอะไรใส่แล้วไม่สวย มั่นใจ แต่ถ้าจะให้สนุกก็อย่าไปฟิกซ์มากนัก ใส่อะไรก็ได้ ขอแค่ไม่โป๊เกิน หรือดูผิดงานเท่านั้นก็พอ หยิบอะไรมาใส่แล้วรู้สึกดี ก็ใส่เถอะค่ะ กรอบเดิมที่เคยตีเอาไว้ว่าต้องใส่แต่เสื้อสีพื้น ลบออกไปซะ แล้วเริ่มแต่งตัวแนวใหม่ดูบ้าง แต่งแล้วชอบไม่ชอบค่อยว่ากันอีกที จะได้รู้ใจตัวเองมากขึ้นด้วยไงล่ะค่ะ

>> ยิ้มทักทายคนแปลกหน้าดูบ้าง <<

เรื่องการ “ยิ้ม” นี่เป็นสิ่งที่คู่กับคนไทยอยู่แล้ว การเริ่มต้นทักทายกันด้วยรอยยิ้มเป็นการเปิดโลกแห่งความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดเลยค่ะ ยิ่งเป็นคนแปลกหน้า (ที่ดูแล้วไว้ใจได้) ด้วยแล้ว เวลาเจอกันครั้งแรก แค่ยิ้มให้กันเรียกว่าเป็นอะไรที่วิเศษมากๆ เลย เพราะในชีวิตของคนเราต้องพบเจอ และพูดคุยกับคนหลากหลาย ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรเพิ่มขึ้นหลายอย่าง และคนแปลกหน้านี่แหละค่ะที่จะทำให้ชีวิตเรามีอะไรใหม่ๆ บางเรื่องอาจเป็นสิ่งดีๆ ที่เราอาจคาดไม่ถึงก็ได้ ลองยิ้มให้คนอื่นที่ไม่เคยยิ้มดู แล้วจะรู้ว่ามันดีกว่าการทำหน้าบึ้งตึง หรือเชิ่ดใส่กันแน่ๆ

บางคนอาจไม่เห็นความสำคัญของการยิ้มให้คนอื่น โดยเฉพาะคนที่ไม่รู้จัก นั่นเพราะยึดติดกับอคติหรือความคิดเดิมๆ ที่ว่า ไม่รู้จักก็ไม่จำเป็นต้องทำความรู้จัก แค่ยิ้มมันไม่ได้เหนื่อยหรือยากอะไร ยกมุมปากขึ้น ยิ้มออกไปจากใจ คนที่พบเห็นเค้าสัมผัสได้ค่ะ ไม่แน่นะคะคนแปลกหน้าที่เรายิ้มให้ในวันนี้อาจกลายเป็นคนสนิทที่คุ้นเคย และให้การช่วยเหลือกันในอนาคตก็เป็นได้ อย่าลืมว่าการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มันดีที่สุดอยู่แล้วค่ะ สร้างมิตร ง่าย กว่าการสร้างศรัตรูนะคะ เชื่อเราสิ!

>> เล่นอะไรที่ไร้สาระแบบเด็กๆ บ้าง <<

เราเคยสังเกตกันมั้ยคะว่าชีวิตที่มีความสุขที่สุดคือชีวิตในช่วงวัยเด็ก เด็กๆ มักจะมีโลกที่สวยงาม เด็กมักจะคิดอะไรที่เป็นบวกเสมอ เด็กไม่ค่อยมีความกังวล เด็กไม่คิดเพ้อเจ้อ และเด็กมีแต่ความบริสุทธิ์ อะไรง่ายๆ ก็ทำให้เด็กมีความสุขได้เสมอ ดูอย่างเวลาที่ฝนตก จะเป็นเวลาที่ผู้ใหญ่บางคนมีความเครียด กลัวเปียก กลัวเดินทางลำบาก กลัวน้ำท่วม กังวลไปหมดทุกสิ่ง ในขณะที่เด็กจะสนุกสนานกับการเล่นน้ำฝน ไม่ว่าจะเป็นเด็กชาติไหนภาษาใดล้วนมีความสุขกับสิ่งง่ายๆ แบบนี้ได้หมด เวลาผ่านไปจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เราลืมเรื่องสนุกเหล่านี้ เราไม่กล้าเดินออกไปตากฝนเล่นน้ำอย่างตอนเป็นเด็กเพราะกลัวคนอื่นมองว่าไม่ปกติ นี่คือการหลงลืมความสุขแบบง่ายๆ ของชีวิตไปนั่นเองค่ะ

กลับมามีความสุขอย่างง่ายๆ กันอีกครั้งกันเถอะค่ะ ลองปลดปล่อยมาดผู้ใหญ่ทิ้งไปบ้างเป็นครั้งคราว หาเวลากลับคืนมาเป็นเด็กบ้างพอให้ชีวิตชุ่มฉ่ำใจ เรียกบรรยากาศเก่าๆ ให้หวนกลับมา ไม่ต้องถึงกับไปแก้ผ้าเล่นน้ำฝนก็ได้ แค่มีโอกาสเล่นกับเด็กบ้างก็มีความสุขแล้ว ซึมซับความน่ารัก ความไร้เดียงสาจากเด็กจะทำให้เรามีความสุขได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะค่ะ

เอาล่ะค่ะ พร้อมแล้วก็มาลองหัดออกนอกกรอบในชีวิตกันดูบ้าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องงมั่นใจก่อนว่าการออกนอกกรอบนั้นต้องไม่เดือดร้อนใครนะคะ แล้วเราจะมีความสุขกับการแหกกฏและออกนอกกรอบของชีวิตครั้งนี้แน่นอนค่ะ อย่ากดดันตัวเองด้วยการอยู่ในกรอบที่คิดว่าสมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง อันนั้นบางทีก็เกินจริงของชีวิตไป รู้จักปล่อยวาง ยอมรับทุกสิ่งที่เกิด ทำอะไรที่ไม่เคยทำดูบ้าง ชีวิตอาจจะมีความสุขขึ้นก็ได้ ลองดูนะค๊า

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ