เคยมีคนมาตั้งข้อสังเกตว่าผมเคยโกรธบ้างไหม โดยเฉลี่ย 1 ปีผมจะโกรธจริง ๆ และแสดงออกไม่เกิน 5 ครั้ง แต่มีอยู่เหตุการณ์หนึ่งที่ผมจำได้ไม่ลืม ซึ่งทำให้ผมโกรธจนเกือบ “หลุด” ไปซะแล้ว
สิบปีที่แล้วผมเห็นรถของตัวเองโดนกรีดยางจนแบนแต๋ทั้งสองล้อเพราะไปจอดรถทับที่ของคนอื่น ด้วยความที่เราเป็นคนรักรถจึงโกรธมาก…หากเป็นตัวผมเมื่อก่อนที่ยังไม่เคยปฏิบัติธรรมเจริญสติมาก่อนคงโวยวายและคิดหาวิธีการเอาคืน
ผมพยายามปลอบใจตัวเองและห้ามความโกรธนั้น แต่ความโกรธไม่ยอมจากไปง่าย ๆ ระดับความโกรธยังคงพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ …แต่เพียงไม่เกิน 2 นาที สติก็เข้าไปจัดการโทสะด้วยการเห็นอารมณ์โกรธนั้นวิ่งขึ้นมากลางหน้าอก ไม่นานความโกรธที่มีก็หายวับไป…กลายเป็นความเย็นอกเย็นใจขึ้นมาแทนที่
น่าแปลก…ที่อยู่ดี ๆ ผมเกิดปัญญาขึ้นมาว่า ควรจัดการกับเหตุการณ์นี้อย่างไร ผมฝากให้เลขาฯหาชื่อเจ้าของที่จอดรถตรงนั้นโดยบอกด้วยว่า “หาเจอเมื่อไร รบกวนช่วยหาดอกไม้ให้ผมด้วย ผมจะไปขอโทษเขา”
ผมมาทราบทีหลังว่าคนที่กรีดรถผมเป็นคนเยอรมัน เจ้าของบริษัทท่องเที่ยวยักษ์ใหญ่ และทำงานอยู่ในตึกเดียวกับผม ด้วยความที่เยอรมันเป็นชาติที่มีระเบียบวินัยสูง เขาจึงใช้วิธีการกรีดยางเพื่อเป็นการสั่งสอนคนไทยให้รู้จักมีวินัย ไม่จอดรถทับที่เขาอีก
พอคนในบริษัทรู้ว่าผมโดนแบบนี้ ทุกคนโกรธแทนผมทันทีพร้อมกับช่วยกันหาวิธีการเอาคืนให้ ยามของบริษัทถึงกับบอกว่า จะเอาไม้ไปทุบรถคันนั้นให้บุบ ผมรีบห้ามไว้ก่อนจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โต
ผมเอาดอกไม้ไปให้เขาเพื่อขอโทษด้วยตัวเอง แต่เขาไม่ออกมาพบกลับส่งผู้จัดการฝ่ายมาหาผมแทน ผมจึงฝากข้อความให้ไปบอกเจ้านายเขาว่า “เราอยู่ตึกเดียวกันน่าจะคุยกันได้” และอธิบายให้ฟังว่า สาเหตุที่ทำให้ผมต้องไปจอดรถในที่ของเขาก็เพราะผมต้องรีบไปงานศพ เมื่อคุยกันเรียบร้อย ผมก็ขอตัวกลับมาเคลียร์งาน
ช่วงเที่ยงวันนั้นทั้งออฟฟิศกรี๊ดกร๊าดกันเกรียวกราว เพราะฝรั่งชาวเยอรมันคนนั้นส่งตะกร้าผลไม้ขนาดใหญ่มาให้พร้อมแชมเปญรวมแล้วราคาคงประมาณ 10,000 บาท พร้อมแนบจดหมายแสดงความสำนึกผิดมาด้วย
เขาบอกว่าผมทำให้เขามองเห็นว่าทุกคนต่างก็มีเหตุผลในการกระทำของตัวเองทั้งนั้น และเขาสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้กับใครอีก…ในย่อหน้าสุดท้ายของจดหมายเขาเชิญผมไปเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทเขาในฐานะที่เราเป็นบริษัทประชาสัมพันธ์ชั้นนำของไทย เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าหากเรามีสติ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดตามมาจะดีเอง
Secret Box
เคล็ดลับการเจริญสติอย่างง่าย ๆ คือ ทำสิ่งที่เราไม่เคยทำ โดยต้องกล้าเดินออกมาจาก Comfort Zone หรือการทำตามความเคยชิน เช่น ลองสลับไปใช้มืออีกข้างหนึ่งเวลาแปรงฟัน หรือไม่ใช้นิ้วมือที่ใช้เป็นประจำ เวลากดลิฟต์หรือรับโทรศัพท์…การไม่ทำอะไรซ้ำซากจะทำให้เราเจริญสติได้ง่ายขึ้น เมื่อทำแล้วจะมีอะไรใหม่ ๆ เกิดขึ้นกับชีวิต และจะสนุกไปกับการปฏิบัติธรรม “ที่นี่เดี๋ยวนี้” โดยไม่จำเป็นต้องเข้าวัดเลย
ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ผู้ก่อตั้ง บริษัทที่ปรึกษาด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ DC Consultants and Marketing Communications Ltd. และสำนักพิมพ์ DMG เจ้าของหนังสือ “White Ocean Strategy” กลยุทธ์น่านน้ำสีขาว
ประสบการณ์การปฏิบัติธรรม 23 ปี
ที่มา นิตยสาร Secret
เรื่อง ดนัย จันทร์เจ้าฉาย / เรียบเรียง ณัฐนภ ตระกลธนภาส
ภาพ นิตยสาร Secret
บทความน่าสนใจ