สำหรับผมที่เป็น นักเขียน การคิดงานออกและเขียนได้อย่างลื่นไหลสามารถทำให้ผมดีใจได้ไม่ต่างจากการถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง
ความดีใจที่พูดถึงนี้มักเกิดขึ้นสองแบบ แบบแรก ทำให้ตัวเองเกิดความรู้สึกสนุก กระตือรือร้น เหมือนมีพลังงานคอยผลักดันให้ร่างกายอยากเคลื่อนไหวไปทำงานให้บรรลุเป้าหมาย แบบที่สอง เกิดขึ้นในยามที่มีความคิดต่อเนื่อง ไหลลื่น ไม่ติดขัด อย่างเช่น เมื่อคืนทำงานค้างไว้ถึงตรงไหน วันนี้จะนึกออกและสามารถเขียนต่อได้สบาย ๆ ยิ่งถ้ามีไอเดียที่หลากหลายผุดขึ้นมาทะลวงส่วนเนื้อหาที่ยังติดขัด ยิ่งทำให้เกิดอาการกระหยิ่มใจ
หากเป็นสมัยก่อนที่ยังไม่เคยได้ปฏิบัติธรรม ผมก็คงจะยึดติดกับความดีใจนั้นและบังคับตัวเองให้ทำงานต่อไปไม่มีหยุดตามประสาคนบ้างาน
แต่การได้เจริญสติ ดูใจตัวเองเป็นประจำทำให้พบว่า ครั้งใดที่ขีดความดีใจเกินลิมิตปกติไป จิตของผมจะมีสัญญาณเตือนให้กลับไปดูรูปอารมณ์ของเจ้าความดีใจที่พุ่งขึ้นสูงแล้วค่อย ๆ แผ่วลง…ดังนั้นพอเราไม่ปล่อยใจไปกับ “ความดีใจ” ที่เกิดขึ้น อาการนั้นก็จะเป็นเหมือนกับลมหายใจ คือแค่เข้ามาและออกไป
มีบางครั้งเหมือนกันที่ความดีใจนั้นทำให้ตัวจิตลิงโลดขึ้นมาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว…พอไม่รู้ตัว จิตก็จะเกิดการ “ยึด”…ยึดว่าครั้งหน้าจะมีความสุขจากการคิดงานเช่นนี้อีก…หรือครั้งหน้าไอเดียจะแล่นปรู๊ดปร๊าดเหมือนครั้งนี้
ดังนั้นวิธีให้การต้อนรับตัวจิตนี้คือ ให้รู้สึกว่าความดีใจหรือความสุขนี้ “ไม่เที่ยง” โดยการยอมรับว่า การมีอยู่ของความสุข มองเห็นความสุขนั้น และตระหนักรู้ว่า ความสุขนั้นจะคงอยู่…เป็นแค่ไฟไหม้ฟางที่สุดท้ายไฟจะค่อย ๆ มอดดับไป
หากเรามีสติในช่วงเวลาทำงาน เราจะพบว่าไม่มีใครทำงานตลอดเวลา จะต้องมีช่วงพัก และช่วงพักนี่แหละคือนาทีทองในการดูลมหายใจและอารมณ์ที่ตกค้างจากสิ่งอื่นหรือคนอื่น เช่น พูดกับคนที่เรามีปฏิกิริยาทางใจอย่างไร ทำงานนี้เราเห็นจิตเป็นอย่างไร ซึ่งถือเป็นการพักกายและสมองไปในตัว
Secret Box
อาการของใจที่เป็นอุปสรรคต่อเส้นทางเจริญสติคือการไม่ยอมรับความจริง ไม่ว่าจะมาจากความคิด การพูด หรือการกระทำในระหว่างวันก็ตาม เช่น ทำผิดแล้วไม่ยอมรับ หาแพะ ยัดเยียดความผิดให้คนอื่น ตราบใดที่จิตยังไม่พร้อมจะรับความจริง ตราบนั้นเราจะเริ่มต้นบนเส้นทางการเจริญสติไม่ได้อย่างจริงจัง จะอยู่ได้เพียงรอบนอกเท่านั้น แต่เมื่อใดที่เราเริ่มปฏิวัติชีวิตประจำวันตนเองที่มีแต่เครื่องแก้ตัวและโยนโทษให้คนอื่น แล้วหันมามองความผิดของตัวเอง จิตจะเริ่มย้อนกลับเข้ามาและเห็นอะไรตามจริงที่เกิดขึ้นได้ง่าย ทำให้เจริญสติได้ง่ายขึ้น
ศรันย์ ไมตรีเวช (ดังตฤณ) เจ้าของบทความธรรมะในหน้านิตยสาร นิยายธรรมะ และหนังสือธรรมะหลายเล่ม อย่าง เสียดาย…คนตายไม่ได้อ่าน, เก็บเสบียงไว้เลี้ยงตัว, กรรมพยากรณ์, 7 เดือนบรรลุธรรม, รักแท้มีจริง ฯลฯ
ประสบการณ์การปฏิบัติธรรม 35 ปี
ที่มา นิตยสาร Secret
เรื่อง ดังตฤณ
เรียบเรียง ณัฐนภ ตระกลธนภาส
ภาพ นิตยสาร Secret
บทความน่าสนใจ