ทุกวันนี้คุณ สวดมนต์ บ้างไหมคะ
การสวดมนต์เป็นกิจวัตรที่ชาวพุทธทุกคนควรปฏิบัติ เพื่อเป็นการฝึกหัดร่างกายและขัดเกลาจิตใจให้แนบแน่นอยู่กับพระรัตนตรัย ทำให้จิตใจสงบเยือกเย็น เข้มแข็ง เกิดสติปัญญา และเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
หลวงพ่อจรัญ แห่งวัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี บันทึกไว้ว่า ขณะจำวัดในคืนหนึ่ง ท่านนิมิตเห็นสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว แห่งกรุงศรีอยุธยา มาสั่งความให้เดินทางไปที่วัดใหญ่ชัยมงคล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อจดคาถาบทหนึ่งในพระเจดีย์
เมื่อตื่นขึ้น หลวงพ่อจรัญแน่ใจว่าเรื่องราวที่เห็นในนิมิตนั้นเป็นความจริง เพราะท่านนอนกรรมฐานทุกคืนจึงไม่เคยฝันฟุ้งซ่าน อีกทั้งยังทราบด้วยว่า ขณะนั้นวัดใหญ่ชัยมงคลกำลังบูรณะพระเจดีย์อยู่ และจะทำการปิดยอดบัวเจดีย์ในวันนั้นพอดี ท่านจึงโทรศัพท์ไปขอร้องดอกเตอร์กิ่งแก้ว อัตถากร ซึ่งเป็นผู้ดูแลการบูรณะในครั้งนั้น ให้เลื่อนวันปิดยอดบัวไปอีกหนึ่งวัน
เมื่อไปถึงวัดใหญ่ชัยมงคล หลวงพ่อจรัญพบว่าที่พระเจดีย์มีโพรงทางเข้าสำหรับลงไปด้านล่าง เมื่อเดินลงไปก็พบลานทองคำ 13 ลานที่ฐานเจดีย์ ซึ่งพระพนรัตน์ได้จารึกชัยมงคลคาถาเอาไว้
คำจารึกในใบลานที่ พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม) วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี ค้นพบในพระเจดีย์วัดใหญ่ชัยมงคล ระบุไว้ว่า บทสวดชัยมงคลคาถานี้เป็นพระคาถาที่แต่งขึ้นเพื่อถวายพระเกียรติแด่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระคาถาบทนี้สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงใช้สวดเป็นประจำทั้งเวลาอยู่ในพระบรมมหาราชวังและในสนามรบ ทำให้ทรงชนะศึกสงครามมาโดยตลอด แม้จะออกรบคู่กับสมเด็จพระอนุชาเพียงสองพระองค์ ก็ยังสามารถต้านทหารพม่าทั้งกองทัพไว้ได้ ดังนั้นผู้ที่หมั่นสวดบทชัยมงคลคาถาเป็นประจำทุก ๆ วันจะมีพลังใจที่เข้มแข็ง มีสติปัญญาเฉียบคม สามารถต่อต้านมาร คือความชั่ว ไม่ให้เข้ามากล้ำกราย อีกทั้งไม่มีศัตรูหมู่ใดทำอันตรายได้ ชีวิตจึงมีแต่ความสงบราบรื่น และเป็นสุข
หลวงพ่อจรัญเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ชัยมงคลคาถาเป็นบทสวดมนต์เก่าแก่ แต่ผู้คนไม่ใคร่นิยมสวดกันมากนัก ดังนั้นหลวงพ่อจึงนำมาให้ลูกศิษย์ลูกหาที่วัดอัมพวันสวด และขอให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้คนทั่วไปรู้จักพระคาถาบทนี้มากขึ้น กระทั่งแพร่หลายอย่างในปัจจุบัน
บทสวดชัยมงคลคาถา เป็นบทสวดสรรเสริญคุณอันยิ่งใหญ่ของพระพุทธเจ้าที่ทรงพิชิตและมีชัยเหนือพญามารตลอดถึงสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ โดยใช้พระธรรมเป็นอาวุธ
ชัยมงคลคาถา (คาถาพาหุง)
พาหุงสหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง
ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ
พญามารเนรมิตแขนตั้งพัน ถืออาวุธครบมือ ขี่ช้างพลายครีเมขละพร้อมด้วยเสนามารโห่ร้องกึกก้อง พระจอมมุนีเอาชนะด้วยทานบารมี ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า
มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง
ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ
อาฬวกยักษ์ดุร้าย ผู้มีจิตกระด้างลำพอง หยาบช้ายิ่งกว่าพญามาร เข้ามารุกรานราวี ตลอดรุ่งราตรี พระจอมมุนีทรงชนะด้วยขันติบารมี ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า
นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง
เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ
พญาช้างนาฬาคิรีซึ่งกำลังเมามัน ร้ายแรงเหมือนไฟป่า ร้องโกญจนาทเหมือนฟ้าฟาด พระจอมมุนีทรงชนะด้วยวิธีรดลงด้วยพระเมตตา ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า
อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง
อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ
องคุลิมาลโจร ทารุณร้ายกาจนัก ทั้งฝีมือเยี่ยม ควงดาบไล่ตามพระจอมมุนีไปตลอดทางสามโยชน์ ทรงเอาชนะด้วยอิทธิปาฏิหาริย์นั้น ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า
กัตตวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ
สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ
นางจิญจมาณวิกาที่ทำมารยาเสแสร้งกล่าวโทษพระจอมมุนี โดยผูกท่อนไม้กลมแนบกับท้องดั่งหญิงท้องแก่ ทรงเอาชนะด้วยสมาธิวิธี ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า
สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง
ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ
พระจอมมุนีได้พบทางชนะสัจจกนิครนถ์ ผู้มีนิสัยตลบตะแลง มีสันดานโอ้อวด ด้วยพระปัญญาดุจประทีปอันโชติช่วงนั้น ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า
นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต
อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ
นันโทปนันทนาคราช ผู้มีฤทธิ์มากแต่มีความรู้ผิด พระจอมมุนีโปรดให้พระโมคคัลลานเถระเนรมิตกายไปปราบด้วยเดชแห่งดำรินี้ ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า
ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พรหมมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง
ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ
ท้าวพกพรหมผู้มีฤทธิ์ รุ่งเรืองด้วยวิสุทธิคุณ แต่ถือมั่นด้วยมิจฉาทิฏฐิ เหมือนดังถูกงูร้ายรัดไว้ พระจอมมุนีทรงเอาชนะด้วยวิธีเทศนา ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า
เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถา โย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที
หิตะวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ.
นรชนใด ไม่เกียจคร้าน สวดก็ดี ระลึกก็ดี ซึ่งพระพุทธชัยมงคลแปดคาถา แม้เหล่านี้ทุก ๆ วัน นรชนนั้นจะพึงละเสียได้ซึ่งอุปัทวันตรายทั้งหลายมีประการต่างๆ เป็นอเนก ถึงซึ่งวิโมกขสิวาลัย อันเป็นบรมสุขแล
*เม คือสวดให้ตัวเอง เต คือสวดให้ผู้อื่น
วิธีสวด โดยปกติจะตั้งนะโม 3 จบ แล้วรวบรวมสมาธิสวดช้า ๆ โดยอาจเริ่มด้วยบทไตรสรณคมน์ (พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ…) ต่อด้วยบทอิติปิโสฯและบทพาหุง และถ้าต้องการให้ได้ผลตามธรรมเนียมปฏิบัติครบถ้วนให้สวดคาถามหาการุณิโกต่อท้าย
ที่มา ชัยมงคลคาถา แปลว่า คาถาที่ว่าด้วยชัยชนะแปดประการ อันเป็นมงคลของพระพุทธเจ้า แต่ที่เรียกกันติดปากว่าคาถาพาหุงนั้น เนื่องจากคาถาขึ้นต้นด้วยคำว่า พาหุง นั่นเอง
นอกจากการ สวดมนต์ เพื่อเพิ่มกำลังใจแล้ว การรู้จักใช้ปัญญาแก้ปัญหาควบคู่กันไปด้วย จะทำให้สามารถฟันฝ่าอุปสรรคในชีวิตได้ดียิ่งขึ้น
ที่มา นิตยสาร Secret
เรื่อง เสาวลักษณ์ ศรีสุวรรณ, นภ
บทความน่าสนใจ
พระคาถา ชินบัญชร บทสวด พร้อมคำแปล อัญเชิญพระพุทธคุณเป็นปราการกันภัย
โพชฌังคปริตร (แปล) บทสวดมนต์แห่งการตรัสรู้
บทสวดปฏิจจสมุปบาท คาถาขับไล่อวิชชา
บทสวดบารมี 30 ทัศ (แปล) สรรเสริญบารมีของพระพุทธเจ้า พร้อมที่มาบทสวด
บทขอขมากรรม บทสวดขออโหสิกรรมก่อนนอนทุกคืน พร้อมคำถามเกี่ยวกับการอโหสิกรรม
บทสวดมนต์ก่อนนอน แบบสั้น เพื่อสร้างสมาธิและจิตใจผ่องใส
คาถาเดินทางไกล บทสวดมนต์ก่อนเดินทาง แคล้วคลาดปลอดภัย
ความจริงเกี่ยวกับ บทสวดโพชฌังคปริตร คาถาที่ไม่เหมาะกับการสวด !