อีกหนึ่งมาตรการกระตุ้ นการท่องเที่ยวตามแนวคิด “อะเมซิ่ง ไทยเท่ – เมืองไทย สวยทุกที่ เท่ทุกสไตล์” จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ ทและวิลลา หัวหิน ตอบรับความสำเร็จล่าสุดจากการจั ดงาน “เทศกาลอาหารหัวหิน 2563” เมื่อเร็วๆนี้ คืนความสุขนักท่องเที่ ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ตอกย้ำภาพลักษณ์เมืองหัวหินเป็ นเมืองแห่งการท่องเที่ ยวและตอบโจทย์การท่องเที่ ยวของทุกไลฟ์สไตล์และรสนิยม
เมื่อเร็วๆนี้ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ ทและวิลลา หัวหิน นำโดย มร. ยัน ไวไชท์ (ซ้ายสุด) รองผู้จัดการทั่วไปประจำโรงแรมฯ ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำโดย โศรยา หอมชื่น (ตรงกลาง) ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่ งประเทศไทยสำนักงานประจวบคีรีขั นธ์ เข้าเยี่ยมชมการจัดกิจกรรมส่ งเสริมการท่องเที่ยวครั้งล่าสุด “เทศกาลอาหารหัวหิน 2563” ที่จัดขึ้นเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่ านมา โดยมีจุดประสงค์เพื่อยกระดับ “หัวหิน เมืองท่องเที่ยว” พร้อมสร้างสีสันแห่ งวงการอาหารด้วยความอร่ อยจากอาหารขึ้นชื่อเมืองหัวหิ นกว่า 100 รายการ ที่พร้อมบริการทุกท่านเบื้องหน้ าความงดงามของท้องทะเลเมืองหั วหิน โดยกิจกรรมดังกล่าวได้รับ
ความร่วมมือจากเทศบาลเมืองหัวหิ นรวมทั้งหลากหลายผู้ประกอบการธุ รกิจโรงแรม ร้านอาหาร และร้านค้าอย่างเต็มที่ เพื่อตอบโจทย์การตลาดท่องเที่ ยวในปัจจุบันตามกลยุทธ์ส่งเสริ มการท่องเที่ยวในประเทศผ่ านแนวคิด “อะเมซิ่ง ไทยเท่ – เมืองไทย สวยทุกที่ เท่ทุกสไตล์” จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ภายในงาน มีการนำเสนอความอร่ อยจากรายการอาหารขึ้นชื่ อประจำเมืองหัวหินนานาชนิด จากหลากหลายโรงแรมและร้ านอาหารยอดนิยม พร้อมความบันเทิงหลากหลายรู ปแบบภายในงานและดนตรี บรรเลงสดเคล้าบรรยากาศริ มหาดยามเย็นสบายๆ ของชายหาดหัวหิน บริเวณโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ หัวหินเพื่อคืนบรรยากาศความสนุ กสนานของเมือง ซึ่งทุกท่านสามารถเข้าร่ วมงานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ ายใดๆทั้งสิ้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแรงดึงดูดให้ “เทศกาลอาหารหัวหิน 2563” ครั้งล่าสุดนี้ได้รับผลตอบรั บจากนักท่องเที่ ยวชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่ างดี และคาดว่ามีจำนวนนักท่องเที่ ยวที่มาร่วมงานทั้งสิ้นกว่า 5,000 คน โดยถึงแม้ว่างานดังกล่าวจะเป็ นการจัดกิจกรรมแบบกลางแจ้ง ผู้เข้าร่วมงานทั้งหมดยังคงต้ องปฏิบัติตามมาตรการการเว้ นระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing (โซเชียล ดิสแทนซิ่ง) อย่างเคร่งครัด โดยทางผู้จัดงานมีความเข้ มงวดในการเว้นระยะห่างทางสั งคมแบบหมู่คณะ รวมทั้งผู้เข้าร่วมงานทุ กคนจะได้รับการตรวจวัดอุณหภูมิ ร่างกายก่อนเข้าพื้นที่ ต้องสแกนคิวอาร์โค้ดผ่านแอพพลิ เคชั่น “ไทยชนะ” ซึ่งได้แบ่งหมวดพื้นที่อย่ างละเอียดครบถ้วนเพื่อให้ทุกท่ านสามารถสแกนเข้า-ออกได้อย่างถู กต้องแม่นยำ มีการจัดเจลแอลกอฮอล์ล้างมือไว้ ให้บริการและที่สำคัญที่สุดคื อการเน้นย้ำการสวมหน้ากากอนามั ยของผู้เข้าร่วมงาน ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทุกท่ านเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ โศรยา หอมชื่น ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่ง ประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ ได้กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกั บภาพรวมของการท่องเที่ยวในพื้ นที่ว่า “จากการคลายมาตรการ “ล็อกดาวน์” หรือ ผ่อนปรนสถานการณ์ ในหลายระยะที่ผ่านมา ภาคธุรกิจการท่องเที่ยวในเมื องหัวหิน ทั้งผู้ประกอบการโรงแรมและร้ านอาหารต่างได้รับผลตอบรับจากนั กท่องเที่ยวเป็นอย่างดี เนื่องจากหัวหินเป็นจุ ดหมายการพักผ่อนที่มีชื่อเสี ยงในด้านการพักผ่ อนตากอากาศแถบชายทะเล ที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ซึ่งนอกจากความสวยงามของแหล่งท่ องเที่ยวทางธรรมชาติ ทั้งชายทะเล ภูเขา ถ้ำและน้ำตกแล้ว หัวหินยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่ มีความหลากหลาย ทั้งในรูปแบบวิถีชีวิตชุมชน และแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้ างขึ้น ซึ่งล้วนแต่ดึงดูดให้นักท่องเที่ ยวคนไทยและต่างชาติเดินทางไปท่ องเที่ยว โดยเฉพาะในเดือนกรกฏาคมที่ผ่ านมาที่มีวันหยุดต่อเนื่ องหลายวัน ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาพักผ่ อนที่เมืองหัวหินเป็นจำนวนมาก และยังทยอยเดินทางมาท่องเที่ ยวพักผ่อนอย่างต่อเนื่องเรื่ อยมาจนถึงในเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งถือว่าเป็นกระแสตอบรับที่ดี เยี่ยมต่อภาพรวมอุตสาหกรรมการท่ องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ”
นอกจากความร่วมมือการจัดงาน “เทศกาลอาหารหัวหิน 2563” ล่าสุดแล้ว โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ ทและวิลลา หัวหิน ยังได้ประกาศความร่วมมื อระยะยาวต่อ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในการส่งเสริมภาพลักษณ์การท่ องเที่ยวตามแนวคิด “อะเมซิ่ง ไทยเท่ – เมืองไทย สวยทุกที่ เท่ทุกสไตล์” ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริ มการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่ องในไตรมาสที่ 3 และ 4 นี้ โดยในเดือนสิงหาคมนี้จะมีการจั ดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงวั ฒนธรรมในพื้นที่ชะอำและหัวหินซึ่ งเป็นการบูรณาการอุ ตสาหกรรมการท่องเที่ยวข้ามพื้ นที่ที่เน้นความหลากหลายของตั วเลือกการพักผ่อนที่ครอบคลุมทุ กกลุ่มเป้าหมาย ทั้งในด้านอายุ เพศและความสนใจ พร้อมด้วยมาตรการควบคุมและดู แลด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อสร้างประสบการณ์การท่องเที่ ยวท้องถิ่นให้ทันสมัยและเผยแพร่ ต่อประชาชนอย่างกว้างขวาง ต่อเนื่องในเดือนกันยายนด้วยอี กหนึ่งกิจกรรมท่องเที่ยว “เที่ยวสุขใจไปแบบนิวนอร์มอล” ที่เน้นการพัฒนารู ปแบบการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ ยวเชิงรุกต่อตลาดนักท่องเที่ ยวไทยกลุ่มเจนวาย (Gen Y) ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีกำลังซื้ อมากที่สุดในสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ ยวในประเทศมิติใหม่ที่ปลอดภั ยและเพื่อเสริมสร้างรายได้ให้ แก่ธุรกิจที่อยู่ในห่วงโซ่อุ ปทานทั้งหมด ซึ่งจะสามารถช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิ จของประเทศในองค์รวมด้วย โดยทางโรงแรมฯตั้งเป้าจำนวนห้ องพักจากความร่วมมือดังกล่าวไม่ ต่ำกว่า 10,000 การเข้าพัก รวมถึงจำนวนผู้รับรู้ข่ าวสารจากทุกช่องทางรวมแล้วไม่ต่ำ กว่า 10,000,000 คน