ซึมเศร้า เป็นแค่โรค ไม่ใช่ความอ่อนแอ
กรุงเทพประกันภัยร่วมกับกรมสุขภาพจิต รณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจให้คนไทยห่างไกลภาวะ ซึมเศร้า หวังสังคมช่วยกันดูแลและป้องกันอย่างยั่งยืน
กรุงเทพประกันภัยและกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข เห็นความสำคัญของปัญหาด้านสุขภาพจิต โดยเฉพาะสถานการณ์ของผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าที่มีแนวโน้มสูงขึ้นและกำลังเป็นปัญหาทางสังคมที่ต้องได้รับการแก้ไขและป้องกันไม่ให้ขยายวงกว้าง จึงร่วมจัดงานแถลงข่าวพร้อมร่วมเสวนาในหัวข้อการส่งเสริมสุขภาพใจ ใส่ใจสุขภาพจิต เพื่อการป้องกันอย่างยั่งยืน เน้นสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับภาวะซึมเศร้าให้แก่ประชาชนทั่วไป รวมถึงการสร้างองค์ความรู้ให้คนรอบข้างและครอบครัวสามารถดูแลผู้ที่อยู่ในภาวะซึมเศร้าได้อย่างเข้าใจด้วยวิธีที่ถูกต้องและเหมาะสม พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาที่สะท้อนถึงภาวะซึมเศร้าซึ่งเกิดจากปฏิกิริยาทางจิตใจแต่เป็นโรคที่รักษาหายได้จากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต ผ่านการถ่ายทอดเรื่องราวโดยนายปองกูล สืบซึ้ง (ป๊อบ-ปองกูล) ศิลปินอารมณ์ดี และยังมีนายนที เอกวิจิตร (อุ๋ย บุดด้าเบลส) ร่วมเผยประสบการณ์ในฐานะนักบำบัด ณ เดอะ กลาสเฮ้าส์ ปาร์คนายเลิศ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2567
นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์ภาวะซึมเศร้าของไทยว่า “แม้โลกจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ให้เข้ามามีส่วนช่วยในทุกระบบ แต่พบว่าคนไทยยังคงเผชิญกับภาวะปัญหาทางสุขภาพจิตเพิ่มขึ้น ประชาชนใช้ชีวิตท่ามกลางความเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า เจ็บป่วยด้วย
ปัญหาสุขภาพจิตและยาเสพติด จะเห็นได้จากจำนวนผู้ป่วยทางจิตเวชในไทย เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า จาก 1.3 ล้านคน ในปี 2558 เป็น 2.3 ล้านคน ในปี 2564 จากข้อมูลล่าสุดบนระบบรายงาน HDC ของกระทรวงสาธารณสุขปี 2566 พบว่าผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติดที่รักษาแบบผู้ป่วยนอก เพิ่มขึ้นกว่า 3 แสนรายหรือคิดเป็นร้อยละ 12.09 รวมถึงประมาณการณ์ว่าคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป ป่วยด้วยโรคซึมเศร้าถึง 1.5 ล้านคน และอาจมีเพียง 1 ใน 3 เท่านั้นที่เข้ารับการบำบัดดูแล ซึ่งหากไม่ได้รับการดูแลอย่างทันท่วงทีอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตที่รุนแรงขึ้น เนื่องจากพบสถิติว่าโรคซึมเศร้าเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักนำไปสู่การ ฆ่าตัวตายของคนไทยและผู้ป่วยซึมเศร้ามีแนวโน้มการฆ่าตัวตายสูงกว่าคนทั่วไป และมีแนวโน้มที่จะเสียชีวิตก่อนวัยอันควรถึงร้อยละ 70 โดยพบว่าอัตราส่วนจิตแพทย์ 1.25 คน ต้องดูแลคนไทยถึง 1 แสนคน จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกภาคส่วนจะขยับเข้ามามีส่วนร่วมในช่วยเหลือให้คนไทยมีสุขภาวะทางจิตที่ดีอย่างถ้วนหน้า โดยไม่จำเป็นว่าต้องเป็นภาคส่วนที่มาจากด้านสาธารณสุขเพียงอย่างเดียว แต่อาจมาจากภาคเอกชนที่มีความสนใจและใส่ใจในการมีสุขภาวะทางจิตที่ดีของสังคมไทย การมีส่วนร่วมจากภาคส่วนต่างๆ จะทำให้เกิด ผลลัพธ์ที่แตกต่างไปจากการดำเนินงานด้านสุขภาพจิตในปัจจุบัน ช่วยให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา ซึ่งสิ่งนี้อาจเป็นคำตอบของการมีสุขภาวะทางจิตที่ดีและความสุขของสังคมไทยอย่างยั่งยืน กรมสุขภาพจิต รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นทางบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้เข้ามีส่วนสนับสนุนและผลักดันให้เกิดการสร้างความตระหนักและรอบรู้ด้านสุขภาพจิต โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับโรคซึมเศร้าซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยผู้ป่วยและครอบครัวที่กำลังต่อสู้กับปัญหาเหล่านี้ยังเป็นการร่วมมือครั้งสำคัญที่สะท้อนภาพว่า เรื่องสุขภาพจิตไม่เป็นเพียงแค่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของคนไทยทุกคน
ด้าน ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อํานวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ด้วยนโยบายด้านการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน (ESG) ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจที่ยึดมั่นหลักธรรมาภิบาล การบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างมีคุณภาพ คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ควบคู่ไปกับการสนับสนุนส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่คนในสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทฯ ได้มุ่งเน้นการให้ความร่วมมือกับองค์กรเครือข่ายต่างๆ โดยให้การสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมเพื่อดูแลช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนพร้อมการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาสังคมอย่างแท้จริง”
“และจากสภาพสังคมที่เปราะบางด้วยปัญหาและปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ส่งผลให้คนในสังคมไทยประสบกับสภาวะทางความเครียดสะสม มีความอ่อนแอทั้งร่างกายและจิตใจจนเกิดเป็นภาวะซึมเศร้า ทั้งที่แบบรู้ตัวและไม่รู้ตัว ส่งผลให้เกิดภาพในจินตนาการต่อตนเองในแง่ลบ และหากไม่ได้รับการแนะนำหรือการดูแลอย่างเหมาะสมหรือถูกวิธี อาจจะนำไปสู่การทำร้ายตนเอง และเลวร้ายที่สุดคือการฆ่าตัวตาย ซึ่งเป็นการสูญเสียทรัพยากรที่มีค่าของสังคมอย่างน่าเสียดาย โดยในปัจจุบันผู้ที่มีภาวะซึมเศร้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรุงเทพประกันภัยจึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนช่วยรณรงค์เพื่อลดปัญหาดังกล่าว กอปรกับการร่วมส่งเสริมด้านสุขภาพจิตที่ดีเพื่อเป็นภูมิคุ้มกันได้อย่างยั่งยืน จึงเป็นที่มาของความร่วมมือกับกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ในการสร้างองค์ความรู้และความเข้าใจให้แก่ประชาชนเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพจิต โดยเฉพาะกับผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า และคนรอบข้างที่ต้องดูแลผู้ที่มีอาการอย่างใกล้ชิด เพราะภาวะซึมเศร้าถือเป็นอาการของโรคอย่างหนึ่งที่สามารถรักษาให้หายได้โดยการรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต บริษัทฯ จึงได้จัดทำสื่อรณรงค์ในรูปแบบภาพยนตร์โฆษณาเพื่อการสื่อสารได้อย่างทั่วถึง ตลอดจนยังมีแผนการจัดกิจกรรมต่างๆ ตลอดทั้งปี เพื่อให้คนไทยเข้าใจถึงปัญหาและรับรู้ถึงแนวทางการดูแลผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า ไม่ใช่เพียงแต่ผู้ที่มีอาการซึมเศร้าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้คนรอบข้าง ทั้งครอบครัวและเพื่อนๆ เพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นได้เข้าใจ สามารถสื่อสารและดูแลผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าได้อย่างเหมาะสม พร้อมทั้งยังมีส่วนช่วยป้องกันปัญหาได้ในระยะยาว”
โดยในงานแถลงข่าว กรุงเทพประกันภัยและกรมสุขภาพจิตได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาสร้างความรู้และความเข้าใจให้แก่ประชาชนเกี่ยวกับภาวะซึมเศร้าที่ถือว่าเป็นอาการของโรคที่สามารถรักษาได้ เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าภาวะซึมเศร้าเป็นความอ่อนแอ ไม่จำเป็นต้องพบแพทย์ แต่จริงๆ แล้วภาวะซึมเศร้าเป็นอาการที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ต่างจากโรคทางกายอื่นๆ ซึ่งสาเหตุเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น ทางกาย ด้านจิตใจ และสภาวะแวดล้อมต่างๆ โดยสิ่งที่ภาพยนตร์โฆษณาต้องการจะสื่อคือการสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชนรับรู้ว่า ภาวะซึมเศร้าเป็นอาการของโรคที่ไม่ได้เกิดจากความอ่อนแอหรือไม่ใช่แค่ความรู้สึก และอยากให้เขาเหล่านั้นได้เข้าไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างถูกวิธี ซึ่งสามารถขอคำปรึกษาได้ที่สายด่วนกรมสุขภาพจิต โทร. 1323 โดยเล่าเรื่องราวนี้ผ่านนายปองกูล สืบซึ้ง (ป๊อบ-ปองกูล) ศิลปินอารมณ์ดี
ทั้งนี้ ภายในงานยังมีแขกรับเชิญมาร่วมเสวนาในหัวข้อ การส่งเสริมสุขภาพใจ ใส่ใจสุขภาพจิต เพื่อการป้องกันอย่างยั่งยืน โดยมี ดร.นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ที่มาให้ความรู้ในเรื่องการดูแลผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า กล่าวว่า “สถานการณ์ของผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าที่มีแนวโน้มสูงขึ้นและกำลังเป็นปัญหาทางสังคมที่ต้องได้รับการแก้ไขและป้องกันอย่างเร่งด่วนนั้น มีทางออกแรกที่ทุกคนสามารถช่วยกันทำได้และไม่ใช่เรื่องยาก เพราะการให้ผู้ที่อยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว ได้มีโอกาสที่จะเล่าระบายความในใจ ที่สำคัญต้องสร้างบรรยากาศของการเป็นพื้นที่ปลอดภัยในการบอกเล่า เพียงเท่านั้นก็สามารถคลี่คลายได้อย่างมาก ส่วนการให้คำแนะนำว่า สู้ๆ สามารถทำได้ แต่ต้องเข้าใจว่าผู้ที่มีภาวะซึมเศร้ากำลังสู้กับอะไร ฟังก่อนว่ากำลังทุกข์ใจเรื่องอะไร มีคนบอกว่า อย่าพูดว่า สู้ๆ แต่ที่จริงแล้วคำว่า สู้ๆ สามารถพูดได้ก็ต่อเมื่อเรารู้ว่าเขากำลังสู้อยู่กับอะไร ถ้าเราฟังเขาจนเข้าใจแล้วรู้ว่า เขากำลังสู้อยู่กับปัญหาอะไร ปัญหาแบบนี้ในมุมมองของเขาเป็นอย่างไร ความเข้าใจและรับรู้ถึงสถานการณ์ก่อนจึงสามารถให้กำลังใจได้อย่างเหมาะสม หรือว่าบางทีการนั่งอยู่เฉยๆ เพื่อรับฟังก็ถือว่าเป็นการให้กำลังใจได้อีกช่องทางหนึ่งหรือที่เรียกว่า
แค่เล่าก็เบาแล้ว เพราะคนเราไม่ได้โชคดีที่จะมีคนรับฟัง แต่ถ้าคุณสามารถเป็นคนคนหนึ่งที่รับฟังใครสักคนได้นั่นถือเป็นการช่วยเหลือที่ดีมากที่สุดแบบหนึ่งทีเดียว”
นอกจากนี้ นายปองกูล สืบซึ้ง (ป๊อบ-ปองกูล) นักร้อง และพรีเซนเตอร์ภาพยนตร์โฆษณาชุดดังกล่าว ร่วมด้วยนายนที เอกวิจิตร (อุ๋ย บุดด้าเบลส) พิธีกร ศิลปิน นักบำบัด ยังได้ร่วมเสวนาเพื่อสร้างความตระหนักรู้ พร้อมทั้งเผยประสบการณ์ที่มีต่อผู้เกิดภาวะซึมเศร้าว่าเราควรปฏิบัติหรือดูแลเอาใจใส่เขาเหล่านี้อย่างไร และจะทำอย่างไรเพื่อให้ตัวเราห่างไกลจากภาวะซึมเศร้าได้
ทั้งนี้ สามารถติดตามชมภาพยนตร์โฆษณาเพื่อเข้าใจผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าได้มากยิ่งขึ้นทางสื่อ Social Media ต่างๆ และสื่อโทรทัศน์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และหากต้องการคำปรึกษาด้านสุขภาพจิตสามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมสุขภาพจิต โทร. 1323