ท่องเที่ยวล้านนา หรรษาหน้าฝน @เชียงใหม่
หลายคนคงกำลังตั้งตารอฤดูหนาวอย่างใจจดใจจ่อ เพราะจะได้ออกเดินทางไปสัมผัสบรรยากาศหนาวเย็นกับสายหมอกที่โอบล้อมอยู่รอบตัว แต่เราขอแอบกระซิบว่าไม่ต้องรอให้ถึงหน้าหนาว ก็เที่ยวเชียงใหม่สนุกได้เหมือนกัน โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ตั๋วโดยสารเครื่องบินราคาถูกแสนถูก แถมคนก็ยังไม่เยอะอีกต่างหาก ว่าแต่จะมีที่ไหนน่าไปเช็กอินบ้าง ตามพวกเราไป หรรษาหน้าฝน กันเลย
ใครเบื่อรถติดๆ ในเมืองเชียงใหม่ก็ลองไปตามอำเภอรอบนอกดู มีสถานที่ให้ลั้ลลากันอีกเพียบ อย่าง 3 ที่นี้ที่เราไม่อยากให้คุณพลาด
อุทยานแห่งชาติออบหลวง อ.ฮอด ช่องแคบเขาขาดและแหล่งโบราณคดี
“ออบ” เป็นภาษาถิ่นของภาคเหนือแปลว่าช่องแคบ ส่วน “หลวง” แปลว่าใหญ่ ในภาษาถิ่นจึงแปลว่าช่องแคบขนาดใหญ่ เนื่องจากภูเขาที่มีหน้าผาสูงชันถูกแม่น้ำแม่แจ่มเจาะทะลุผ่านเขาไป ออบหลวงเป็นช่องแคบเขาขาดที่มีหน้าผาหินขนาบลำน้ำ ทำให้เกิดหุบผาลึกประมาณ 32 เมตร ส่วนที่แคบที่สุด 2 เมตร และมีความยาวของลำน้ำกว่า 300 เมตร
ภายในอุทยานมีเนื้อที่ประมาณ 553 ตารางกิโลเมตร มีสภาพป่าสมบูรณ์ด้วยระบบนิเวศ มีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงาม เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของลำน้ำแม่แจ่มและแม่น้ำปิงตอนล่าง และยังมีการขุดค้นพบแหล่งโบราณคดียุคก่อนประวัติศาสตร์ ทั้งหลุมฝังศพของมนุษย์โบราณ และภาพเขียนสีโบราณอีกด้วย แต่ถ้าใครอยากจะทดสอบกำลังขาของตัวเอง ต้องห้ามพลาดจุดชมวิวบนดอยผาช้างที่ต้องเดินขึ้นเขาไปอีก 450 เมตร ไหนๆ ก็มาถึงทั้งทีอย่างนี้ต้องไปให้สุดกันเลย
บ้านผาหมอน อ.จอมทอง โฮมสเตย์โอบล้อมด้วยขุนเขาของชาวปกาเกอะญอ
ชาวบ้านซึ่งเป็นชาวปกาเกอะญอ (กลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง) ในชุมชน รวมเงินรวมแรงกันสร้างที่พักแห่งนี้ ทำให้รายได้จากที่พักจะกระจายไปสู่ทุกครัวเรือนภายในชุมชน โดยมีรายได้กองกลางส่วนหนึ่งแบ่งให้กับท้องถิ่นเพื่อนำไปพัฒนาโรงเรียน
ที่สำคัญที่พักแห่งนี้ยังถูกโอบล้อมไปด้วยวิวทิวทัศน์หลักล้าน เพียงมองออกไปนอกหน้าต่างบ้านพัก ก็จะเห็นนาขั้นบันได ซึ่งเป็นการทำนารูปแบบหนึ่งบนพื้นที่สูงเพื่ออนุรักษ์ดินบนพื้นที่ลาดเท ประกอบกับวิวทิวทัศน์จากขุนเขาที่โอบล้อม ยิ่งตอนช่วงฝนตกเสร็จใหม่ๆ เราจะได้กลิ่นหอมของดินและสดชื่นไปกับภาพผืนนาสีเขียวขจี เหมาะแก่การไป
พักผ่อนชาร์จพลังชีวิตเป็นที่สุด
ผาช่อ อ.ดอยหล่อ มหัศจรรย์แห่งการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยา
ผาช่อ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติแม่วาง เกิดจากกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยา ทำให้เกิดกำแพงและเสาหินที่มีลวดลายแปลกตา ซึ่งแต่ก่อนเชื่อว่าที่แห่งนี้เมื่อหลายร้อยปีที่แล้วเคยเป็นทางไหลของแม่น้ำปิง จนกระทั่งแม่น้ำปิงเปลี่ยนสาย ทำให้พื้นที่บริเวณนี้ยกตัวเป็นเนินเขาสูง และเมื่อเวลาผ่านไปจึงถูกกัดเซาะจากลมฝนจนกลายเป็นหน้าผา และเสาดินที่มีรูปร่างแปลกตาคล้ายเสาโรมัน ที่นี่ยังได้ชื่อว่าแกรนด์แคนยอนเมืองไทยอีกด้วยนะ
ตลอดเส้นทางสู่ผาช่อ เราจะได้เดินไปบนทางที่เต็มไปด้วยหินกรวดก้อนกลมมน เพราะถูกกัดเซาะจากสายน้ำที่ยังคงไหลอยู่เอื่อยๆ ถ้าคนตั้งใจจะมาเก็บภาพผาช่อ เราขอแนะนำให้มาช่วงก่อนเที่ยงไปจนถึงตอนเที่ยงตรงเพราะจะได้ภาพที่สวยที่สุด
นี่แค่ส่วนหนึ่งของสถานที่ที่น่าสนใจเท่านั้น ส่วนจะมีที่ไหนเด็ดอีกบ้างต้องตามไปสัมผัสด้วยตัวเอง เชื่อเราเถอะว่าเที่ยวเชียงใหม่ไม่ต้องรอหนาว
ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
บทความที่น่าสนใจ