5 สูตรแจ่ว รสแจ่ม…ขาดเธอเหมือนขาดใจ ขาดเธอไปแล้วไม่แจ๋วเลย…เพราะความเด็ดสะระตี่ของน้ำจิ้มแจ่วสายอีสาน เปลี่ยนเมนูบ้านๆ ให้รสชาติแจ่มแจ๋ว จึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นในมื้ออาหารที่บางคนขาดไม่ได้ แต่รู้มั้ย!!! น้ำจิ้มแจ่วมีหลายสูตรหลากรสชาติ แจ่วน้ำปลา แจ่วน้ำปลาร้า แจ่วน้ำมะขาม
มาดูกันสิ่ว่าคุณเคยลอง “แจ่ว” แบบไหนมาแล้วบ้าง
ประมาณว่าเป็นน้ำจิ้มแจ่วสูตรเบสิกที่ใครๆ ก็ทำได้ ง่ายๆ แค่มีพริกป่น น้ำปลา บีบมะนาวหน่อย จะเติมหวานด้วยน้ำตาลทรายหรือไม่ก็ได้ ให้รสเค็มนำเปรี้ยวหรือเปรี้ยวนำเค็มแล้วแต่ชอบ ถ้าขยันจะซอยหอมแดงบางๆ และผักชี หรือเติมข้าวคั่วป่นก็ยิ่งดี เอาไว้กินกับไข่เจียว ไก่ย่าง ปลาดุกย่างได้หมด ทำติดสำรับไว้ไม่ผิดหวัง
เป็นน้ำจิ้มแจ่วสูตรแอดวานซ์ขึ้นอีกนิดเพราะต้องเพิ่มขั้นตอนการปรุงอีกหน่อย โดยเติมหวานด้วยน้ำตาลปีบ เติมเปรี้ยวด้วยน้ำมะขาม ตั้งไฟเคี่ยวให้น้ำแจ่วข้นขึ้น แล้วเติมข้าวคั่วป่นลงไป บางสูตรอาจใส่งาขาวคั่วป่นแทน แจ่วจะหอมขึ้นเมื่อเครื่องเคราโดนความร้อน ซอยต้นหอม ผักชีฝรั่ง หรือใบสะระแหน่ตาม เหมาะมากกับเมนูปิ้งย่างอย่างคอหมูย่าง ไส้ย่าง ปลาเผา สเต๊กนุ่มๆ หรือแค่ข้าวเหนียวจิ้มแจ่วก็ยังฟินเล้ยย
หรือใครอยากจะลองทำเองโดยการลองนำแจ่วสูตรที่ทำไม่ยากอย่างแจ่วน้ำมะขามที่มีครบรสทั้งเค็มเปรี้ยวหวานกลมกล่อม มาเพิ่มท็อปปิ้งให้มีความน่าสนใจมากขึ้นด้วยหอมเจียว แค่นี้เพิ่มมิติของกลิ่นและรสที่น่าสนใจได้แล้ว เพราะน้ำจิ้มแจ่วมีสูตรหลากหลายตามแต่ใครจะหยิบจับวัตถุดิบมาสร้างสรรค์สูตรของตัวเองขึ้นมา อย่างสูตรนี้ได้เจอตอนไปกินชุดสุขนัว ชุดอาหารพิเศษของเชนร้านอาหารปิ้งย่างในห้างอย่างบาร์บีคิวพลาซ่า ที่เน้นความอร่อยนัวในสไตล์ไทย มีจำหน่ายอยู่ในช่วงนี้ ซึ่งชุดนี้ นอกจากจะมีเครื่องเทศไทยๆ หลากชนิด ข้าวคั่วให้เติมในน้ำซุปสไตล์จิ้มจุ่มตามคอนเซ็ปต์ความนัวแล้ว ยังมีการเสริฟน้ำจิ้มแจ่วทีมีหอมเจียวโรยหน้ามาสำหรับให้จิ้มกับอาหารประเภทปิ้งย่าง หมูสไสล์ หมูสันคอชาบู เบคอน หรือคอหมูย่าง เป็นการนำน้ำจิ้มแจ่วรสชาติคุ้นเคย มาเพิ่มสีสันและรสชาติให้กับมื้ออาหารในรูปแบบใหม่ๆ อีกด้วย
แจ่วสูตรนี้เหมาะกับเมนูนึ่งๆ ลวกๆ ทั้งหลาย ทั้งปลานึ่ง ไก่นึ่ง ไข่ต้ม ผักลวก ผักสด หรือแม้แต่ข้าวเหนียวจิ่มแจ่วก็แซบอีหลี เครื่องแจ่วมีหลายอย่างทั้งพริกสด พริกชี้ฟ้า ข่า หอมกระเทียม คั่วไฟหรือปิ้งให้สุกหอมแล้วโขลกพอหยาบพร้อมผักชีซอย ปรุงรสเติมเสน่ห์ความหอมด้วยน้ำมะนาวและน้ำปลาร้า (ถ้าชอบปลาร้าต่อนก็หย่อนลงไป) ได้รสชาติจัดจ้านเผ็ดเปรี้ยวเค็มเต็มๆ คำ
อาจจะดูเก๋ๆ สวยๆ แต่น้ำจิ้มแจ่วสูตรนี้อร่อยไม่ใช่ย่อย แถมยังดูเฮลตี้เพราะได้วิตามินและเบตาแคโรทีนจากมะเขือเทศอีกต่างหาก เครื่องแจ่วมาแนวเดียวกับแจ่วน้ำปลาร้าพริกสด แต่เพิ่มมะเขือเทศให้เป็นนางเอกของเมนู อาจเปลี่ยนพริกชี้ฟ้าเป็นพริกแห้งก็ได้ แล้วนำทั้งหมดมาคั่วอบหรือปิ้งให้สุกหอม โขลกพอหยาบแล้วปรุงรสด้วยมะนาว น้ำปลาหรือน้ำปลาร้าให้ถูกปาก กินกับปลานึ่ง ผัก และข้าวสวยร้อนๆ อร่อยโล้ดดด
เสน่ห์ของน้ำจิ้มแจ่วที่อยู่คู่มื้ออาหารอีสานยังขยายฐานความอร่อยไปยังอาหารประเภทอื่นๆ อีก เพราะกินคู่กับอาหารได้แบบไม่มีข้อจำกัดเฉพาะเมนูพื้นบ้านเท่านั้น ใครยังไม่เคยลองสูตรไหนลองเสาะหามากินกันดู