ชวนคุณแม่ ตรวจดาวน์ซินโดรมฟรี ทั่วประเทศ
เร็วๆ นี้มีข่าวทางกระทรวงสาธารณสุขออกมาแถลงเกี่ยวกับการเปิดให้คุณแม่ตั้งครรภ์ทั่วประเทศ ตรวจดาวน์ซินโดรมฟรี ได้ ทั้งยังให้ผลการคัดกรองที่แม่นยำ และมีประสิทธิภาพ
ข่าวดีในการวางแผนครอบครัว
จากเนื้อหาข่าวของเว็บไซต์ thaipost.net ระบุว่า
รัฐบาลทุ่มงบ 100 ล้าน เปิดให้บริการตรวจคัดกรองโดยการเจาะเลือดตรวจในกลุ่มอาการดาวน์ในหญิงตั้งครรภ์อายุ 35 ปีขึ้นไปคลอบคลุมทั่วประเทศ ทุกสิทธิ์ โดยมอบศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 3 นครสวรรค์ เป็นศูนย์รับตัวอย่างเลือด ส่งผลมารพ. ต้นทางภายใน 7 วัน คาดภายในปี 2563 จะสามารถตั้งงบประมาณสำหรับตรวจหญิงตั้งครรภ์ได้ทุกช่วงวัยจะมีการขยายศูนย์คัดกรองฯ ไปตามภูมิภาคต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน
นพ.ธวัช สุนทราจารย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) พร้อมด้วย นพ.สุขุม กาญจนพิมาย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัย และนพ.จักกริช โง้วศิริ ร่วมกันแถลงถึงโครงการเปิดให้บริการตรวจคัดกรองกลุ่มอาการดาวน์ในหญิงตั้งครรภ์อายุ 35 ปีขึ้นไปคลอบคลุมทั่วประเทศ
นพ.จักรกริช โง้วศิริ ผู้ช่วยเลขาธิการ สปสช.กล่าวว่า สิทธิประโยชน์ดังกล่าวเป็นบริการให้หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุ 35 ปี ในทุกสิทธิการรักษา และขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาการให้สิทธิเพิ่มเติมโดยคาดว่าภายในปี 2563 จะสามารถตั้งงบประมาณสำหรับตรวจหญิงตั้งครรภ์ได้ทุกช่วงวัย อาจจะต้องใช้งบมากอย่างปัจจุบันค่าตรวจคัดกรองวิธีทีดังกล่าวอยู่ประมาณ 1 หมื่นบาทต่อราย ซึ่งทั้งประเทศมีหญิงตั้งครรภ์ประมาณ 7 แสนรายต่อปี อย่างไรก็ตามหากมีการปริมาณการตรวจมากค่าตรวจก็จะสามารถลดลงกว่านี้
ตั้งครรภ์ 3 เดือนแรก ตรวจคัดกรองทารกกลุ่มอาการดาวน์ได้
อ้างอิงจากบทความของเว็บไซต์ SIRIRAJ E-PUBLIC LIBRARY โดย รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์ ภาควิชาสูติศาสตร์ นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้ระบุข้อมูลน่าสนใจที่ว่าที่คุณแม่ควรศึกษาไว้ ดังนี้
โดยปกติคนเราจะมีโครโมโซมจำนวน 46 แท่ง หรือ 23 คู่ สำหรับทารกกลุ่มอาการดาวน์จะมีโครโมโซมเกินมาหนึ่งแท่ง คือ โครโมโซมคู่ที่ 21 มี 3 แท่ง แทนที่จะมี 2 แท่ง ตามปกติ ทำให้จำนวนโครโมโซมทั้งหมดมีถึง 47 แท่ง ความผิดปกติแบบนี้ทางการแพทย์เรียกว่า TRISOMY 21 ซึ่งสาเหตุเกิดจากการแบ่งตัวของโครโมโซมในเซลล์ไข่ของแม่ช่วงที่มีการปฏิสนธิมีความผิดปกติ มักเกิดในเซลล์ไข่ของสตรีตั้งครรภ์ที่มีอายุมาก มีเส้นใยที่มีการแบ่งตัวค้างอยู่นาน การยืดหยุ่นตัวไม่ดี หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่า anaphase lag พบได้ถึงร้อยละ 95 ส่วนสาเหตุรองลงมาเรียกว่า TRANSLOCATION คือมีโครโมโซมย้ายไปอยู่ผิดที่ เช่น โครโมโซมคู่ที่ 14 มายึดติดกับคู่ที่ 21 เป็นต้น พบได้ร้อยละ 4 ส่วนสาเหตุที่พบได้น้อยที่สุดคือ มีโครโมโซมทั้ง 46 และ 47 แท่งในคน ๆ เดียวกันพบได้เพียงร้อยละ 1 เท่านั้น เรียกภาวะนี้ว่า MOSAIC
ลักษณะสำคัญของเด็กกลุ่มอาการดาวน์คือ จะมีโครงสร้างของใบหน้าและรูปร่างลักษณะที่จำเพาะ ซึ่งสามารถให้การวินิจฉัยได้โดยแพทย์ พยาบาลตั้งแต่แรกคลอด เด็กดาวน์จะมีศีรษะค่อนข้างเล็ก แบน และตาเฉียงขึ้น ดั้งจมูกแบน ปากเล็ก ลิ้นมักยื่นออกมา ลักษณะลิ้นคับปาก ตัวค่อนข้างเตี้ย มือสั้น ขาสั้น ตัวเตี้ย มักมีโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด หรือโรคลำไส้อุดตันตั้งแต่แรกเกิด เด็กกลุ่มนี้จะมีใบหน้าที่คล้ายคลึงกันมากกว่าพี่น้องท้องเดียวกัน เด็กจะมีลักษณะตัวที่ค่อนข้างนิ่มหรืออ่อนปวกเปียก มีพัฒนาการที่ล่าช้า เช่น การนั่ง ยืน เดินและพูดช้า ทารกกลุ่มนี้พบได้ 1 คน ในทารกเกิดใหม่ 800 คน
ในประเทศไทยพบทารกดาวน์เกิดใหม่ประมาณ 1,000 คนต่อปี หรือประมาณ 3 คนต่อวัน และส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 75 ของทารกดาวน์ เกิดจากสตรีตั้งครรภ์ที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปี หรือกลุ่มสตรีที่มีความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากสตรีกลุ่มนี้มักจะไม่ได้รับคำแนะนำในการเจาะตรวจน้ำคร่ำ เนื่องจากเห็นว่าเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำ นอกจากนี้เด็กดาวน์เกือบทั้งหมดยังเกิดในครอบครัวที่ไม่เคยพบผู้ที่มีปัญญาอ่อนมาก่อน ฉะนั้นการตรวจหาแต่เนิ่น ๆ ว่าทารกในครรภ์มีภาวะเสี่ยงอยู่ในกลุ่มอาการดาวน์หรือไม่ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
วิธีการตรวจภาวะดาวน์ซินโดรม
การตรวจโครโมโซมของทารก เป็นวิธีหนึ่งที่นิยมใช้กัน โดยการเจาะตรวจน้ำคร่ำขณะอายุครรภ์ 17-20 สัปดาห์ ทำให้ทราบว่าทารกมีโครโมโซมผิดปกติหรือไม่ แต่การเจาะตรวจน้ำคร่ำมีอัตราเสี่ยงต่อการแท้งบุตรประมาณ 1 ใน 350 ราย ดังนั้นสูติแพทย์จึงแนะนำการเจาะตรวจน้ำคร่ำในคุณแม่ที่มีความเสี่ยงสูงเท่านั้น เช่น คุณแม่อายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป คุณแม่ที่คลอดลูกคนก่อนเป็นทารกดาวน์ หรือคุณแม่ที่ทำการตรวจคัดกรองเลือดแล้วได้ผลบวก เป็นต้น
ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบัน มีวิธีการตรวจคัดกรองทารกดาวน์ด้วยการตรวจสารชีวเคมีในเลือดของคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ในช่วงไตรมาสแรกร่วมกับการตรวจอัลตร้าซาวด์ เพื่อวัดความหนาของผิวหนังบริเวณต้นคอทารกในครรภ์ ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุด สามารถตรวจคัดกรองทารกดาวน์ได้ถึงร้อยละ 85-90 เป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องเสี่ยงต่อการแท้งบุตร ค่าใช้จ่ายไม่สูง และมีประโยชน์ในการวางแผนในการตรวจวินิจฉัยและดูแลทารกที่มีความเสี่ยงต่อไป วิธีนี้สามารถทำได้เฉพาะในช่วงอายุครรภ์ 10 -14 สัปดาห์เท่านั้น ดังนั้นคุณแม่ควรรีบไปฝากครรภ์กับสูติแพทย์ทันทีที่สงสัยว่าตั้งครรภ์เพื่อรับการตรวจคัดกรองในช่วงดังกล่าว และหากผลการตรวจเป็นบวก คุณแม่จะได้รับคำแนะนำในการตรวจวินิจฉัยต่อไป โดยปัจจุบันการตรวจดังกล่าวเป็นวิธีมาตรฐานที่ใช้ในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ซึ่งทำการตรวจในสตรีตั้งครรภ์ทุกรายที่มาฝากครรภ์แล้ว
หากเลยจากช่วงเวลานี้แล้ว เช่น ในกรณีที่อายุครรภ์อยู่ระหว่าง 14 – 18 สัปดาห์ คุณแม่ก็สามารถรับการตรวจเลือดเพื่อคัดกรองทารกดาวน์ในไตรมาสที่สองที่เรียกว่า Triple screening แทนได้ ซึ่งสามารถตรวจคัดกรองทารกดาวน์ได้ประมาณร้อยละ 65-70
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ประสบการณ์สุขภาพ : เมื่อคุณแม่เป็นความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ (มีคำแนะนำ)
เชียงใหม่ พบผู้ติด เชื้อไวรัสซิกา รายใหม่ เตือน! หญิงตั้งครรภ์ ตรวจหาเชื้อด่วน
ยอดคนติด เชื้อไวรัสซิกา พุ่งสูง หนึ่งในนั้นมีหญิงตั้งครรภ์ร่วมด้วย