สก็อต นีสัน เศรษฐีผู้หันหน้าเข้าหากองขยะ จากประธาน
ทเวนตี้ท์เซ็นจูรีฟ็อกซ์สู่ชีวิตอย่างสามัญในกัมพูชา
“ขาย! ของไร้ประโยชน์ทุกชิ้นของผม” ป้ายเลหลังประกาศหราที่โรงจอดรถของ สก็อต นีสัน (Scott Neeson) เศรษฐีชาวออสเตรเลียวัย 50 ต้น ๆ ใครผ่านไปผ่านมาคงอดคิดไม่ได้ว่า เศรษฐีผู้นี้คงถึงคราวตกอับแล้ว หารู้ไม่ว่าความจริงนั้นตรงกันข้าม
สก็อต นีสัน เคยดำรงตำแหน่งประธานบริษัทภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ทเวนตี้ท์เซ็นจูรีฟ็อกซ์ ภาพยนตร์เรื่อง ไททานิก เอ็กซ์เม็น ล้วนแต่เป็นฝีมือการดูแลการผลิตของเขาทั้งสิ้น การงานที่รุ่งโรจน์ทำให้เขามีชีวิตในแบบที่ใครหลายคนใฝ่ฝัน เขาได้รับเงินเดือนเดือนละ 1 ล้านดอลลาร์ ทั้งรถพอร์ช เรือยอช์ต และคฤหาสน์สุดหรูจึงได้มาราวกับเสก
แต่แล้ววันหนึ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไปปี 2003 นีสันเดินทางไปเยือนประเทศกัมพูชาเขาผ่านไปพบชุมชนแออัดในย่านสตึงมีชัยแหล่งทิ้งขยะขนาดยักษ์ นีสันแทบไม่เชื่อตาตัวเองว่าชาวบ้านต่างกำลังขุดคุ้ยกองขยะอย่างมีความหวัง
“พวกเขาอยู่รอดกันได้อย่างไร” นีสันถามตัวเอง “ผมเพิกเฉยต่อไปไม่ได้แล้วล่ะ”
นีสันตัดสินใจเข้าไปศึกษาวิถีชีวิตคนที่นั่น เขาเล่าว่า คนในสลัมต่างดำรงชีวิตด้วยการขุดคุ้ยเศษขยะเล็กๆ น้อยๆ เพื่อแลกค่าอาหารให้พอประทังชีวิตไปวันๆ ถ้าวันไหนโชคดีอาจได้สัก 4,000 เรียล หรือประมาณ 34 บาท ความจริงที่โหดร้ายกว่านั้นคือ คนส่วนใหญ่ที่กำลังคุ้ยขยะเป็นเพียงเด็กตัวเล็กๆ ไร้การศึกษา ซ้ำร้ายยังป่วยด้วยโรคไข้รากสาดน้อย นีสันได้รู้จักกับ สเรย์ นิช เด็กหญิงวัย 9 ขวบ สวมใส่เสื้อผ้าขาดวิ่น ที่มองอย่างไรก็คือผ้าขี้ริ้ว เธออาศัยอยู่กับแม่และน้องสาว ซึ่งดำรงชีวิตไม่ต่างจากคนอื่นๆ คือช่วยกันเก็บเศษแก้วไปขาย
เหตุการณ์วันนั้นทำให้นีสันตัดสินใจทิ้งชีวิตที่ฮอลลีวู้ดอย่างไม่ลังเล เขาขายรถพอร์ช เรือยอช์ต และคฤหาสน์หรูในลอสแอนเจลิสทิ้ง แล้วนำเงินไปซื้อบ้านสองชั้นที่กัมพูชา ชั้นบนทำเป็นที่อยู่อาศัย ส่วนชั้นล่างเปิดเป็นออฟฟิศองค์กรไม่แสวงหากำไรเพื่อช่วยเหลือเด็กยากไร้ในกัมพูชา ชื่อ “Cambodian Children’s Fund”
“ชีวิตที่ฮอลลีวู้ดมันก็ดีนะ มีทั้งลิมูซีนทั้งเครื่องบินส่วนตัว มีสาวๆ สวยๆ ได้ไปงานออสการ์หรูๆ แต่มันไม่ใช่ไลฟ์สไตล์ผม ผมมีความสุขมากกว่าเวลาที่ได้ช่วยให้เด็กๆ มีชีวิตที่ดีขึ้น”
ความทุ่มเทของเขาไม่สูญเปล่า ทุกวันนี้นีสันสามารถช่วยเหลือเด็กกัมพูชาให้มีบ้านมีการศึกษา และมีสาธารณสุขที่ดีไปแล้วมากกว่า 1,450 คน เด็กๆ ราว 100 คนมีงานทำในโรงแรมและร้านอาหาร หลังจากได้เรียนทำอาหารและฝึกทักษะด้านต่างๆ นอกจากนั้นยังมีแพทย์และพยาบาลรวม 10 คนเข้าทำงานเต็มเวลาที่คลินิก เพื่อรักษาคนยากไร้กว่า 3,000 คนต่อเดือน โดยไม่คิดค่ารักษาแม้แต่บาทเดียว
คราบของเศรษฐีหายไปหมดแล้ว วันนี้นีสันเดินไปมาในบ้านด้วยเท้าเปล่าเปลือยตามสไตล์กัมพูชา นุ่งกางเกงผ้า และสวมเพียงเสื้อยืดธรรมดาๆ
“คุณต้องรู้จักทิ้งอัตตาของตัวเองไปบ้าง” เขาบอก
แล้วคุณล่ะ พร้อมจะทิ้งของ “ไร้ประโยชน์” บ้างหรือยัง
เรื่อง มินู /ภาพ cambodianchildrensfund.org, csglobe.com
บทความที่น่าสนใจ
เดินไปสู่ความสุข กับ พศิน อินทรวงค์
เพื่อนช่วยเพื่อน เรียนรู้ เพื่อดูแลตัวเอง
เศรษฐีจีนทุ่มเงิน 3 พันล้านบาท เนรมิตเขาหัวโล้นกลับมาเขียวขจี