พริกแกงคั่ว

พริกแกงคั่ว รสแท้ตำรับโบราณ พร้อมสูตร แกงคั่วสับปะรดหอยแมลงภู่ – A Cuisine

แกงคั่วสับปะรดหอยแมลงภู่

แกงคั่วสับปะรดหอยแมลงภู่

แกงคั่วสับปะรดหอยแมลงภู่ เมนูแกงไทยที่ทำง่าย และน่ารับประทาน โดยแกงคั่วสับปะรดจะมีรสนำคือ เปรี้ยว เค็ม หวาน อร่อยมาก ตามตำราโบราณนั้นจะใช้สับปะรดเป็นส่วนผสมในการทำกับข้าวหลากหลายเมนูเลยทีเดียว เนื่องจากส่วนผสมบางอย่างในกับข้าวอาจจะทำให้ท้องอืดย่อยยาก จึงต้องใส่สับปะรดลงไปเพื่อให้ย่อยได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ถ้าเราทานสับปะรดวันละ 1 ชิ้น จะช่วยรักษาช่องปากของเราอีกด้วย

ส่วนหอยแมลงภู่นั้นก็อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก เหมาะกับผู้ที่มีร่างกายที่เสียเลือดมาก เช่นผู้หญิงที่มีประจำเดือน นอกจากนี้ในหอยแมลงภู่ยังมีคอลลาเจนต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย ประโยชน์เยอะมากขนาดนี้ อย่ารอช้าไปดูขั้นตอนการทำกันเลยดีกว่าค่ะ

 

ส่วนผสมแกงคั่วสับปะรดหอยแมลงภู่

  • กะทิธัญพืช 1 ถ้วย
  • กะทิธัญพืช 1/2 ถ้วย
  • น้ำพริกแกงคั่ว 1/4 ถ้วย
  • สับปะรด 1/2 ผล
  • หอยแมลงภู่
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกชี้ฟ้าแดงหั่นแฉลบ 1 เม็ด
  • ใบมะกรูดฉีก 4 – 5 ใบ
  • น้ำมันดอกทานตะวัน 2 ช้อนโต๊ะ

 

วิธีทำแกงคั่วสับปะรดหอยแมลงภู่

1. นำหอยแมลงภู่ไปลวกในน้ำเดือด จากนั้นตัก ขึ้นแล้วพักทิ้งไว้

2. นำกะทิใส่ลงไปในกระทะ เคี่ยวพอเดือดด้วยไฟอ่อน พอแตกมันใส่น้ำพริกแกงลงไปผัดจนหอม ใส่น้ำปลา น้ำตาล น้ำมะขามลงไป

3. สับปะรดหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ บีบน้ำออก ใส่ลงไปในข้อ 2 ค่อย ๆ เติมน้ำกะทิลงไป เคี่ยวซักพัก พอให้น้ำแกงซึมเข้าเนื้อสับปะรด

4.ใส่เนื้อหอยลงไป

5.ใส่พริกชี้ฟ้าและใบมะกรูดลงไป ตักใส่ชาม ราดด้วยหัวกะทิ เสิร์ฟร้อน ๆ

เพียงเท่านี้ก็พร้อมรับประทานแล้ว เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ รับรองอร่อยฟิน จนเดินไปเติมข้าวแน่นอน!

สับปะรดประโยชน์ที่

“สับปะรด” เป็นผลไม้ที่ให้รสหวานฉ่ำชื่นใจ จะรับประทานเป็นชิ้น หรือทำเป็นเครื่องดื่ม เช่น น้ำสับปะรดปั่นเย็นๆ ก็ช่วยดับกระหายคลายร้อนได้ดี นอกจากนี้เนื้อสับปะรดยังมีประโยชน์ สามารถนำมาปรุงเป็นอาหารได้หลากหลาย อย่างอาหารคาว เช่น แกงคั่วสับปะรด แกงส้ม น้ำแกงที่ได้จะออกรสเปรี้ยวหวาน กลมกล่อมดีส่วนเปลือกสับปะรดก็สามารถนำมาใช้หมักเนื้อสัตว์ให้เปื่อย หรือนำเปลือกแช่น้ำ ใช้แช่เครื่องทองเหลือง หรือเครื่องเงินทิ้งไว้ข้ามคืน จากนั้นนำมาขัดเท่านี้ก็จะได้เครื่องเงินและเครื่องทองเหลืองที่สดใสแวววาว ดูราวกับของใหม่เลยทีเดียว

 

สรรพคุณทางสมุนไพรโบราณ

  • ช่วยบรรเทาอาการแผลเป็นหนอง
  • ช่วยขับปัสสาวะ
  • แก้ร้อนกระสับกระส่าย กระหายน้ำ
  • แก้อาการบวมน้ำ ปัสสาวะไม่ออก
  • บรรเทาอาการโรคบิด
  • ช่วยย่อยอาหารพวกโปรตีน
  • แก้ท้องผูก
  • เป็นยาแก้โรคนิ่ว

 

วิธีการเลือกสับปะรด

  • ดมกลิ่นสับปะรด หากคุณได้กลิ่นหอมหวาน แสดงว่าสับปะรดสุกแล้ว แต่หากไม่มีกลิ่น แสดงว่ามันยังไม่สุก
  • หลีกเลี่ยงสับปะรดที่มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวเหมือนของหมัก ถ้าต้องการสับปะรดที่มีกลิ่นหอมหวาน แต่กลิ่นหอมหวานนั้นต้องไม่เจือกลิ่นแบบกลิ่นแอลกอฮอล์ หรือกลิ่นน้ำสมสายชูหมัก
  • ใช้วิธีสังเกตสับปะรด “ความสดและความเก่า” หากคุณต้องการสับปะรดที่สดใหม่ ไม่ใช่สับปะรดเน่า ดังนั้นคุณต้องสังเกตขั้วของสับปะรด ซึ่งเป็นท่อลำเลียงน้ำตาลเข้าสู่สับปะรด หากสับปะรดเริ่มเปลี่ยนสี ขั้วจะเปลี่ยนสีก่อนเป็นอย่างแรก
  • ดูสีของสับปะรด โดยปกติสับปะรดสุกจะมีสีเหลืองทอง แต่ถ้าสับปะรดเป็นสีเขียวก็ไม่ได้แปลว่ามันยังไม่สุกเสมอไป…อย่าลืมว่าสับปะรดบางสายพันธุ์เป็นสีเขียวเวลาสุก ดังนั้นให้เน้นไปที่ความสดใหม่ของสับปะรดมากกว่าสีของมัน ไม่ซื้อสับปะรดที่มีผิวเหี่ยวย่น มีสีน้ำตาลแดง มีรอยแตกหรือรอยรั่ว ขึ้นรา หรือมีใบเหี่ยวเป็นสีน้ำตาล
  • บีบสับปะรด คุณควรเลือกสับปะรดที่มีเนื้อแน่น แต่ก็นุ่มพอที่จะกดลงไปได้นิดหน่อย

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.