กระเพาะปัสสาวะ อักเสบเพราะ 4 ไลฟ์สไตล์เสี่ยง
“ฉี่เป็นเลือดอีกแล้ว มันทรมานมากนะหนู” คำพูดชวนสยองพร้อมสีหน้าเคร่งเครียดของคุณน้าข้างบ้าน ทำเอาสาวๆ หลายคนกลัวว่าจุ๋มจิ๋มต้องเผชิญกับเหตุการณ์ดังกล่าว แต่คุณน้าไปทำท่าไหนนะ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ จึงมาเยือน
แพทย์หญิงชัญวลี ศรีสุโข สูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลประจำจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า “โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เป็นโรคฮิตของสาววัยทำงาน นั่นเพราะไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ จนทำให้นั่งติดโต๊ะเป็นเวลานาน และยังมีเรื่องของความสะอาดที่หลายคนเข้าใจผิด ซึ่งเป็นที่มาของโรคกระเพาะปัสสาวะอัก”
ทำไมน้องสาวจึงป่วย
ว่าแล้ว อะไรคือต้นเหตุให้สาวๆ วัยทำงานต้องเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ และเราจะรู้ได้อย่างไรว่า การปัสสาวะของในแต่ละวันนั้นปกติ ไม่เป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
คุณหมอชัญวลี ให้คำตอบว่า “สาเหตุของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบนั้นมาจาก ท่อปัสสาวะของผู้หญิงสั้น มีความยาวเพียง 2 เซนติเมตร ดังนั้น เชื้อโรคจึงเข้าสู่ท่อปัสสาวะและไต่ขึ้นกระเพาะปัสสาวะได้ง่าย
“ส่วนใหญ่มักเป็นการอักเสบที่มาจากเชื้อโรคปนเปื้อนทางทวารหนัก เช่น เชื้ออีโคไล หรืออาจมาการติดเชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ทำให้เป็นช่องคลอดอักเสบ เชื้อโรคจึงเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะได้ง่าย ส่งผลให้ สาวๆ ต้องปัสสาวะบ่อย รู้สึกแสบ ขัด ปัสสาวะเป็นเลือด หรือมีหนองปน”
คุณหมอชัญวลี อธิบายว่า “บ่อยครั้งที่ผู้ป่วยมาพบแพทย์เพื่อตรวจโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เพราะเป็นบ่อยและรักษาไม่หายขาด นั่นเพราะอาจติดเชื้อจากหนองใน จึงควรรักษาโรคหนองในเสียก่อน
ทั้งนี้ โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบไม่ใช่โรคที่รุนแรง แต่จะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่สบายตัวขณะปัสสาวะ และพักผ่อนได้น้อย เนื่องจากต้องตื่นมาปัสสาวะตลอดทั้งคืน”
แต่อย่ารีบ นิ่งนอนใจนะคะ เพราะคุณหมอกำชับว่า โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบก็อันตรายถึงแก่ชีวิตได้ หากเชื้อโรคในกระเพาะปัสสาวะไต่เข้าสู่กรวยไต ยิ่งคนที่ภูมิต้านทานต่ำ หรือหญิงมีครรภ์ จะยิ่งเสี่ยงแก่การติดเชื้อในกระแสเลือด และทำให้เสียชีวิตได้
4 ไลฟ์สไตล์ชวนเสี่ยง
มาถึงจุดนี้ เริ่มกลัวแล้วใช่ไหมคะ ว่าแล้วเรามาดูกันดีกว่าว่า ไลฟ์สไตล์ใดบ้างที่จะทำให้คุณเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ซึ่งคุณหมอชัญวลี สรุปดังนี้
- ไม่ดูแลร่างกาย
ผู้ที่ไม่ดูแลร่างกาย มักมีภูมิต้านทานต่ำ ทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย ซึ่งการมีร่างกายที่แข็งแรง เมื่อเชื้อโรคเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะ การดื่มน้ำมากๆ จะทำให้เชื้อโรคถูกขับออกทางปัสสาวะ แต่ถ้าร่างกายไม่แข็งแรงเลย ก็ง่ายที่เชื้อโรคจะเดินทางเข้าสู่กรวยไต
นอกจากนี้ ผู้ที่ใช้ยากดภูมิต้านทาน เช่น สเตียรอยด์ ผู้ป่วยโรคเอดส์ สตรีมีครรภ์ หรือผู้ที่เป็นมะเร็ง มักเสี่ยงแก่การเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ดังนั้น จึงต้องดูแลร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ
- ดื่มน้ำไม่พอเหมาะ
คุณหมอชัญวลี แนะนำว่า ไม่ควรปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำ เพราะจะทำให้ปัสสาวะข้น มีการสะสมของแบคทีเรีย กระเพาะปัสสาวะจึงติดเชื้อง่าย แต่ทั้งนี้ก็ไม่ควรดื่มน้ำมากเกินไป ควรดื่มน้ำ 30-50 ซีซี ต่อน้ำหนักตัว 50 กิโลกรัม
การดื่มน้ำมากเกินความจำเป็น จะทำให้ปัสสาวะบ่อย ส่งผลให้ช่องคลอดเปียกชื้น เหมาะต่อการเจริญเติบโตของเชื้อโรค ที่จะเข้าสู่ท่อปัสสาวะและกระเพาะปัสสาวะนอกจากนี้ ไม่ควรดื่มน้ำหวาน เพราะเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียมักชอบรสหวาน
- กลั้นปัสสาวะ
หลายคนมักกลั้นปัสสาวะ เพราะมุ่งมั่นกับการทำงาน แต่นั่นส่งผลเสียต่อกระเพาะปัสสาวะอย่างแน่นอน ดังนั้น ให้ปัสสาวะครั้งละ 2-3 ชั่วโมง กลางวันควรปัสสาวะ 4-5 ครั้ง ขณะที่กลางคืน ไม่ควรดื่มน้ำมาก เพื่อให้กระเพาะปัสสาวะได้พักผ่อน
กระเพาะปัสสาวะของผู้หญิง สามารถเก็บปัสสาวะได้ราว 300 ซีซี ซึ่งตอนกลางคืน ไม่ควรปัสสาวะเกิน 1-2 ครั้ง หากมากกว่านั้น อาจมีปัญหาทางสุขภาพ เช่น เป็นโรคเบาหวาน หรือเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบจึงควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- ใช้ห้องน้ำสาธารณะแบบผิดๆ
เพราะต้องใช้ชีวิตอยู่นอกบ้านเป็นเวลานาน หลายคนจึงพึ่งพาห้องน้ำสาธารณะ แต่โถสุขภัณฑ์และสายชำระที่สกปรกก็มาเป็นของคู่กันซึ่งคุณหมอชัญวลี แนะนำดังนี้
-นั่งยองๆ ปัสสาวะ เพราะท่อปัสสาวะของผู้หญิงสั้น การนั่งยองๆ จะทำให้เชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียกระเด็นเข้าสู่ท่อปัสสาวะได้ นอกจากนี้ การนั่งยองๆ มักทำให้ปัสสาวะไม่หมด ส่งผลให้เกิดการสะสมของเชื้อโรค
-การนั่งโถชักโครก ควรใช้ผ้า หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรคก่อนนั่ง ในกรณีที่ไม่สามารถ ก็ไม่ควรสัมผัสกับโถชักโครก การเกร็งขาจะปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากเชื้อโรครอบๆ โถปัสสาวะ
-การใช้สายชำระ สาวๆ มักติดการใช้สายชำระ ซึ่งสายชำระนอกบ้าน เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค น้ำที่ค้างอยู่ที่หัวฉีด หรือเชื้ออีโคไลจะในห้องน้ำ จะทำให้น้องสาวของเราติดเชื้อได้ง่ายค่ะ การใช้กระดาษทิชชูเปียก น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า
-ไม่ควรรีบร้อน ในการเข้าห้องน้ำสาธารณะ มักมาพร้อมความรีบร้อน เพราะเกรงใจคนที่ต่อคิว แต่นั้น จะยิ่งทำให้คุณมีเชื้อโรคตกค้างในกระเพาะปัสสาวะได้
ในกระเพาะปัสสาวะของผู้หญิงจุได้ 300 ซีซี จึงควรปัสสาวะวินาทีละ 20 ซีซี ใช้เวลา 1 นาที ก็ควรปัสสาวะเรียบร้อย ไม่ควรเบ่งให้เร็วไปกว่านั้น และเมื่อปัสสาวะหมด ให้เอนตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย แล้วกดหน้าท้อง จะทำให้ปัสสาวะที่หลงเหลือออกมาได้
ไลฟ์สไตล์ของคุณเข้าข่าย 4 ข้อ นี้ไหมค่ะ ถ้าใช่ รีบปรับพฤติกรรมโดยด่วน เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงของเรานะคะ