🌶พริกไม่ได้มีดีแค่เผ็ด🌶
ในทางแพทย์แผนไทย อ้างอิง จากหนังสือ คำอธิบายตำราพระโอสถพระนารายณ์ ได้ระบุถึงสรรพคุณทางการแพทย์ของพริกว่า “ตำราสรรพคุณยาโบราณว่าพริกมีรสเผ็ด ร้อน รู้กัดเสมหะ ทำให้น้ำลายใส แก้ไอ แก้ตานซาง แก้ไข้สันนิบาต แพทย์ตามชนบทใช้พริกเป็นยาขับลม ยำบำรุงธาตุ และปรุงเป็นยานวดแก้ตะคริว ใบของต้นพริกมีกลิ่นฉุน รสเย็น แก้ไข้หวัดกำเดาที่ทำให้ปวดศีรษะ โดยใช้ตำกับดินสอพอง ปิดขมับจะทำให้หายปวดขมับ”
ในขณะที่ผลวิจัยในปัจจุบันพบว่า สารให้รสเผ็ดอย่างแคปไซซิน สามารถช่วยต้านมะเร็งลำไส้ได้ ช่วยกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน ช่วยลดไขมันในหลอดเลือด และต้านการเกิดอนุมูลอิสระ
🌶มารู้จักหน่วยวัดความเผ็ดของพริกกันเถอะ🌶
SHU คือ หน่วยวัดความเผ็ดของพริก คิดค้นขึ้นในปี ค.ศ.1912 โดย Wilber Scoville (วิลเบอร์ สโกวิลล์) นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันเชื้อสายเยอรมัน โดยใช้แอลกอฮอล์ละลายสารให้ความเผ็ดแล้วนำไปเจือจางในน้ำทดลองให้คนชิม โดยจะเพิ่มปริมาณขึ้นทีละนิดจน 3 ใน 5 คนที่เป็นผู้ทดลองชิมจะไม่สามารถรับรู้รสเผ็ด เรียกหน่วยวัดนี้ว่า SHU ย่อมาจาก Scoville Heat Unit นั่นเอง โดยปัจจุบัน 1 ppm ของสารแคปไซซิน จะเท่ากับ 16 SHU และพริกที่เผ็ดที่สุดในโลกคือ พริก แคโรไลน่ารีฟเปอร์ (Carolina Reaper) โดยพริกนี้ 1 เม็ด มีความเผ็ดถึง 1.5 ล้าน SHU เลยทีเดียว (ขณะที่พริกขี้หนูของไทย Bird’s Eye Chilli ที่นิยมรับประทาน มีระดับความเผ็ดที่ 1 แสน-2.2แสน SHU) โดยพริกดังกล่าวแทบจะไม่สามารถนำมาบริโภคได้ แต่นิยมนำมาใช้ในการสกัดสารให้ความเผ็ดเพื่อนำไปใช้ทางการแพทย์เป็นหลัก
ข้อมูลบางส่วนจาก http://พริกดีศรีสยาม เรื่องราวของ พริก แต่ละชนิดที่คุณยังไม่รู้ – A Cuisine
#ACuisine #เอควิซีน #Recipes
อยากกิน อยากฟิน อยากทำ อย่าลืมติดตาม A Cuisine (เอควิซีน)
📌Website : https://cheewajit.com/healthy-food
📌Line : http://line.me/ti/p/~@goodlifeupdate
📌Instagram : instagram.com/acuisine.th/
📌Pinterest : https://www.pinterest.com/AcuisineTH/