การพูดคุยเรื่องเพศสัมพันธ์กับลูก เป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญมาก ในการช่วยให้ลูกตัดสินใจในเรื่องเพศสัมพันธ์ได้อย่างปลอดภัย โดยพ่อแม่สามารถโยงถึงหัวข้ออื่นๆ ที่ส่งผลต่อความเสี่ยงในตัดสินใจได้ เช่น การใช้ยา ความกดดันต่างๆ และการสื่อสารเรื่องความปลอดภัยของลูกกับคู่รัก
ดร. ลอรา วิดแมน จากมหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนาสเตต ประเทศสหรัฐอเมริกา นำทีมวิจัยศึกษาเด็กวัยรุ่นกว่า 25,000 คน เกี่ยวกับการปรึกษาพ่อแม่เรื่องเพศสัมพันธ์และผลลัพธ์ที่ได้ พบว่า เด็กมีพฤติกรรมทางเพศที่ปลอดภัยมากขึ้น โดยมีการใช้ถุงยางอนามัยหรือรู้จักป้องกันด้วยวิธีอื่นๆมากขึ้น ซึ่งการพูดคุยเรื่องนี้ให้ผลดีเป็นพิเศษกับเด็กผู้หญิง หรือเด็กที่ปรึกษาคุณแม่
ดร. ลอรา กล่าวว่า พ่อแม่จะเน้นย้ำผลเสียที่มักจะตามมาจากกิจกรรมทางเพศ เช่น การตั้งครรภ์ โดยเฉพาะเวลาคุยกับลูกสาว ซึ่งพ่อแม่ควรเน้นประเด็นนี้กับลูกชายให้มากขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม ดร. วินเซนท์ กุยลาโม-รามอส จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ผู้เขียนงานวิจัยร่วม ระบุว่า พ่อแม่ส่วนใหญ่มักจะคิดว่าลูกตัวเองยังไม่มีความต้องการในเรื่องนี้ จึงละเลยประเด็นนี้ไป ซึ่งจริงๆแล้ว การพูดคุยเรื่องนี้ ควรเริ่มตั้งแต่ลูกอายุ 11-12 ปี โดยพูดย้ำให้ลูกรู้จักรอ และเตือนว่า เพศสัมพันธ์ไม่ได้ทำให้ลูกผูกพันธ์กับคู่รักมากขึ้น หรือทำให้ความสัมพันธ์พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังไม่ได้ลดความเสี่ยงการตั้งครรภ์ หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
พ่อแม่หลายคนเชื่อว่า การเปิดบทสนทนาเรื่องนี้ จะทำให้ลูกยิ่งมีเพศสัมพันธ์เร็วขึ้น แต่ความจริงแล้ว ผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม เพราะวัยรุ่นที่ไม่ปรึกษาพ่อแม่เรื่องนี้เลย มีความเสี่ยงในการมีเพศสัมพันธ์ในรูปแบบที่อันตรายมากขึ้น โดยหากพ่อแม่เริ่มพูดเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมากับลูก ลูกจะมีความกล้าที่จะพูดเรื่องนี้กับคู่รักของตัวเองด้วย
ที่มา: เดอะฮัฟฟิงตันโพสต์ (The Huffington Post)
