ปุ๊กลุก - ฝนทิพย์ วัชรตระกูล ในวันที่ไม่อาจมองกลับหลังได้

Don’t look back ปุ๊กลุก – ฝนทิพย์ วัชรตระกูล

ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ นางเอกสาวมากความสามารถ สร้างชื่อเสียงจากผลงานละครมากมาย วันที่เราเจอกันเธอเพิ่งผ่านเหตุการณ์สูญเสียครั้งสำคัญในชีวิตมาไม่นานนัก แต่ผู้หญิงคนที่เราพบ ยังคงมาด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ พร้อมกับหุ่นที่ฟิตมากขึ้น เธอบอกกับเราว่าทั้งหมดนี้มีที่มา

แก้ปัญหาสุขภาพ

ปุ๊กลุกเป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่คิวแน่น สำหรับเธอการดูแลสุขภาพที่สำคัญที่สุดจึงเป็นการพักผ่อนที่เพียงพอ แต่ถึงอย่างนั้นเธอเองก็มีปัญหาสุขภาพที่อยากแก้ไข “สำคัญที่สุดคือการนอน ทุกครั้งที่สุขภาพหนูแย่ก็เพราะนอนไม่พอ ทำให้มีผลกระทบกับร่างกายหลายๆ อย่าง ทำให้ป่วยง่ายบ้าง”

“หนูรู้สึกว่าแต่ละคนมีปัญหาการดูแลสุขภาพของตัวเองที่แตกต่างกัน บางคนไม่ค่อยดื่มน้ำ ไม่ค่อยออกกำลังกาย ไม่ค่อยพักผ่อน แต่สำหรับหนูคือเป็นคนดื่มน้ำน้อย ก็ต้องค่อยๆ ปรับ หาทางแก้ไข ก่อนหน้านี้ใช้แอพพลิเคชั่นตั้งเตือนการดื่มน้ำ ปรากฏว่าไม่สำเร็จเพราะแจ้งเตือนเสียงดังในเวลาที่ไม่สะดวกดื่มน้ำ ก็ทำให้พลาด สรุปไม่ได้ดื่ม

“ตอนนี้ลองแก้ปัญหาใหม่ ด้วยการใช้กระบอกน้ำใหญ่ๆ ใส่น้ำได้ 2000 ml พกติดตัว ทุกเช้าจะใส่น้ำจนเต็ม พอประมาณ 3 ทุ่มจะดูว่าเหลือน้ำเท่าไหร่ ซึ่งในแต่ละวันไม่ควรเหลือเกิน 500 ml เป็นการบังคับตัวเองไปในตัว และถ้าวันนี้ดื่มน้ำไม่ตามเป้า พรุ่งนี้ก็ต้องเริ่มใหม่”

ออกกำลังกาย

เห็นรูปร่างดีแบบนี้ปุ๊กลุกบอกว่า เธอเป็นคนสนุกกับการกินมากคนหนึ่งเลยทีเดียว “หนูออกกำลังกายวันละ 1-3 ชั่วโมง เพราเป็นคนไม่ควบคุมอาหาร โดยเฉพาะช่วงที่ผ่านมาที่ไม่ได้ทำงาน แต่พอกลับมาทำงานก็เลือกอาหารมื้อเย็นที่ไม่ทำให้อ้วนมาก อาจจะเป็นสลัด หรืออกไก่

“สำหรับตารางการออกกำลังกายจะเริ่มต้นด้วยการวิ่งประมาณ 45 นาที – 1 ชั่วโมง แล้วต่อด้วยเวทเทรนนิ่ง ซึ่งเรียนกับเทรนเนอร์แบบออนไลน์ โดยแต่ละอาทิตย์จะเน้นการออกกำลังในส่วนที่แตกต่างกันไป อาจจะอาทิตย์ที่แล้วเน้นสะโพก อาทิตย์นี้เน้นกล้ามท้อง ก็จะทำให้เราได้ออกกำลังกายทุกสัดส่วน และไม่จำเจ”

ดูแลผู้ป่วย อย่าลืมดูแลตัวเอง

ก่อนหน้านี้ไม่นานเรารู้ข่าวคุณแม่ของปุ๊กลุกบาดเจ็บ และอีกหนึ่งข่าวที่เคียงกันมาคือการที่เธออยู่ใกล้ชิดดูแลไม่ห่าง เพราะต่างก็เป็นแม่ลูกที่รักและสนิทกันอย่างมาก ในห้วงเวลานั้นไม่เพียงเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับคนเป็นลูก แต่ในฐานะคนดูแลผู้ป่วยเองก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นเดียวกัน หากจิตใจไม่เข้มแข็งพอก็อาจถูกบั่นทอน จนล้มป่วยไปอีกคน

“หนูอยู่กับคุณแม่ตลอด ทุกวันมีแต่ข่าวร้าย ซึ่งสิ่งที่ทำเราได้ก็มีเพียงแค่รับรู้ และแก้ปัญหาไปวันต่อวัน

จึงต้องพยายามไปสนใจเรื่องอื่นๆ เพราะสิ่งที่ทำให้เราทุกข์ใจมันมากพอแล้ว

“อย่างหนูเลือกที่จะสนใจกับการออกกำลังกาย ลงเรียนกับเทรนเนอร์ จากที่เมื่อก่อนแค่วิ่งอย่างเดียว เพราะปัญหาของคุณแม่เราทำอะไรไม่ได้นอกจากทำให้ดีที่สุด ในขณะที่ต้องเราก็ต้องเข้มแข็ง จึงต้องหาเรื่องเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเอง” นี่จึงเป็นที่มาของหุ่นฟิตๆ ของเธอ

หนึ่งคนจากไป อีกหนึ่งคนยังอยู่

หลังการสูญเสียคุณแม่ หลายคนมองว่าเธอเข้มแข็งที่สามารถฟื้นตัวกลับสู่ความสดใสได้อย่างรวดเร็ว แต่เธอบอกว่าจริงๆ แล้วมันไม่ได้ง่ายดายอย่างนั้น เพียงแต่เธอยังมีอีกหนึ่งคนสำคัญที่ต้องดูแล

“สิ่งที่หนูคิดคือจะไม่มองกลับไปข้างหลัง แต่จะมองตรงไปข้างหน้ากับชีวิตที่เหลืออยู่ ให้เติบโตขึ้น ให้แม่มองมาแล้วรู้ว่าเขาคือกำลังใจสำคัญของเรา”

เธอยอมรับว่าในช่วงแรกแห่งการสูญเสียนั้นทำให้เธอเศร้าจนไม่อาจอยู่แม้แต่ในห้องที่คุณแม่เคยอยู่ประจำ แต่สิ่งที่เธอต้องทำคือฟื้นฟูจิตใจตัวเองให้เร็วที่สุด แม้จิตใจจะยังไม่พร้อมก็ตาม “ถ้าเรามัวแต่มองย้อนกลับไปว่าทำไมแม่ล้ม ทำไมเราโชคร้าย เราก็จะจมกับความเศร้า แต่ถ้าวันที่แม่อยู่เราทำดีที่สุดแล้ว เราก็จะไม่เสียดายวันเวลาที่ผ่านมา และรู้ว่าก่อนหน้านี้คืออดีต แต่สิ่งที่เราอยู่คือปัจจุบัน

“อีกแรงใจที่สำคัญของหนูคือพ่อ เรายังมีคนสำคัญอีกคนที่ต้องดูแล ถ้าเรามัวแต่นั่งเศร้า พ่อก็จะเศร้ากว่า เพราะพ่ออายุเยอะแล้ว มีโรคประจำตัว และมีโอกาสที่จะตรอมใจ เพราะฉะนั้นหนูจึงต้องเข้มแข็ง และดึงตัวเองออกมาจากความทุกข์เศร้าให้เร็วที่สุด เพื่อจะดึงคุณพ่อออกมาด้วย เหมือนต่างก็เป็นแรงที่ช่วยพยุงกันและกัน แล้วเดินต่อไปข้างหน้า

“จนกระทั่งวันหนึ่งที่เราเดินออกมาจากความเศร้าได้ แต่หากวันไหนก็ตามที่เราบังเอิญไปเจอความคิดถึง ก็ร้องไห้ได้ไม่เป็นอะไรหรอก”