เรื่อง พระราชญาณกวี (ท่านปิยโสภณ)
ข้าพเจ้าเดินทางไปสหรัฐอเมริกา ได้มีโอกาสสนทนากับฝรั่งคนหนึ่ง ซึ่งเขาบอกว่า เขาไม่มีศาสนา
เขานับถือเฉพาะสิ่งที่พิสูจน์ได้และเป็นจริงเท่านั้น เขาไม่เชื่อในเรื่องพระเจ้า เพราะพิสูจน์ไม่ได้ และเขาบอกอีกว่า ในโลกตะวันตกวิทยาศาสตร์กำลังบั่นทอนความเชื่อในพระเจ้าอย่างรุนแรง เขาบอกว่าเด็กยุคใหม่จะไร้ศาสนา เพราะความเจริญก้าวหน้าของโลกวิทยาศาสตร์ซึ่งเชื่อในสิ่งที่สามารถพิสูจน์ได้เท่านั้น เขาเชื่อว่าพระเจ้าไม่มีจริงเพราะพิสูจน์ไม่ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใด ๆ
น่าคิด…
เป็นเวลานานนับสองพันปีแล้ว ที่มนุษย์เชื่อและตามหาพระเจ้าแต่ก็ยังไม่มีใครพบ ไม่มีใครรู้ได้ว่าพระเจ้าเป็นใคร มาจากไหน อยู่ที่ใด เชื่อกันแต่เพียงว่าเป็นผู้สร้างโลก สร้างทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่มนุษย์ แต่ความเชื่อเหล่านี้ได้ถูกวิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่าไม่จริง โลกมีวิวัฒนาการของตัวเอง แม้แต่มนุษย์หรือสัตว์บนโลกก็เช่นกัน
ข้าพเจ้าเชื่อว่า ระบบศีลธรรมที่ศาสนาเคยเป็นผู้นำ โดยยกเรื่องชาตินี้ ชาติหน้า ชาติที่แล้ว ตาย เกิด นรก สวรรค์มากล่าว อาจเป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่ต้องหาคำตอบด้วยหลักวิทยาศาสตร์ให้ได้
แต่ในขณะที่ความเชื่อเรื่องพระเจ้าเสื่อมลงอย่างมากในโลกตะวันตก ข้าพเจ้าก็ได้เห็นเมล็ดพันธุ์พืชชนิดใหม่เกิดขึ้น นั่นคือคนตะวันตกเดินเข้าหาสัจธรรมของพระพุทธเจ้ามากขึ้น เขาพิสูจน์ชีวิตจิตใจด้วยการฝึกทำสมาธิอย่างจริงจัง โดยไม่ต้องประกาศตนว่าเป็นชาวพุทธ
เขาได้รับความสุขแท้จากการทำสมาธิในพระพุทธศาสนาโดยไม่ต้องอ้อนวอนพระเจ้าให้ช่วยเหลือ เขารู้ว่าทำดีได้ดี ทำบาปได้บาป ไม่ต้องรอใครมาชำระล้างไถ่บาป แต่ชำระได้ที่ใจตน เขาบอกว่า พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาใหม่ที่คนตะวันตกในยุคที่วิทยาศาสตร์กำลังก้าวหน้าอย่างยิ่งนี้ต้องการมากที่สุด เพราะมีคำสอนเป็นเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ เน้นไปที่การสร้างพลังงานของจิต การเก็บรักษาข้อมูลทางอารมณ์ ความละเอียด ความเร็วและการเดินทางของจิต แม้กระทั่งเดินทางข้ามภพชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่คอมพิวเตอร์กำลังเลียนแบบให้ได้มากที่สุด
เพียงแต่ตอนนี้คอมพิวเตอร์ยังไม่สามารถทำงานได้เท่ากับจิตเท่านั้น