เรื่องราวของ เอลลี่ ชาร์ล็อตต์ สองหนูน้อยผู้พิการ หัวใจไม่ยอมแพ้
ที่อังกฤษมีเด็กน้อยคนหนึ่งชื่อ เอลลี่ ชาลลิส (Ellie Challis) เธอป่วยเป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบตั้งแต่อายุได้เพียง 16 เดือน และต้องถูกตัดขาและมือทั้งสองข้างเพื่อรักษาชีวิต เนื่องจากเชื้อได้เข้าทำลายหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงแขนขาของเธอ นับแต่นั้นเป็นต้นมา เธอก็กลายเป็นคนพิการที่ต้องฝึกการหยิบจับสิ่งต่าง ๆ โดยไร้นิ้วมือ และต้องหัดเดินด้วยขาเทียม เอลลี่ใช้เวลาถึง 6 ปีจึงสามารถเดินด้วยขาเทียมได้ ครอบครัวของหนูน้อยเอลลี่อดทนและต่อสู้กับอุปสรรคมากมายด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง แต่พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยครับว่า สิ่งที่พวกเขาพยายามจนผ่านพ้นไปนี้ ในวันหนึ่งจะกลายเป็นแรงบันดาลใจ เป็นกำลังใจ และเป็นเหตุผลที่ทำให้อีกครอบครัวมีแรงหายใจต่อไปด้วย
อีกเมืองหนึ่งในอังกฤษ ครอบครัวของหนูน้อย ชาร์ล็อตต์ น็อตต์ (Charlotte Nott) พบโชคร้ายเช่นนี้เหมือนกัน ชาร์ล็อตต์ป่วยด้วยโรคเช่นเดียวกับเอลลี่ เธอต้องสูญเสียแขนและขาเช่นกัน เจนนี่ เดเนียลส์ (Jenny Daniels แม่ของเธอเล่าว่า เธอรู้สึกสิ้นหวังเมื่อคิดถึงอนาคตของลูกสาว แม้ว่าหนูน้อยจะรอดชีวิต แต่การสูญเสียแขนและขาทั้งสองข้างช่างโหดร้ายอย่างยิ่ง
ต่อมาก็มีคนแนะนำให้ครอบครัวชาร์ล็อตต์รู้จักกับหนูน้อยเอลลี่ที่ตอนนั้นสามารถเดินโดยใช้ขาเทียมได้คล่องแล้วชาร์ล็อตต์มีความสุขมากที่ได้เจอกับเอลลี่และเอลลี่ก็เป็นเพื่อนที่ดีมาก เธอแสดงให้ชาร์ล็อตต์เห็นว่าเธอสามารถเดินไปไหนต่อไหนได้เช่นคนปกติด้วยขาเทียม จนทำให้ชาร์ล็อตต์มีกำลังใจและอยากทำได้บ้าง
นอกจากนี้ครอบครัวของเด็กทั้งสองก็ได้พูดคุยและให้กำลังใจกัน ทำให้แม่ของชาร์ล็อตต์มีกำลังใจและความหวังกับชาร์ล็อตต์มากขึ้น เพราะได้เห็นแล้วว่าเอลลี่สามารถใช้ชีวิตเช่นเดียวกับเด็กปกติทั่วไป แม่ของเธอเล่าว่า “เมื่อฉันได้มาเห็นเอลลี่ที่สามารถวิ่งไปไหนมาไหนได้เหมือนเด็กปกติช่างเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์มาก ๆ ทำให้ฉันมีความหวังว่าวันหนึ่งชาร์ล็อตต์จะเติบโตขึ้นมาเช่นนั้นบ้างฉันขอบคุณชาร์ล็อตต์ทุกวันที่ยังอยู่กับฉัน”
เอลลี่ เด็กน้อยที่โชคร้ายเกิดมาไม่สมบูรณ์แบบ แต่กลับเป็นกำลังใจให้ชาร์ล็อตต์และครอบครัวของเธอ ทำให้ทุกคนยังมีแรงหายใจต่อ
ผมหวังว่าเรื่องราวของ เอลลี่ และชาร์ล็อตต์ จะแสดงให้เห็นว่า แท้จริงแล้วเหตุผลที่ทำให้เราสามารถเอาชนะอุปสรรคปัญหาต่าง ๆ ในชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องประสบกับโรคภัยไข้เจ็บที่รุนแรง ความพิการและความไม่สมบูรณ์ทางร่างกายทั้งหลาย ก็คือการมองหาหลักยึดอันดีงามและมีกำลังพอที่จะนำพา ฉุดรั้งร่างกายที่อ่อนแอนั้นให้ลุกขึ้นสู้ต่อไปได้ โดยไม่หวั่นไหวต่อทุกขเวทนาที่เกิดขึ้น หลักยึดอันดีงามนี้จะนำมาซึ่งกำลังใจ แล้วกำลังใจนี้เองครับจะก่อเกิดวิริยะ คือความเพียรสู้กับความเจ็บป่วย ทำให้เราไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคทางกาย หาทางแก้ไขและรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยจิตใจตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวในโลกธรรม
และในที่สุดแล้วเราก็จะเกิดปัญญาอันเป็นความรู้ที่แท้ที่ได้จากประสบการณ์ชีวิตจริงช่วงเจ็บป่วยของเรานี่เองครับ
บทความนี้ ตัดตอนมาจากบทความ “เหตุผลที่ทำให้ยังมีแรงหายใจ (ตอนที่ 3)” เคยตีพิมพ์ในคอลัมน์ HEALING STORY นิตยสาร Secret เขียนโดย นายแพทย์ชวโรจน์ เกียรติกำพล ภาพจาก Dailymail.co.uk
บทความน่าสนใจ
รักและกำลังใจ เอาชนะ ความพิการ ได้!
เด็กดาวน์ซินโดรมผู้สร้างแรงบันดาลใจ คอลลิน คลาร์ค นักล่าฝัน หัวใจกำยำ