นอนกรน ไม่ได้หมดหนทางแก้เสียทีเดียวค่ะ อย่าเพิ่งถอดใจกันนะ ..อิ ..อิ
มาลองวิธีที่ ต่อไปนี้จะเปลี่ยนค่ำคืนแห่งเสียงกรน ให้กลายเป็นค่ำคืนที่มีแต่ความสงบ อย่างแน่นอน
อันดับแรกต้องเข้า่ใจก่อนว่า สาเหตุของการกรน เกิดจากการที่กล้ามเนื้อของอวัยวะส่วนต่าง ๆ ภายในลำคอหย่อนยาน โดยผู้ชายมีอัตราการนอนกรนมากกว่าผู้หญิง โดยเฉพาะคนอ้วน ผู้สูงวัย ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ หรือโรคจมูกอักเสบ ผู้ที่ทำงานหักโหม หรือออกกำลังกายมากเกินไป นอกจากนี้การดื่มสุรา สูบบุหรี่จัด รวมถึงผู้ที่มีอาการทางระบบประสาท ชนิดที่ส่งผลให้มีปัญหากล้ามเนื้อหย่อนยาน หรือคนที่กินยาลดเครียด ที่มีส่วนผสมของยาลดอาการกล้ามเนื้อเครียดเกร็ง ก็มีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน กินยานอนหลับก็เป็นสาเหตุที่ทำให้กรนได้ หากช่องคอแคบลงอีกเรื่อยๆ ก็จะส่งผลให้เกิดการอุดตันในช่องคอแบบชั่วคราว ทำให้ลมหายใจเข้าออกขาดหายไปชั่วขณะ กลายเป็นปรากฏการณ์ที่เรียกว่า การหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งหากใครมีอาการดังกล่าว ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ เพราะหากปล่อยเอาไว้อาจเป็นบ่อเกิดของโรคอื่นๆ ตามมา เช่น ความดันโลหิตสูง หัวใจขาดเลือด อัมพาต ตลอดจนทำให้มีปัญหากับคนใกล้ชิด
คุณอลิส โอเจย์ (Alis Ojay) ผู้อำนวนการวงดนตรี และอดีตนักวิจัยของ มหาวิทยาลัยเอ็กซิเตอร์ ประเทศอังกฤษ จึงคิดค้นโปรแกรมการเปล่งเสียง (หรือเรียกได้ว่าการร้องเพลง) สำหรับคนที่มีปัญหาการ “นอนกรน” โดยเฉพาะ และได้นำร่องใช้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาลเอ็กซิเตอร์ไปแล้ว และพบว่า การร้องเพลงหรือฝึกเปล่งเสียงดังกล่าว ช่วยสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อช่องคอ และช่วยลดอาการนอนกรนได้อย่างเห็นผล
วิธีการร้องเพลงที่ว่า คือ การฝึกเปล่งเสียง ” อัง – ก๊า – อัง – ก๊า ” ติดต่อกันนานประมาณ 10 – 15 นาที วิธีนี้จะช่วยบริหารกล้ามเนื้อช่องคอ ที่เคยเป็นสาเหตุของการกรน ให้เเข็งแรงขึ้น และไม่หย่อนยานนั่นเอง
นอกจากนี้ การฝึกร้องเพลงในเวลาเช้า จะช่วยเรียกพลังให้กับเส้นเสียงได้ตลอดทั้งวันอีกด้วย แต่แนะนำว่า ผู้ฝึกควรเลือกเวลาที่เหมาะกับความสะดวกของตัวเองดีกว่า
อ้อ! นอกจากวิธีร้องเพลงแล้ว การควบคุมน้ำหนัก ก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะอย่างที่ทราบกัน ความอ้วนเป็นสาเหตุหลักอย่างหนึ่งของอาการนอนกรน เพราะไขมันที่สะสมบริเวณช่องทางเดินหายใจบริเวณคอ ถูกเบียดให้เล็กลง รวมทั้งไขมันที่หน้าอกและท้องก็ยังเป็นภาระให้ร่างกายต้องหายใจหนักขึ้น และใช้พลังงานในการหายใจมากขึ้น ดังนั้นการลดน้ำหนักจะช่วยทุเลาอาการกรนได้
อีกทั้ง การจัดท่านอน ก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยควรพยายามจัดท่านอน เพื่อป้องกันการหายใจทางปาก โดยการนอนตะแคงงอข้อศอก เพื่อให้มือข้างหนึ่งยันคางไว้เป็นการปิดปาก หรืออาจใช้หมอนหนุนหลังเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้พลิกมานอนหงาย อาจฝึกด้วยการนอนในที่แคบๆจนเคยชินก็ได้ หรือจะลองใช้ลูกเทนนิสสอดไว้ในเสื้อนอนด้านหลัง ความไม่สบายนี้จะช่วยเตือนให้คุณหลับในท่าตะแคงได้โดยตลอด
หลังจากนี้หวังว่า “อาการกรน” ของคุณคงจะดีขึ้นนะคะ
ขอบคุณภาพจาก pixabay