จะทำอีกซักกี่ “เคมี” ผมก็ไม่มีเสีย
จะะตามแฟชั่นทั้งที ทั้งทรงผม สีผมก็ต้องจัดเต็ม แต่พอจัดเต็มผมก็เสีย ชี้ฟู แถมยังแตกปลายเป็นหลายแฉก ก็เลยไม่กล้าโชว์ผม วนเป็นวงจรอย่างนี้ เอาละ! วันนี้เรามีเคล็ด (ไม่) ลับดี ๆ ที่จะบํารุงให้ผมสวยตามแฟชั่นทันทุกสไตล์ แถมไม่พ่ายต่อ เคมี มาฝากกัน
ดูแลให้ดีก่อนทําสี
- ตรวจดูให้มั่นใจว่า หนังศีรษะไม่มีแผล หรือรอยฟกช้ำก่อนการทําสีผม
- หากกลัวแพ้เคมีในน้ำยาเปลี่ยนสีผม ให้ทดสอบการแพ้ที่ท้ายทอย หรือหลังใบหูสัก 15 นาที ก่อนการทําสี
- ไม่ควรสระผม หรือเกาหนังศีรษะก่อนการทําสี เพราะทําให้น้ำมันตามธรรมชาติบนหนังศีรษะถูกชําระล้างออกไป อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองขณะทําสี
- หลีกเลี่ยงการสระผม 48 ชั่วโมงหลังการทําสีผม เพื่อให้สีติดทนนานยิ่งขึ้น
บํารุงหลังทําสี
- อบไอน้ำ เหมาะสําหรับผมที่อ่อนแอ หรือแข็งกระด้าง เพราะทําให้เซรั่ม หรือครีมบํารุงผมสามารถแทรกซึมเข้าไปถึงเกล็ดผม ทําให้เกล็ดผมปิด และเรียงตัวได้ดีขึ้น
หากจะใช้หมวกอบไอน้ำที่สามารถทําเองได้ที่บ้าน ให้ชโลมครีมบํารุงผมลงบนผมที่หมาด ค่อนไปทางเปียก เพื่อไม่ให้ความร้อนทําให้ผมแห้งกว่าเดิม ใครไม่มีหมวกอบไอน้ำ สามารถหมักผม แล้วใช้หมวกคลุมอาบน้ำชนิดพลาสติกคลุมไว้ จากนั้น ใช้ดรายร์เป่าผมเป่าอังลมร้อนเหนือหมวก ควรอบไอน้ำไม่เกิน 15 นาที
- ใช้แชมพูสําหรับผมทําสีโดยเฉพาะ เพราะทุกครั้งที่ผมโดนน้ำ หรือความชื้น เกล็ดผมจะเปิดออก ทําให้สีผมหลุดออกมาตามชั้นสีผม แต่แชมพูสําหรับผมทําสีจะช่วยป้องกันไม่ให้สีผมหลุด ถนอมสีผมให้ติดทนนาน ที่สําคัญ มีสารบํารุงมากกว่าแชมพูประเภทอื่น เหมาะกับผมที่อ่อนแอจากการทําสี
เคล็ด (ไม่) ลับบํารุงอย่างล้ำลึก
- เช็ดผมให้แห้งหมาด 70 เปอร์เซ็นต์ก่อนลงครีมนวด เพราะถ้าผมยังเปียกชุ่ม จะทําให้ครีมนวดไม่สามารถแทรกซึมผ่านเข้าไปสู่เกล็ดผมได้ คิดภาพฟองน้ำที่มีน้ำชุ่มอยู่แล้ว จนไม่สามารถดูดซับน้ำเข้าไปได้อีก
- ทิ้งเวลาครีมนวด หรือครีมบํารุงผมตามที่ผลิตภัณฑ์แนะนํา เพราะเป็นเวลาที่ได้รับการวิจัยมาแล้วว่า มีประสิทธิภาพมากที่สุด ถ้าลงปุ๊บล้างปั๊บ ก็เท่ากับไม่ได้บํารุงอะไรเลย
- ซับผมเบา ๆ ห้ามขยี้ เพราะการขยี้จะทําให้เส้นผมที่เปียก และอ่อนแออยู่แล้ว เกิดการเสียดสีกัน จนเกล็ดผมเปิด ทําให้แตกปลายและขาดง่าย
ดูแลประจํา ก็ทําผมให้สวยไม่ซ้ําได้ทุกวัน
– ใช้มือสางผมเบา ๆ ทุกเช้า เพื่อป้องกันผมพันกัน
– ใช้แปรงไม้แปรงผมอย่างเบามือก่อนสระผม เพื่อให้สิ่งสกปรกที่ติดอยู่หลุดออก
– ชโลมน้ำมันมะกอกให้ทั่วเส้นผม หมักไว้ 10 นาที จึงสระผม เพื่อผมที่นุ่มสลวย
– อย่าเกา หรือขยี้ผมแรง ๆ ควรใช้ปลายนิ้วมือนวดหนังศีรษะเบา ๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และป้องกันหนังศีรษะเป็นแผล หรือเกิดรังแค
– หมั่นเล็มปลายผมทุก 8 – 10 สัปดาห์ เพื่อตัดปลายผมส่วนที่แห้งเสียทิ้งไป
– หลีกเลี่ยงการมัดผม หรือคาดผมจนตึงแน่น เพราะเป็นสาเหตุให้หนังศีรษะรับบทหนัก จนเกิดอาการเจ็บ หรือปวดศีรษะ และยังเป็นสาเหตุของผมร่วง
– หากมีเวลาควรปล่อยให้ผมแห้งเอง หรือใช้พัดลมเป่า หลีกเลี่ยงการดราย หนีบ หรือม้วนผมด้วยความร้อนสูง
– กินอาหารที่อุดมด้วยโปรตีน วิตามินบี 6 แมกนีเซียม สังกะสี เพื่อบํารุงเส้นผม เช่น เนื้อ ตับ ข้าวกล้อง กล้วย ลูกพรุน ลูกเกด ถั่ว นม และผักต่าง ๆ