เยือนขอนแก่น ดูสิมโบราณ
นอกจากส้มตำ (หมอ) ลำ แคน สิ่งที่เป็นอัตลักษณ์อีกอย่างหนึ่ง เมื่อไป เยือนขอนแก่น แดนอีสานแล้วไม่ควรพลาดชมคือสิมหรือพระอุโบสถ ที่บอกเล่าเรื่องราวทางวัฒนธรรมของคนภายในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี วันนี้เราขออาสาพาท่านผู้อ่านเที่ยวชมสิมวัดไชยศรี เพื่อเรียนรู้วิถีของชาวบ้านสาวะถี จ.ขอนแก่นกัน
ยลฮูปแต้ม วัดไชยศรี จ.ขอนแก่น
สิมหรือโบสถ์ สถานที่ประกอบพิธีสงฆ์ในสมัยก่อนของวัดไชยศรีสร้างในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2408) โดดเด่นด้วยฮูปแต้มหรือภาพเขียนสีบนฝาผนัง ซึ่งเป็นเรื่องราวของสังข์ศิลป์ชัย ภาพเขียนใช้สีน้อยสีจากวัสดุธรรมชาติที่หาได้โดยทั่วไป อาทิ สีน้ำเงินจากต้นคราม สีดำจากเขม่าควันไฟ สีแดงจากครั่ง แม้ว่าจะใช้น้อยสีแต่มีความงดงามจากภายในคือสุนทรียภาพจากศรัทธา เกิดจากการที่ชาวบ้านฟังเทศน์จนขึ้นใจเกิดเป็นฮูปแต้ม
ดร.ทรงวิทย์ พิมพ์พระภรณ์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น อธิบายเรื่องฮูปแต้มสังข์ศิลป์ชัยไว้ว่า เป็นวรรณกรรมอุษาคเนย์ที่มีหลายสำนวนเป็นมหากาพย์ที่ยิ่งใหญ่ของทั้งไทยและลาว เนื้อหาเกี่ยวข้องกับทั้งทางโลกธรรมและทางธรรม ก่อให้เกิดทั้งสุนทรียรสและสุนทรียธรรมภายใน
ด้านเทศบาลเมืองขอนแก่นยกย่องให้ตัวละครเอกทั้ง 3 จากเรื่องสังข์ศิลป์ชัย คือ สีโห ศิลป์ชัย และสังข์ทอง เป็นสัญลักษณ์ของเมือง เนื่องจากเมืองขอนแก่นมีต้นทุนด้านเรื่องราวสังข์ศิลป์ชัยสูงมาก โดยวรรณกรรมเรื่องนี้ได้รับการปริวัตรมาจากคัมภีร์ใบลาน ซึ่งเป็นวัฒนธรรมร่วมระหว่างจังหวัดร้อยเอ็ดและมหาสารคามต่างจากภาคกลางที่ยกย่องวรรณกรรมเรื่องพระเวชสันดรชาดก
วรรณกรรมเรื่องสังข์ศิลป์ชัยที่โดดเด่นในสิมอีสานมีอยู่ 4 ที่ คือ 1. สิมวัดไชยศรี จ.ขอนแก่น 2. สิมวัดสนวนวารี
พัฒนาราม จ.ขอนแก่น 3. สิมวัดสระบัวแก้ว จ.ขอนแก่น และ 4. สิมวัดตาลเรือง จ.มหาสารคาม
นอกจากนี้วรรณกรรมเรื่องสังข์ศิลป์ชัยยังได้รับการดัดแปลงไปเป็นหมอลำรูปแบบพิเศษ ที่เรียกว่าหมอลำกกขาขาว
อีกด้วย
สิมวัดไชยศรีเปิดให้เข้าชมทุกวัน
*หมายเหตุ สตรีห้ามเข้าโบสถ์
ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
บทความที่น่าสนใจ
3 สิ่งห้ามพลาดชมใน วัดพระแก้ว จ.เชียงราย
เยือนโบสถ์พุทธกลิ่นอายฝรั่ง ณ วัดนิเวศธรรมประวัติ
ตามรอยพระบาทยาตรา “องค์สัมมาสัมพุทธเจ้า” ที่ วัดพระพุทธบาท สระบุรี
บ้านภูตะวัน ธรรมะท่ามกลางขุนเขา ณ จังหวัดนครราชสีมา