บัตรเครดิต ต้นกำเนิดบัตรเล็กสุดมหัศจรรย์ในกระเป๋าคุณ
ใครจะรู้ว่าบัตรพลาสติกใบเล็กๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการซื้อสินค้าและบริการอย่าง บัตรเครดิต ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้เกิดจากนวนิยายเรื่อง Looking Backward ที่จุดประกายให้กับ แบงก์อเมริการ์ด ออกบัตรเครดิต “วีซ่า” ออกมา
“พกเครดิตไว้ในกระเป๋าคุณสิครับ” เป็นสโลแกนโฆษณาเปิดตัวบัตรแบงก์อเมริการ์ด ในปีค.ศ.1958
ในปีที่สองของการเปิดให้บริการ แบงก์อเมริการ์ด (ต่อมาเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นวีซ่า) ต้องสูญเงิน 9 ล้านดอลลาร์ ในปี ค.ศ.1958 ธนาคารแห่งอเมริกาเปิดตัวบัตรเครดิต ด้วยการส่งให้ลูกค้า 60,000 คนในเมืองเฟรสโน รัฐแคลิฟอร์เนีย
ขณะนั้นคู่แข่งของธนาคาแห่งอเมริกาต่างจับตามองอย่างใกล้ชิด และสังเกตเห็นการขาดทุนที่เพิ่มขึ้นมหาศาลเพราะพ่อค้าแม่ขายต่างผงะเรื่องค่าธรรมเนียม นอกจากนี้การโกงบัญชีและการไม่ชำระหนี้ก็เกิดขึ้นเกินกว่าที่คาดไว้ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่จะเหลือคู่แข่งใจกล้าเพียงไม่กี่ราย
กลางทศวรรษ 1960 สถานการณ์กลับพลิกผัน จำนวนผู้ค้าปลีกที่ใช้บัตรเพิ่มจาก 300 รายเป็น 35,000 ราย ยอดขายเพิ่มขึ้น 25 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ธนาคารเก็บเกี่ยวผลกำไรเป็นสิบๆ ล้านดอลลาร์ หัวหน้าฝ่ายสินเชื่อของธนาคารแห่งอเมริการำลึกถึงสาเหตุที่ทำให้ประสบความสำเร็จว่า “เป็นหนึ่งในความลับที่รักษาไว้เป็นอย่างดีที่สุดนับตั้งแต่ค้นพบระเบิดปรมาณูเลยเชียว”
กว่าธนาคารอื่นๆ จะตระหนักว่าบัตรเครดิตติดลมบนและทำกำไรได้เป็นอย่างมาก แบงก์อเมริการ์ดก็ได้จับจองพื้นที่เป็นผู้นำในตลาดเป็นเวลาหลายปี ไม่นานบัตรที่มีชื่อว่ามาสเตอร์ชาร์จก็ออกตามมาในปี ค.ศ. 1967 และเปลี่ยนชื่อเป็นมาสเตอร์การ์ดในปี ค.ศ. 1979 จากนั้นก็ขึ้นแท่นเป็นบัตรเครดิตแถวหน้าอีกใบของโลก
ความจริงธนาคารแห่งอเมริกาไม่ได้เป็นต้นคิดเรื่องบัตรเครดิต จริงๆ แล้วนักเขียนชื่อเอ็ดเวิร์ด เบลลามี คิดคำนี้ขึ้นในปี ค.ศ.1888 ในนวนิยาย Looking Backward ที่บรรยายถึงสหรัฐอเมริกาในอนาคต ในต้นศตวรรษที่ 20 ร้านค้าหลายแห่งได้ออกบัตรให้ลูกค้าของตนเพื่อใช้ในการซื้อเชื่อ
ปี ค.ศ.1949 ไดเนอร์สคลับเริ่มเสนอบัตรที่ใช้ได้ในภัตตาคารบางร้านในนิวยอร์กและค่อยๆ ขยายไปสู่โรงแรมและร้านค้ารายย่อย บัตรไดเนอร์สคลับเป็นเหมือนบัตรเรียกเก็บเงินมากกว่าบัตรเครดิต กล่าวคือ จะต้องจ่ายยอดเต็มในทุกๆ สิ้นเดือน ธนาคารต่างๆ พยายามออกบัตรมาใช้ในท้องถิ่นด้วยเช่นกัน
แต่บัตรเครดิตที่ประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ทั้งๆ ที่ผู้ใช้บัตรบางรายไม่ได้เป็นลูกค้าของธนาคารด้วยซ้ำ เป็นของธนาคารแห่งอเมริกา (วีซ่า) นอกจากนี้บัตรของธนาคารแห่งอเมริกายังเสนอ “เครดิตหมุนเวียน” ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าจ่ายเงินขั้นต่ำได้ในแต่ละเดือน ผลที่ตามมาคือ มีการออกวีซ่ามากกว่า 1.4 พันล้านใบ และเกิดการใช้จ่ายมากกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
ถึงจะเป็นบัตรวิเศษที่ทำให้เราจับจ่ายใช้สอยได้อย่างทันใจ แต่ก่อนจะรูดแต่ละทีขอให้มีสติกันไว้นะทู๊กคนนน
อ้างอิงข้อมูลจาก
มหัศจรรย์มันสมอง 100 สิ่งประดิษฐ์เปลี่ยนโลก สำนักพิมพ์อมรินทร์
บทความที่น่าสนใจ